ยอดจดทะเบียน B-SUV/ CROSSOVER ในประเทศไทยเดือนเมษายน 2568 รวมทั้งหมด: 7,276 คัน

ยอดจดทะเบียน B-SUV/ CROSSOVER ในประเทศไทยเดือนเมษายน 2568 รวมทั้งหมด: 7,276 คัน
Spread the love

Advertisement

Advertisement

ยอดจดทะเบียน B-SUV/ CROSSOVER ในประเทศไทยเดือนเมษายน 2568 รวมทั้งหมด: 7,276 คัน

  1. TOYOTA YARIS CROSS : 2,754 คัน

  2. HONDA HR-V : 1,969 คัน

  3. TOYOTA COROLLA CROSS : 1,218 คัน

  4. BYD ATTO 3 : 352 คัน

  5. AION Y PLUS : 175 คัน

  6. NISSAN KICKS : 117 คัน

  7. MAZDA CX-3 : 99 คัน

  8. JAECOO 6 : 93 คัน

  9. GWM HAVAL JOLION : 86 คัน

  10. OMODA C5 : 76 คัน

  11. MAZDA CX-30 : 75 คัน

  12. MG ZS : 67 คัน

  13. HONDA WR-V : 57 คัน

  14. MG ZS EV : 48 คัน

  15. MG VS HEV : 35 คัน

  16. SUBARU XV : 22 คัน

  17. ZEEKR X : 16 คัน

  18. NETA X : 16 คัน

  19. GEELY EX5 : 11 คัน

  20. HYUNDAI CRETA : 7 คัน

ผู้นำตลาดชัดเจน

  • TOYOTA YARIS CROSS ยอด 2,754 คัน คิดเป็นประมาณ 38 เปอร์เซ็นต์ของตลาด นี่คือการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ครองใจคนเมืองได้ชัดเจน ทั้งจากราคา ความสดใหม่ และความน่าเชื่อถือของแบรนด์

  • HONDA HR-V ยอด 1,969 คัน แม้จะเปิดตัวมานาน แต่ยังยืนหนึ่งในใจลูกค้าสายเรียบหรู สะท้อนถึงฐานแฟนเดิมที่ยังเหนียวแน่น

  • TOYOTA COROLLA CROSS ยอด 1,218 คัน ยังขายได้เรื่อย ๆ แม้จะเริ่มถูกเบียดโดย YARIS CROSS จากบ้านเดียวกันเอง


รถพลังงานทางเลือก เริ่มมีที่ยืน แต่ยังไม่เบียดเบอร์ต้นได้

  • BYD ATTO 3 มียอด 352 คัน นำกลุ่ม EV อย่างชัดเจน แต่อัตราเติบโตเริ่มชะลอ

  • AION Y PLUS ยอด 175 คัน ถือว่าเปิดตัวได้โอเคในช่วงเริ่มต้น

  • MG ZS EV, MG VS HEV, ZEEKR X, NETA X, GEELY EX5 มียอดเฉลี่ยต่ำกว่า 50 คัน ยังต้องอาศัยเวลาและการสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและบริการ


กลุ่มที่ยอดขายต่ำ ยังขาดแรงจูงใจหรือความเด่นชัดในตลาด

  • HYUNDAI CRETA ยอด 7 คัน สะท้อนว่าขาดการสื่อสารแบรนด์หรือกลยุทธ์ราคาในไทย

  • SUBARU XV, MAZDA CX-3, MAZDA CX-30, HONDA WR-V ยอดต่ำกว่า 100 คันทั้งหมด อาจมาจากอายุรุ่นที่มากขึ้น หรือขาดจุดขายที่แตกต่าง

ยอดจดทะเบียน B-SUV/ CROSSOVER ในประเทศไทยเดือนมกราคม – เมษายน 2568 รวมทั้งหมด: 33,499 คัน

  1. TOYOTA YARIS CROSS : 13,155 คัน

  2. HONDA HR-V : 8,187 คัน

  3. TOYOTA COROLLA CROSS : 5,391 คัน

  4. AION Y PLUS : 1,003 คัน

  5. BYD ATTO 3 : 793 คัน

  6. NISSAN KICKS : 760 คัน

  7. JAECOO 6 : 594 คัน

  8. NETA X : 545 คัน

  9. OMODA C5 : 470 คัน

  10. GWM HAVAL JOLION : 469 คัน

  11. MAZDA CX-30 : 413 คัน

  12. MAZDA CX-3 : 373 คัน

  13. HONDA WR-V : 357 คัน

  14. MG ZS : 301 คัน

  15. MG ZS EV : 200 คัน

  16. MG VS HEV : 180 คัน

  17. ZEEKR X : 160 คัน

  18. SUBARU XV : 75 คัน

  19. HYUNDAI CRETA : 62 คัน

  20. GEELY EX5 : 11 คัน

ผู้นำตลาด 3 อันดับแรก

  1. TOYOTA YARIS CROSS — 13,155 คัน
    ครองสัดส่วนกว่า 39 เปอร์เซ็นต์ของตลาดในกลุ่มนี้ เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซจากโตโยต้า ด้วยดีไซน์ใหม่ ราคาเริ่มต้นไม่แรง และความเชื่อมั่นในแบรนด์ ทำให้เป็น “รถครอบครัวคันแรก” ของใครหลายคนได้ง่ายมาก

  2. HONDA HR-V — 8,187 คัน
    แม้จะอยู่ในตลาดมาหลายปี แต่ยอดยังแข็งแรงต่อเนื่อง สะท้อนถึงฐานแฟนฮอนด้าที่เหนียวแน่น และภาพลักษณ์ที่เรียบหรู พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ให้มาเต็ม

  3. TOYOTA COROLLA CROSS — 5,391 คัน
    ยอดเริ่มลดลงต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากการเปิดตัว Yaris Cross ที่กินกลุ่มลูกค้าบางส่วนไป แต่ยังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้ที่เน้นความอเนกประสงค์


รถพลังงานใหม่ (EV / HEV) เริ่มมีที่ยืน

  • AION Y PLUS — 1,003 คัน, BYD ATTO 3 — 793 คัน, NETA X — 545 คัน, MG ZS EV — 200 คัน, ZEEKR X — 160 คัน, MG VS HEV — 180 คัน
    รถไฟฟ้าจีนกำลังสร้างฐานลูกค้าได้จริง โดยเฉพาะ AION Y PLUS ที่ทะลุหลักพันคันได้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านจาก ICE สู่ BEV ในกลุ่ม B-SUV
    อย่างไรก็ตาม ยอดรวมของ EV ยังต่ำกว่า 15% ของกลุ่มทั้งหมด ซึ่งสะท้อนว่า การตัดสินใจซื้อ EV ยังต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น ราคารถและโครงสร้างพื้นฐาน


กลุ่มรถญี่ปุ่นรุ่นเก่าเริ่มแผ่ว

  • NISSAN KICKS — 760 คัน, MAZDA CX-30 — 413 คัน, CX-3 — 373 คัน, HONDA WR-V — 357 คัน
    รถเหล่านี้เริ่มอิ่มตัวด้านดีไซน์หรือเทคโนโลยี และอาจถูกมองว่าให้ความคุ้มค่าน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งจีนหรือรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นเอง


รถน้องใหม่จากจีน มีบางรุ่นเริ่มติดตลาด

  • JAECOO 6 — 594 คัน, OMODA C5 — 470 คัน, GWM HAVAL JOLION — 469 คัน
    แม้จะไม่ติด Top 5 แต่ถือว่าเติบโตเร็วในกลุ่มรถใหม่ ขณะที่ HAVAL JOLION เริ่มนิ่งลงหลังอยู่ตลาดมานาน


กลุ่มยอดต่ำ มีโอกาสถูกแทนที่ในตลาด

  • SUBARU XV — 75 คัน, HYUNDAI CRETA — 62 คัน, GEELY EX5 — 11 คัน
    แบรนด์เหล่านี้ยังไม่สามารถสร้างความนิยมในตลาด B-SUV ได้ชัดเจน อาจเพราะปัจจัยด้านราคา การกระจายศูนย์บริการ หรือขาดความแตกต่างจากคู่แข่ง


แนวโน้มต่อจากนี้

  • B-SUV จะยังคงเป็นกลุ่มหลักในตลาดรถยนต์นั่งของไทย

  • รถพลังงานใหม่ โดยเฉพาะ EV จากจีน จะเร่งเครื่องอย่างรวดเร็ว หากภาครัฐยังคงสนับสนุนราคาหรือสถานีชาร์จ

  • ค่ายญี่ปุ่นจะถูกบีบให้ปรับกลยุทธ์รุ่นกลางใหม่ ๆ ให้ทันเทรนด์ราคาประหยัด + เทคโนโลยีล้ำ

  • Toyota และ Honda ยังนำอยู่ แต่การแข่งขันจะเริ่มเบียดกันในช่วงครึ่งปีหลังอย่างเข้มข้น

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้