Advertisement

Advertisement

Apple จะผลิตรถยนต์ไม่มีพวงมาลัย ไร้คนขับ เปิดตัวปี 2025

Apple จะผลิตรถยนต์ไม่มีพวงมาลัย ไร้คนขับ เปิดตัวปี 2025

Advertisement

Advertisement

ล่าสุดมีสื่อรายงานว่า Apple วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดยไม่มีพวงมาลัย และ คันเหยียบในปี 2025

หากมันเป็นเช่นนี้จริง รถยนต์ดังกล่าวมันจะถึงขั้นระดับ Autopilot L5 ซึ่งไร้คนบังคับ สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวมันเอง

โครงการรถยนต์ไฟฟ้าของ Apple ที่มีข่าวลือมายาวนานนี้มีชื่อว่า “Special Projects Group” หรือ “Project Titan” ได้เริ่มก่อตั้งในปี 2014

ในเดือนกันยายนของปีนี้ Doug Field เจ้าหน้าที่บริหารของ Apple (Doug Field) ได้ลาออกจาก Apple และ มาร่วมงานกับ Ford ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีอาวุโส หลังจากที่ Field จากไป Apple ได้แต่งตั้ง Kevin Lynch หัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ (Kevin Lynch) ให้เป็นผู้นำโครงการรถยนต์ของ Apple

Apple ไม่เพียง แต่หวังที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังหวังที่จะสร้างรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองเต็มรูปแบบคันแรกของโลก ด้วยการออกแบบในอุดมคติของรถคันนี้ควรจะไม่มีพวงมาลัย และ คันเหยียบ

แม้ว่า Apple ไม่ต้องการติดตั้งพวงมาลัย แต่บริษัทมีแผนที่จะรวมโหมดที่สามารถเข้าควบคุมในยามฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัย และ มั่นใจสำหรับผู้ขับขี่

ในเดือนกรกฎาคมของปีนี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า Apple ได้ตัดสินใจผลิตแบตเตอรี่สำหรับ “Apple Cars” ในสหรัฐอเมริกา แทนที่จะซื้อแบตเตอรี่จากซัพพลายเออร์ในประเทศอื่น

Autopilot มี 5 ระดับ ได้แก่

  • ระดับ 1 จะมีระบบอัตโนมัติ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น การบังคับเลี้ยวหรือการเร่งและรักษาคุมความเร็วคงที่ รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งสามารถควบคุมยานพาหนะไว้ในระยะที่ปลอดภัยต่ออุบัตเหตุ ซึ่งคุณสมบัติ Level 1 ยังต้องการวิจารณญาณของมนุษย์คนขับ ตรวจสอบการใช้ฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ร่วมด้วย
  • ระดับ 2 จะมีระบบ ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวอัตโนมัติคู่กับระบบความคุมอัตรเร่งและปรับความเร็วให้ทำงานประสานกันผ่านกลไกการควบคุมที่ซับซ้อน… ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทุกค่ายล้วนใส่เงินไปกับการวิจัยระบบ ADAS ต่อเนื่องมานาน ซึ่งระบบ ADAS ที่มีชื่อเสียงและสอบผ่านมาตรฐาน Level 2 รุ่นแรกๆ จนได้ทดสอบ
  • ระดับ 3 จะมีความสามารถในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเช่น การเร่งแซงรถที่ช้า แต่ระบบก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ แม้มนุษย์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งถือพวงมาลัย… แต่ผู้ขับขี่จะต้องตื่นตัวและพร้อมที่จะเข้าควบคุมทันทีหากระบบผิดพลาด ซึ่งส่วนใหญ่ระบบจะออกแบบให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา และหาก Condition หรือเงื่อนไขการทำงานในระบบผิดพลาด… รถจะมีฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ติดมาด้วย
  • ระดับ 4 ไม่ต้องมีมนุษย์คอยช่วยเหลือในยามเข้าตาจนเหมือน Level 3 อีกเลย แม้จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นทั้งในระบบและสภาพแวดล้อมภายนอก หรือแม้แต่เกิดขัดข้องขึ้น พาหนะ Level 4 ก็จะจัดการความผิดปกติและบกพร่องทั้งหลายได้เอง โดยพึ่งพาและปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะผู้โดยสาร มากกว่าจะพึ่งพามนุษย์ในฐานะผู้ควบคุมปกป้องความผิดพลาด พาหนะ Level 4 สามารถทำงานในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง หรือ Self-Driving Mode ได้อย่างสมบูรณ์
  • ระดับ 5 ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากมนุษย์อีก เพราะระบบจะทำงาน Dynamic Driving Task เต็มประสิทธิภาพ เทียบเท่าระดับเดียวกับหรือดีกว่ามนุษย์ที่มีทักษะการขับรถยอดเยี่ยมที่สุด… พาหนะ Level 5 จึงไม่มีแม้แต่พวงมาลัย แป้นเหยียบคันเร่งและแป้นเบรก ทำให้พาหนะ Level 5 เป็น Fully Autonomous Cars ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จของการพัฒนายานพาหนะบนผิวพื้นยุคต่อไป… ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า กฏหมายและโครงสร้างพื้นฐานของ Smart City

ภาพเรนเดอร์โดย Vanarama

Autohome

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้