เตรียมตัวให้พร้อม! แล้วมาสัมผัส DEEPAL S05 ตัวจริงได้ที่ Motor Show 2025 ครั้งแรกในไทย! เปิดตัวรอบสื่อ 24 มีนาคม 2025 แล้วพบกันที่บูธ DEEPAL วันที่ 26 มี.ค. – 6 เม.ย. 2568 Impact Challenger (Hall 2), เมืองทองธานี

CHANGAN Automobile ประกาศราคาจำหน่าย DEEPAL S05 REEV และ BEV ในประเทศไทย

รุ่น BEV

• LITE : 799,000 บาท
• PLUS : 849,000 บาท
• MAX : 899,000 บาท
• Max Long Range 999,000 บาท (NEW)

รุ่น REEV

• PLUS : 949,000 บาท
• MAX : 999,000 บาท

โปรแรงที่สุดแห่งปี! DEEPAL S05 BEV พร้อมข้อเสนอ Lifetime Battery Warranty

ในงาน Motor Expo 2025 ปีนี้ ถ้าคุณคือคนที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ดีไซน์ล้ำ ออปชันแน่น และคุ้มค่าที่สุด — ต้องไม่พลาด! เพราะ DEEPAL จัดโปรโมชั่นใหญ่ “Extend Your Freedom” มอบสิทธิพิเศษ รับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Battery Warranty) ฟรี! ไม่มีเพิ่ม สำหรับลูกค้าที่จอง DEEPAL S05 BEV โปรนี้บอกได้คำเดียวว่า แรงที่สุดที่เคยมีมา และให้เฉพาะช่วงงานเท่านั้น!

ไฮไลท์โปรโมชั่นเด่น

ฟรี! Lifetime Battery Warranty

ประกันแบตเตอรี่แบบ “ตลอดอายุการใช้งาน” — คุ้มที่สุดสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เพราะแบตคือหัวใจหลักของรถ EV ผู้ใช้สบายใจได้ยาว ๆ เรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคต

เฉพาะรุ่น

• DEEPAL S05 BEV Plus

• DEEPAL S05 BEV Max

เจอกันที่ Motor Expo 2025

• บูท A01 – Impact Challenger Hall 1 คุณสามารถทดลองนั่ง ทดลองขับ พูดคุยกับทีมงาน และรับสิทธิพิเศษหน้างานได้ทันที

นอกจากนี้ยังรับสิทธิ์เดียวกันได้ที่ โชว์รูม DEEPAL ทั่วประเทศ

ช่วงเวลาสำคัญ (ห้ามพลาดเด็ดขาด!)

เพื่อให้ได้สิทธิ์ Lifetime Battery Warranty ต้องทำครบดังนี้:

• จองรถ ตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2568 – 10 ธันวาคม 2568
• รับรถ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
• จดทะเบียนป้ายขาว ภายในวันที่ 31 มกราคม 2569

ทำตามครบทุกข้อ = ได้สิทธิ์ Lifetime Battery Warranty แบบเต็ม ๆ

เงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่มีรถ Deepal S05 อยู่แล้ว

ลูกค้าที่ใช้งานอยู่ สามารถอัปเกรดเข้ารับ Lifetime Warranty ได้ แต่ต้องทำตามนี้

• ตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ผ่านเครื่อง KT710
• ค่าใช้จ่ายตรวจสุขภาพแบต: 6,500 บาท

หากผ่านตามมาตรฐาน → เข้าสิทธิ์ Lifetime Warranty ทันที

เงื่อนไขทั่วไป (ทุกกรณีต้องทำตามนี้)

เพื่อให้ Lifetime Warranty คงอยู่ตลอดการใช้งาน ต้อง ดูแลตาม 4 ข้อนี้อย่างเคร่งครัด

1) ต้องทำการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา

• เช็กระยะภายใน 1 เดือนจากวันครบกำหนด
• หรือ ภายใน ±1,000 กม. ของระยะทางตามตารางบำรุงรักษา

2) จำกัดไมล์ต่อปี

• ไมล์สะสมต่อปีต้อง ไม่เกิน 50,000 กม.

❗ หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขด้านบน → สิทธิ์ Lifetime จะกลับคืนสู่เงื่อนไขปกติ ดังนี้

• มอเตอร์ + แบตเตอรี่: 8 ปี / 160,000 กม.
• PDC: 5 ปี / 120,000 กม.

3) เฉพาะ “เจ้าของแรก” เท่านั้น

• การโอนสิทธิ์ Lifetime Warranty อนุญาต เพียง 1 ครั้ง
• และต้องเป็นการโอนระหว่าง สามี–ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น

DEEPAL S05 มาพร้อมข้อเสนอพิเศษกับแพ็คเกจ S05 Premium Care ประกอบด้วย

• ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. 1 ปี (ประเภทรถยนต์ส่วนบุคคล)
• ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง
• ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่ และ สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า V2L
• รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ยกเว้นชิ้นส่วนพิเศษ วัสดุสิ้นเปลือง และชิ้นส่วนที่สึกหรอ
• รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
• ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
• ฟรี การบำรุงรักษาปีที่ 1 จำนวน 1 ครั้ง

สิ่งที่รุ่น BEV Max Long Range เพิ่มจากรุ่น Max

รุ่น BEV Max Long Range เป็นรุ่นที่ถูกอัปเกรดจากรุ่น Max เดิม เน้นเพิ่มระยะทาง ขยายความจุแบตเตอรี่ สมรรถนะดีขึ้น รวมถึงเพิ่มขนาดล้อและชุดยางใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขับเดินทางไกล หรือมองหาสมรรถนะที่สูงกว่าในงบที่คุ้มค่า

สรุปแล้ว รุ่น BEV Max Long Range ไม่เพียงเพิ่มความจุแบตเตอรี่และระยะทางวิ่งเท่านั้น
แต่ยังให้สมรรถนะดีขึ้น ล้อและยางใหญ่ขึ้น ทำให้เกาะถนนมั่นคงกว่าเดิม
พร้อมตัวเลือกภายในโทนสีดำแบบใหม่ ช่วยเพิ่มความสปอร์ตและความพรีเมียมในห้องโดยสาร

⚡ Deepal S05 มีให้เลือก 2 ขุมพลัง

รุ่น BEV (Battery Electric Vehicle) – ไฟฟ้าล้วน 100% MAX

• มอเตอร์ไฟฟ้า RWD : 272 แรงม้า PS / แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร /
• แบตฯ LFP จาก CATL: 68.82 kWh วิ่งได้ 560 กม./ชาร์จ NEDC
• อัตราเร่ง: 0-100 km/h ภายใน 6.48 วินาที
• ความเร็วสูงสุด : 180 กม./ชม.
• DC 167kWh 30-80% ภายใน 15 นาที
• AC (Type 2): รองรับสูงสุด 6.6 kW
• ระบบจ่ายไฟ V2L: สูงสุด 6.6 kW ใช้ต่อหม้อหุงข้าว, เตาปิ้ง หรือชาร์จรถคันอื่นได้

รุ่น BEV (Battery Electric Vehicle) – ไฟฟ้าล้วน 100%

• มอเตอร์ไฟฟ้า RWD : 237 แรงม้า PS / แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร /
• แบตฯ LFP จาก CATL: 56.1 kWh วิ่งได้ 480 กม./ชาร์จ NEDC
• อัตราเร่ง: 0-100 km/h ภายใน 7.3 วินาที
• ความเร็วสูงสุด : 180 กม./ชม.
• DC 15kWh 30-80% ภายใน 15 นาที
• AC (Type 2): รองรับสูงสุด 6.6 kW
• ระบบจ่ายไฟ V2L: สูงสุด 6.6 kW ใช้ต่อหม้อหุงข้าว, เตาปิ้ง หรือชาร์จรถคันอื่นได้

⚙️ รุ่น REEV (Range Extended EV) – ขับไฟฟ้า + เติมน้ำมันได้

• เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร สำหรับปั่นไฟ (ไม่ขับล้อ)
• มอเตอร์ไฟฟ้า: 217 แรงม้า PS  / 320 Nm / ขับหลัง RWD เช่นกัน
• แบตฯ LFP ขนาด 27 kWh
• วิ่งไฟฟ้าล้วน: 170 กม.
• วิ่งรวมทั้งระบบ (EV+น้ำมัน): 1,000 กม./ถังน้ำมัน
• อัตราเร่ง: 0-100 km/h ภายใน 7.9 วินาที
• ความเร็วสูงสุด : 175 กม./ชม.
• ขนาดถังน้ำมัน 44.9 ลิตร
• REEV: DC 54.4kWh  30-80% ภายใน 20 นาที
• AC (Type 2): รองรับสูงสุด 6.6 kW
• ระบบจ่ายไฟ V2L: สูงสุด 6.6 kW ใช้ต่อหม้อหุงข้าว, เตาปิ้ง หรือชาร์จรถคันอื่นได

ฟีเจอร์เด่นแบบ 

• ช่วงล่างหน้า McPherson / หลัง Multi-Link
• ล้ออัลลอย 18-20 นิ้ว ยางกว้างสุดถึง 245 มม.
• มือจับประตูแบบซ่อน (Hidden Handles)
• หลังคา Panoramic Glass แบบ Fix สุดหรู
• พวงมาลัย D-Shape / หน้าจอ 15.4 นิ้ว หมุนตามคนขับแบบ “ทานตะวัน”
• เบาะ Zero Gravity + ระบบระบายอากาศ + ปรับไฟฟ้า + มี Memory
• Cool Box 13L แช่น้ำโค้กให้เย็นฉ่ำได้กลางแดด
• ระบบปรับอากาศ 3-Zone / ช่องแอร์หลัง / ฟอกอากาศ PM2.5
• ระบบเสียงรอบทิศ 14 ลำโพง / Wireless Charge 50W
• Ambient Light 64 สี / ไฟสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่ไนต์คลับ
• กล้องรอบคัน 360° + Transparent Chassis เห็นใต้ท้องรถแบบ X-ray
• Remote Parking / ขับเข้า-ออกที่แคบได้ด้วยกุญแจ
• ADAS Level 2 + Adaptive Cruise + ถุงลม 6 ตำแหน่ง

สีภายนอก (5 สีสุดฟิน):

• Moonlight White
• Deep Space Black
• Ganymede Grey
• Mercury Silver
• Andromeda Blue

สีภายในห้องโดยสาร:

• ดำ-เทา (Black/Stone Grey)
• น้ำตาลส้ม-ดำ (Heatwave Orange/Black)

ขนาดตัวถัง Deepal S05

• ยาว 4,620 มม.
• กว้าง 1,900 มม.
• สูง 1,600 มม.
• ระยะฐานล้อ 2,880 มม.
• ระยะห่างพื้น 169 มม.

ขนาดตัวถัง Deepal S07 

• ความยาว  4,750 มม.
• ความกว้าง  1,930 มม.
• ความสูง  1,625 มม.
• ฐานล้อ  2,900 มม

ช่วงล่าง

• ระบบกันสะเทือนด้านหน้า: ระบบช่วงล่างอิสระแบบแมคเฟอร์สัน / ด้านหลัง: ระบบช่วงล่างอิสระแบบ 5 ลิงค์
• ระบบกันสะเทือนด้านหน้า: ดิสก์เบรกแบบมีรูระบายอากาศ / ด้านหลัง: ดิสก์เบรกแบบแผ่นตัน
• ระบบกู้คืนพลังงานจากการเบรก
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า
• รัศมีวงเลี้ยว 5.75 เมตร

รุ่น LITE 799,000 บาท

• ภายนอกให้เลือก 2 สี ขาว และ เทา
  • ภายใน สีดำ
• ไฟหน้า LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
• ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
• ไฟท้าย LED ดีไซน์ Star Wing
• ไฟตัดหมอกหลัง (Rear Fog Lamp)
• ไฟหน้าไม่มีระบบปรับระดับอัตโนมัติ (แต่ยังเป็น LED อยู่นะ)
• มือจับประตู เป็นแบบธรรมดา (ไม่ใช่แบบซ่อน flush door handle)
• ประตูเป็นแบบไร้ขอบกระจก (Frameless Doors)
• กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
• กระจกข้างมีระบบไล่ฝ้า
• กระจกมองข้างพับอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ
• ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
• ยางขนาด 225/60 R18
• สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม
• ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรง 159 ลิตร
• ไม่มี ที่ปัดน้ำฝนด้านหลังแบบไร้โครง
• ไม่มีระบบจดจำตำแหน่งกระจก
• ไม่มีระบบปรับองศากระจกอัตโนมัติขณะถอยหลัง
• ไม่มีระบบเปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า
• ไม่มีหลังคากระจกพาโนรามา
• ไม่มีม่านหลังคาไฟฟ้า

ภายในห้องโดยสาร

• พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่ม Shortcut
• พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
• กระจกไฟฟ้า 4 บาน เปิด-ปิดแบบ One-touch พร้อมระบบกันหนีบ
• เบาะหนังสังเคราะห์พร้อมรูระบายอากาศ
• เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
• เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
• พนักพิงเบาะหลังพับได้แบบ 60 : 40
• แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกและไฟส่องสว่าง
• ไฟอ่านหนังสือแบบ LED
• จำนวนช่องเสียบ USB: USB-A 2 ตำแหน่ง / USB-C 1 ตำแหน่ง
• ช่องจ่ายไฟแบบ 12 โวลต์

ระบบปรับอากาศ

• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
• ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
• กรองฝุ่น PM2.5

ระบบอัจฉริยะภายในห้องโดยสาร

• โหมดการขับขี่ (Eco, Comfort, Sport, Customize)
• หน้าจอสัมผัสขนาด 15.4 นิ้ว แบบซันฟลาวเวอร์
• จอแสดงผลบนกระจก HUD
• ระบบนำทางแบบออนไลน์
• ระบบเลือกโหมดสถานการณ์
• จำนวนลำโพง 8 ตำแหน่ง
• ระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยและอังกฤษอัจฉริยะ แบบ 2 โซน
• ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายขนาด 50 วัตต์ (ไม่มีในรุ่น LITE)
• รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
• กุญแจอัจฉริยะ
• ระบบควบคุมรถผ่านแอพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือ
• อัพเดท OTA

ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ

• ระบบนำรถเข้า-ออกช่องจอดในแนวตรงจากระยะไกล (RSIO)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน (IACC)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (LCC)
• ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งกีดขวางด้านข้าง (LDC)
• ระบบช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
• RSIO – ระบบนำรถเข้า-ออกช่องจอดในแนวตรงจากระยะไกล IACC
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน
• ระบบช่วยเปิดไฟสู.อัตโนมัติ HMA
• ระบบช่วยตรวจจับป้ายจราจร TSR
• ระบบช่วยเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า SDW

ระบบความปลอดภัย

• ถุงลมคู่หน้า
• ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
• กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศาแบบ 3 มิติ พร้อมระบบแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง
• ระบบบันทึกวิดีโอการขับขี่รอบทิศทาง 360 องศา (DVR)
• โหมดเฝ้าระวัง (Sentry Mode)
• ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
• ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (ESP)
• ระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HHC)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
• ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ (ROM)
• เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่ในความเร็วต่ำ (AVAS)
• เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าปรับสูง-ต่ำได้
• ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและด้านหลัง
• เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบรั้งตัวและดึงกลับอัตโนมัติ
• ระบบล็อกเพื่อป้องกันเด็กเปิดประตูจากในรถแบบไฟฟ้า
• เบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน Auto Hold
• จำนวนเซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุ: ด้านหน้า 2 / ด้านหลัง 4
• ระบบสัญญาณป้องกันขโมย
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ ISOFIX
• ระบบตรวจจับแรงดันลมยาง (TPMS)
• อุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางแบบชั่วคราว

PLUS : 849,000 บาท เพิ่มจากรุ่น 799,000 บาท

• ภายนอกให้เลือก 3 สี ขาว / เทา / เงิน
  • ภายใน สีดำ
• มือจับประตูภายนอกแบบซ่อน (Pop-up Handle)
• ที่ปัดน้ำฝนด้านหลังแบบไร้โครง
• กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
• ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ 4 โซน
• ลำโพง 8 ตำแหน่ง
• กระจกมองข้างจดจำตำแหน่ง + ปรับอัตโนมัติขณะถอย
• ม่านถุงลมด้านข้าง

รุ่น MAX 899,000 บาท เพิ่มเติมจากรุ่น PLUS 849,000 บาท

• ภายนอกให้เลือก 4 สี ขาว / เทา / เงิน / ฟ้า
  • ภายใน สีส้ม
• หลังคากระจกแบบพาโนรามา พร้อมม่านหลังคาไฟฟ้า
• ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบกันหนีบ
• ระบบจดจำตำแหน่งกระจกมองข้าง
• กระจกมองข้างปรับองศาอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
• กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
• เบาะคนขับปรับดันหลังไฟฟ้า 2 ทิศทาง
• ที่รองขาเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 2 ทิศทาง
• ระบบจดจำตำแหน่งเบาะและระบบ Easy Entry & Exit
• ระบบเป่าลมและระบบอุ่นเบาะคู่หน้า
• ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร 64 สี
• พนักผิงเบาะหลังพับได้ 60 : 40
• หน้าจอสัมผัส 15.4 นิ้วแบบซันฟลาวเวอร์
• ลำโพง 14 ตำแหน่ง
• ชาร์จมือถือแบบไร้สาย 50W
• ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ
  • ELK – Emergency Lane Keeping ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉิน
  • RCW – Rear Collision Warning
    ระบบช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนด้านหลัง
  • BSD – Blind Spot Detection ระบบช่วยแจ้งเตือนมุมอับสายตา
  • RCTA – Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง
  • RCTB – Rear Cross Traffic Brake ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง
  • LCA – Lane Change Assist ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน
  • SEW – Safe Exit Warning ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนขณะเปิดประตู
• ระบบช่วยเตือนหากมีอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DMS)

สิ่งที่รุ่น BEV Max Long Range ราคา 999,000 บาท เพิ่มจากรุ่น Max

รุ่น BEV Max Long Range เป็นรุ่นที่ถูกอัปเกรดจากรุ่น Max เดิม เน้นเพิ่มระยะทาง ขยายความจุแบตเตอรี่ สมรรถนะดีขึ้น รวมถึงเพิ่มขนาดล้อและชุดยางใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขับเดินทางไกล หรือมองหาสมรรถนะที่สูงกว่าในงบที่คุ้มค่า

รุ่น REEV

หลักการทำงานของ REEV:

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100%

• ล้อรถหมุนด้วยกำลังไฟฟ้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น
• ไม่มีการใช้เครื่องยนต์มาหมุนล้อโดยตรงเลย

มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) แต่ทำหน้าที่แค่ปั่นไฟ

• เครื่องยนต์จะทำงานเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด หรือเมื่อระบบต้องการพลังงานเพิ่ม
• พลังงานจากเครื่องยนต์จะไปชาร์จแบตฯ หรือจ่ายไฟตรงเข้ามอเตอร์ไฟฟ้า ผ่านเจนเนอเรเตอร์

วิ่งได้ไกลกว่า BEV

• เพราะมีแหล่งพลังงานสำรอง (เครื่องยนต์+น้ำมัน) ทำให้หมดห่วงเรื่อง “Range Anxiety”

ประหยัดและปล่อยมลพิษน้อยกว่า PHEV

• เพราะเครื่องยนต์ไม่ได้ทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อน
• ทำงานที่รอบคงที่ ประหยัดเชื้อเพลิง และปล่อยไอเสียน้อย

⚙️ รุ่น REEV (Range Extended EV) – ขับไฟฟ้า + เติมน้ำมันได้

• เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร สำหรับปั่นไฟ (ไม่ขับล้อ)
• มอเตอร์ไฟฟ้า: 217 แรงม้า PS  / 320 Nm / ขับหลัง RWD เช่นกัน
• แบตฯ LFP ขนาด 27 kWh
• วิ่งไฟฟ้าล้วน: 170 กม.
• วิ่งรวมทั้งระบบ (EV+น้ำมัน): 1,000 กม./ถังน้ำมัน
• อัตราเร่ง: 0-100 km/h ภายใน 7.9 วินาที
• ความเร็วสูงสุด : 175 กม./ชม.
• ขนาดถังน้ำมัน 44.9 ลิตร
• REEV: DC 54.4kWh  30-80% ภายใน 20 นาที
• AC (Type 2): รองรับสูงสุด 6.6 kW
• ระบบจ่ายไฟ V2L: สูงสุด 6.6 kW ใช้ต่อหม้อหุงข้าว, เตาปิ้ง หรือชาร์จรถคันอื่นได

รุ่น REEV PLUS 949,000 บาท

• ภายนอกให้เลือก 3 สี ขาว / เทา / เงิน
  • ภายใน สีดำ
• ไฟหน้า LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
• ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
• ไฟท้าย LED ดีไซน์ Star Wing
• ไฟตัดหมอกหลัง (Rear Fog Lamp)
• ไฟหน้าไม่มีระบบปรับระดับอัตโนมัติ (แต่ยังเป็น LED อยู่นะ)
• มือจับประตู แบบซ่อน
• ประตูเป็นแบบไร้ขอบกระจก (Frameless Doors)
• กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
• กระจกข้างมีระบบไล่ฝ้า
• กระจกมองข้างพับอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ
• ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
• ยางขนาด 225/60 R18
• สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม
• ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรง 159 ลิตร
• ที่ปัดน้ำฝนด้านหลังแบบไร้โครง
• ไม่มีระบบจดจำตำแหน่งกระจก
• ไม่มีระบบปรับองศากระจกอัตโนมัติขณะถอยหลัง
• ไม่มีระบบเปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า
• ไม่มีหลังคากระจกพาโนรามา
• ไม่มีม่านหลังคาไฟฟ้า

ภายในห้องโดยสาร

• พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่ม Shortcut
• พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
• กระจกไฟฟ้า 4 บาน เปิด-ปิดแบบ One-touch พร้อมระบบกันหนีบ
• เบาะหนังสังเคราะห์พร้อมรูระบายอากาศ
• เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
• เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
• พนักพิงเบาะหลังพับได้แบบ 60 : 40
• แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกและไฟส่องสว่าง
• ไฟอ่านหนังสือแบบ LED
• จำนวนช่องเสียบ USB: USB-A 2 ตำแหน่ง / USB-C 1 ตำแหน่ง
• ช่องจ่ายไฟแบบ 12 โวลต์

ระบบปรับอากาศ

• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
• ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
• กรองฝุ่น PM2.5

ระบบอัจฉริยะภายในห้องโดยสาร

• โหมดการขับขี่ (Eco, Comfort, Sport, Customize)
• หน้าจอสัมผัสขนาด 15.4 นิ้ว แบบซันฟลาวเวอร์
• ระบบนำทางแบบออนไลน์
• ระบบเลือกโหมดสถานการณ์
• จำนวนลำโพง 8 ตำแหน่ง
• ระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยและอังกฤษอัจฉริยะ แบบ 2 โซน
• ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายขนาด 50 วัตต์ (ไม่มีในรุ่น LITE)
• รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
• กุญแจอัจฉริยะ
• ระบบควบคุมรถผ่านแอพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือ
• อัพเดท OTA

ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ

• ระบบนำรถเข้า-ออกช่องจอดในแนวตรงจากระยะไกล (RSIO)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน (IACC)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (LCC)
• ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งกีดขวางด้านข้าง (LDC)
• ระบบช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
• RSIO – ระบบนำรถเข้า-ออกช่องจอดในแนวตรงจากระยะไกล IACC
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน
• ระบบช่วยเปิดไฟสู.อัตโนมัติ HMA
• ระบบช่วยตรวจจับป้ายจราจร TSR
• ระบบช่วยเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า SDW

ระบบความปลอดภัย

• ถุงลมคู่หน้า
• ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
• ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
• กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศาแบบ 3 มิติ พร้อมระบบแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง
• ระบบบันทึกวิดีโอการขับขี่รอบทิศทาง 360 องศา (DVR)
• โหมดเฝ้าระวัง (Sentry Mode)
• ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
• ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (ESP)
• ระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HHC)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
• ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ (ROM)
• เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่ในความเร็วต่ำ (AVAS)
• เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าปรับสูง-ต่ำได้
• ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและด้านหลัง
• เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบรั้งตัวและดึงกลับอัตโนมัติ
• ระบบล็อกเพื่อป้องกันเด็กเปิดประตูจากในรถแบบไฟฟ้า
• เบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน Auto Hold
• จำนวนเซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุ: ด้านหน้า 2 / ด้านหลัง 4
• ระบบสัญญาณป้องกันขโมย
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ ISOFIX
• ระบบตรวจจับแรงดันลมยาง (TPMS)
• อุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางแบบชั่วคราว

รุ่น REEV MAX : 999,000 บาท เพิ่มเติมจากรุ่น REEV 949,000 บาท

• ภายนอกให้เลือก 4 สี ขาว / เทา / เงิน / ฟ้า
  • ภายใน สีส้ม
• มือจับประตูภายนอกแบบซ่อน (Pop-up Handle)
• ที่ปัดน้ำฝนด้านหลังแบบไร้โครง
• กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
• หลังคากระจกแบบพาโนรามา พร้อมม่านหลังคาไฟฟ้า
• ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบกันหนีบ
• ระบบจดจำตำแหน่งกระจกมองข้าง
• กระจกมองข้างปรับองศาอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
• กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
• เบาะคนขับปรับดันหลังไฟฟ้า 2 ทิศทาง
• ที่รองขาเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 2 ทิศทาง
• ระบบจดจำตำแหน่งเบาะและระบบ Easy Entry & Exit
• ระบบเป่าลมและระบบอุ่นเบาะคู่หน้า
• ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร 64 สี
• พนักผิงเบาะหลังพับได้ 60 : 40
• ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ 4 โซน
• หน้าจอสัมผัส 15.4 นิ้วแบบซันฟลาวเวอร์
• ลำโพง 14 ตำแหน่ง
• ชาร์จมือถือแบบไร้สาย 50W
• กระจกมองข้างจดจำตำแหน่ง + ปรับอัตโนมัติขณะถอย
• ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ
  • ELK – Emergency Lane Keeping ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉิน
  • RCW – Rear Collision Warning
    ระบบช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนด้านหลัง
  • BSD – Blind Spot Detection ระบบช่วยแจ้งเตือนมุมอับสายตา
  • RCTA – Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง
  • RCTB – Rear Cross Traffic Brake ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง
  • LCA – Lane Change Assist ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน
  • SEW – Safe Exit Warning ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนขณะเปิดประตู
• ระบบช่วยเตือนหากมีอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DMS)

การออกแบบแบบโดย Klaus Zyciora

Klaus Zyciora เป็นนักออกแบบรถยนต์ชาวเยอรมันที่มีชื่อเสียงระดับโลก เกิดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1961 ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เขาสำเร็จการศึกษาด้านการออกแบบอุตสาหกรรมจาก Hochschule für Bildende Künste Braunschweig ในปี 1989 หลังจากนั้น เขาได้เข้าร่วมงานกับ Volkswagen ในตำแหน่งนักออกแบบภายในรถยนต์ โดยผลงานแรกของเขาคือการออกแบบภายในของ Volkswagen Golf Mk4

ตลอดระยะเวลาการทำงานกับ Volkswagen เขาได้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง รวมถึงหัวหน้าฝ่ายออกแบบภายในในปี 2000 หัวหน้าฝ่ายออกแบบภายนอกในปี 2002 และผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของแบรนด์ Volkswagen ในปี 2007 ในเดือนเมษายน 2020 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Volkswagen Group ผลงานที่โดดเด่นของเขารวมถึงการออกแบบรถยนต์ในตระกูล ID. เช่น ID.3, ID.4, ID.5, ID.6, ID.7, ID. Buzz และแนวคิด ID. Buggy

ในเดือนธันวาคม 2022 Volkswagen Group ประกาศว่า Klaus Zyciora จะออกจากตำแหน่ง และ Michael Mauer จะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Volkswagen Group แทนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023 ต่อมาในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 เขาเข้าร่วมงานกับ Changan Automobile ในตำแหน่งรองประธานฝ่ายออกแบบระดับโลก

ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในอุตสาหกรรมการออกแบบยานยนต์ Klaus Zyciora ได้รับรางวัลด้านการออกแบบชั้นนำของโลกทั้ง Red Dot Design Award และ iF Design Award ปัจจุบัน เขาดูแลการออกแบบรถยนต์ในเครือ Changan รวมถึงแบรนด์ Deepal ซึ่งกำลังเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในตลาดประเทศไทย

เผยภายในห้องโดยสาร Deepal S05 SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ตัวถังเล็กกว่า Deepal S07

ทดสอบตกจากที่สูงแนวดิ่ง 32 เมตร Deepal G318 EREV ในประเทศจีน เสา A ไม่เสียหาย

ภาพคันจริงรุ่นเริ่มต้น Changan Hunter ราคาจีน 713,000 บาทไฟฟ้าช่วงขยาย EREV 133 กม.NEDC