19 รายชื่อรถยนต์ BYD ที่จะเปิดตัวภายในปี 2025 ในประเทศจีน

19 รายชื่อรถยนต์ BYD ที่จะเปิดตัวภายในปี 2025 ในประเทศจีน
Spread the love
Advertisement Advertisement

Advertisement

 

19 รายชื่อรถยนต์ BYD ที่จะเปิดตัวภายในปี 2025 ในประเทศจีน (2025 PRODUCT PLANNING)

  1. BYD Qin PLUS DM-i: ระบบ DM เจเนอเรชันที่ 5 ดีไซน์คล้ายรุ่น Han
    คาดว่าจะเปิดตัวครึ่งแรกของปี 2025
  2. BYD Qin PLUS EV: อัปเกรดดีไซน์ภายนอกและภายใน
    คาดว่าจะเปิดตัวครึ่งแรกของปี 2025
  3. BYD Yuan PLUS: เพิ่มระบบขับขี่ God’s Eye
    คาดว่าจะเปิดตัวครึ่งแรกของปี 2025
  4. BYD Qin EV: รถแพลตฟอร์มไฟฟ้าหลังล้อขับ
    คาดว่าจะเปิดตัวครึ่งแรกของปี 2025
  5. BYD Han L EV และ DM-i : มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังพลังสูง ทำลายสถิติเดิม
    เปิดตัว 17 มกราคม 2024
  6. BYD Tang L EV และ DM-i : รถ SUV ระดับเรือธงของซีรีส์ราชวงศ์ อัปเกรดครั้งใหญ่
    เปิดตัว 17 มกราคม 2024
  7. BYD Dolphin: รถรุ่นเริ่มต้นที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น
    คาดว่าจะเปิดตัวครึ่งแรกของปี 2025
  8. BYD Destroyer: อัปเกรดความสวยงามของดีไซน์ภายนอก
    คาดว่าจะเปิดตัวครึ่งแรกของปี 2025
  9. BYD Seal 05 DM-i: รถซีดานรุ่นเริ่มต้นใหม่ในซีรีส์ มหาสมุทร
    คาดว่าจะเปิดตัวไตรมาสแรกของปี 2025
  10. BYD Sea Lion 05 EV: รถดีไซน์ใหม่ที่มุ่งสู่ตลาดโลก
    คาดว่าจะเปิดตัวครึ่งแรกของปี 2025
  11. BYD Sea Lion 07 DM-i: ติดตั้งเรดาร์เลเซอร์ + ระบบขับขี่ขั้นสูง
    คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2025
  12. Fang Cheng Bao 3 : รถสายลุยแบบครอบครัว
    คาดว่าจะเปิดตัวครึ่งแรกของปี 2025
  13. DENZA N8 ใหม่: รุ่นเล็กของ “DENZA N9”
    คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2025
  14. DENZA N9: รถ SUV ระดับเรือธงที่เพิ่มความแข็งแกร่งของแบรนด์
    คาดว่าจะเปิดตัวไตรมาสแรกของปี 2025
  15. DENZA Sport Car : สมรรถนะเทียบเท่ารถ Porsche
    คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2025
  16. DENZA รุ่นที่เทียบกับ Mercedes-Benz S-Class:
    คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2025
  17. DENZA รุ่นที่เทียบกับ Mercedes-Benz E-Class:
    คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2025
  18. DENZA  MPV ขนาดใหญ่ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง (ราคาประมาณ 5-6 แสนหยวน):
    คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2025
  19. Yangwang U7: SUV ไฟฟ้าระดับเรือธงพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย
    คาดว่าจะเปิดตัวไตรมาสแรกของปี 2025

กลยุทธ์และแผนพัฒนาของ BYD ในปี 2025 ในประเทศจีน

1. การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV)

  • เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใบมีดรุ่นที่ 2 (Second-generation Blade Battery) จะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา:
    • ความหนาแน่นพลังงานเพิ่มขึ้น 35% โดยคาดว่าจะมีความหนาแน่นพลังงานถึง 190 Wh/kg ซึ่งช่วยเพิ่มระยะการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าให้ใกล้เคียง 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ในบางรุ่น
    • ใช้ อิเล็กโทรไลต์ใหม่ ลดความต้านทานภายในของแบตเตอรี่ และมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในสภาพอากาศเย็น
    • รองรับ การชาร์จเร็วพิเศษ ด้วยอัตราการชาร์จที่สูงกว่า 5.5C ทำให้มีความเร็วในการชาร์จที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
    • ระบบ การจัดการความร้อนที่ดีขึ้น เพิ่มความปลอดภัยของแบตเตอรี่ และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
    • การออกแบบโครงสร้างแบตเตอรี่ใหม่ ช่วยลดขนาดแบตเตอรี่และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยของรถยนต์

2. การพัฒนารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

  • จะมีการเปิดตัว แบตเตอรี่ใบมีดรุ่นที่ 2 ที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ในโหมดไฟฟ้า (EV Mode)

3. การยกระดับเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Driving)

  • เพิ่มขีดความสามารถด้านระบบขับขี่อัจฉริยะในรถยนต์ทุกระดับราคา:
    • รถราคาประหยัด เช่น BYD Seagull ก็จะติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะ
    • ใช้กลยุทธ์ พัฒนาร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีภายในและความร่วมมือภายนอก:
      • BYD พัฒนาระบบขับขี่อัจฉริยะเอง เช่น “ตาเทพ” (God’s Eye) ซึ่งใช้ในรถยนต์ Denza สำหรับการนำทางในเมือง
      • ร่วมมือกับ Huawei และ Momenta ในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Huawei ADS 3.0 ในรถยนต์ Fangcheng Leopard 8
    • มีแผนลงทุน 1 แสนล้านหยวน ในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบการขับขี่อัตโนมัติ เช่น:
      • ระบบ NOA (Navigation on Autopilot) ที่ไม่พึ่งพาแผนที่
      • โครงสร้างโมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบครบวงจร (End-to-end large model)
    • ตั้งเป้าให้ 60% ของรถยนต์รุ่นใหม่ในปี 2025 มีฟังก์ชัน NOA สำหรับการนำทางความเร็วสูง

4. AI และเทคโนโลยีแบบหลายโหมด

Advertisement

Advertisement

  • BYD จะนำ AI และโมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบหลายโหมดมาใช้ในระบบช่วยเหลือการขับขี่ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น

5. ศักยภาพการวิจัยและพัฒนา (R&D)

  • BYD มีพนักงานทั้งหมดกว่า 900,000 คน โดยในจำนวนนี้เป็นนักพัฒนากว่า 110,000 คน
  • ในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีใหม่เพิ่มอีก 60,000 คน เพื่อเร่งการพัฒนาและนวัตกรรม

6. การขยายตลาดและการเข้าถึงของเทคโนโลยี

  • นอกจากการพัฒนารถยนต์ระดับพรีเมียม BYD ยังให้ความสำคัญกับการทำให้เทคโนโลยีอัจฉริยะเข้าถึงได้ง่ายในรถยนต์ทุกระดับราคา เพื่อให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถสัมผัสกับนวัตกรรมที่ทันสมัย

BYD วางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยใช้กลยุทธ์ที่เน้นการพัฒนานวัตกรรมแบตเตอรี่ ปัญญาประดิษฐ์ ระบบขับขี่อัจฉริยะ และการวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย ทั้งหมดนี้เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้บริโภค และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดโลก

God’s Eye Intelligent Driving System 

God’s Eye Intelligent Driving System เป็นระบบช่วยการขับขี่อัจฉริยะที่ BYD พัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยมีจุดเด่นในการใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์และ AI ขั้นสูง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ระบบนี้ประกอบด้วยฟีเจอร์สำคัญดังนี้:

1. Multi-Sensor Fusion Technology

  • ใช้กล้องความละเอียดสูง, LiDAR, เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และอัลตราโซนิกในการตรวจจับสิ่งแวดล้อมรอบรถแบบ 360 องศา
  • ช่วยในการสร้างแบบจำลองเสมือนจริงรอบตัวรถแบบเรียลไทม์

2. Automated Driving Assistance

  • ระบบขับขี่อัตโนมัติระดับสูง (High-Level Autonomous Driving) ที่สามารถทำงานได้ในหลากหลายสภาพถนน
  • รองรับการเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ (Automatic Lane Change) และระบบจอดรถอัตโนมัติ (Automated Parking Assistance)

3. Intelligent Navigation System

  • ระบบนำทางอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์
  • การใช้ข้อมูลแบบ High-Definition Maps เพื่อช่วยในระบบขับขี่อัตโนมัติ

4. Safety Enhancement Features

  • ระบบตรวจจับคนเดินถนน, ยานพาหนะ และสิ่งกีดขวางในระยะไกล
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking) แบบล่วงหน้า
  • การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ขับขี่ (Driver Monitoring System)

5. Smart Interaction System

  • ใช้ AI เพื่อปรับการตอบสนองของรถให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ขับขี่
  • รองรับคำสั่งเสียงและการควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน

6. Cloud-Connected Learning

  • ระบบเรียนรู้และอัปเดตข้อมูลผ่านคลาวด์ เพื่อปรับปรุงสมรรถนะอย่างต่อเนื่อง
  • การส่งข้อมูลระหว่างรถในเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการขับขี่อัตโนมัติ

เปิดตัวปีนี้ในจีน BYD Blade EV เจนที่ 2 ลดต้นทุนได้ถึง 15% วิ่งได้สูงสุด 1,000 กม./ชาร์จ ความจุเพิ่มขึ้น

เผยภาพ BYD Yuan PLUS / ATTO 3 รุ่นปรับปรุงใหม่ MY2025 ก่อนเปิดตัวในจีนเร็วๆนี้

เผยภาพ-ข้อมูลบางส่วน BYD TANG SUV 6 ที่นั่งใหม่ BEV และ PHEV ก่อนขายจีน 17 มกราคมนี้

เผยภาพคันจริง BYD HAN L ซีดานไฟฟ้า คาดติดตั้ง Blade เจนใหม่ พร้อมระยะที่มากขึ้น

เผยข้อมูล BYD Dolphin ใหม่ 2025 ก่อนเปิดตัวจีน พร้อมออกแบบใหม่ ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ , 410 – 520 กม./ชาร์จ

เปิดตัวต้นเดือนหน้าในจีน BYD Sealion 05 EV วิ่งได้ 420 – 520 กม./ชาร์จ

เผยภาพ BYD Qin PLUS EV ปรับปรุงใหม่ MY2025 ก่อนเปิดตัวในจีน 420 – 510 กม./ชาร์จ CLTC

คาดราคาเริ่ม 700,000 บาทในจีน BYD Bao Titanium 3 เปิดตัวต้นเดือนมกราคม 2025

ภาพคันจริง BYD SEALION 07 DM-i แบตเตอรี่ 26.9kWh วิ่งไฟฟ้า 120 กม. เวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริด ก่อนเปิดตัวในประเทศจีน (เทค DM-i รุ่นที่ 5)

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้