เปิดราคา 1.58 ล้านบาทในออสเตรเลีย DENZA B5 ออฟโรดปลั๊กอินไฮบริดสุดพรีเมียม 543 แรงม้า PS

Denza B5 – B8 เปิดรับจองในออสเตรเลีย ออฟโรดปลั๊กอินไฮบริดสุดพรีเมียม กำลังทะลุ 543 PS ราคาเริ่มราว 1.58 ล้านบาท
BYD เดินหน้าตลาดพรีเมียมในออสเตรเลียเต็มกำลัง เปิดรับจอง Denza B5 และ Denza B8 เอสยูวีออฟโรดปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหญ่ที่ถูกวางตัวให้ชนตรงทั้ง Toyota Prado และ LandCruiser แต่ใช้เทคโนโลยี DMO “ซูเปอร์ไฮบริด” ที่แรงและประหยัดกว่ารถน้ำมันแบบดั้งเดิมอย่างชัดเจน
ทั้ง B5 และ B8 ได้รับกระแสตอบรับยอดเยี่ยม มีผู้ลงทะเบียนสนใจกว่า 5,000 ราย ตั้งแต่ก่อนประกาศราคา โดยลูกค้า 2,000 รายแรก จะได้รับสิทธิ์อัปเกรดสีพรีเมียมและชุดตกแต่งภายในฟรี มูลค่ารวมกว่า 1,818 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ราคา Denza B5 และ B8 ในออสเตรเลีย (ก่อนออนโรด)
Denza B5
- 2026 Denza B5 ราคา 74,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1.58 ล้านบาท
- 2026 Denza B5 Leopard ราคา 79,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1.68 ล้านบาท
รุ่น B5 มีขนาดตัวถังเล็กกว่า Toyota Prado เล็กน้อย และจัดวางตำแหน่งเป็นรถออฟโรดปลั๊กอินไฮบริดแบบ 5 ที่นั่ง พร้อมดีไซน์สปอร์ตเข้มกว่าโมเดล BYD ทั่วไป เน้นตลาดพรีเมียมโดยตรง
Denza B8
- 2026 Denza B8 แบบ 5 ที่นั่ง ราคา 91,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1.92 ล้านบาท
- 2026 Denza B8 แบบ 6 ที่นั่ง ราคา 97,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 2.06 ล้านบาท
ตัวรถมีมิติเกือบเทียบเท่า Toyota LandCruiser 300 Series แต่ราคาเริ่มต้นถูกกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะรุ่น GX ที่เริ่มต้นที่ 98,340 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
เครือข่ายโชว์รูม: เดินเกมรุก ขยายเป็น 20–25 แห่งภายในปี 2026
Denza วางแผนขยายโชว์รูมอย่างรวดเร็วในออสเตรเลีย ดังนี้
- ภายในไตรมาส 1 ปี 2026: ตั้งเป้า 15 สาขา
- ภายในสิ้นปีหน้า: เพิ่มเป็น 20–25 สาขา ทั่วประเทศ
ส่วนใหญ่จะเป็นโชว์รูมเดี่ยวของ Denza แต่ในบางเมืองที่มีประชากรไม่มากจะใช้พื้นที่ร่วมกับโชว์รูม BYD เพื่อบริหารต้นทุนและการบริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้านอะไหล่ Denza ยืนยันว่า อะไหล่ของ B5 และ B8 ถูกนำเข้าและสต็อกไว้ในประเทศแล้ว เพื่อรองรับการส่งมอบและการบริการหลังการขายทันทีตั้งแต่ช่วงเปิดตัว
การรับประกันและบริการหลังการขาย มาตรฐานเดียวกับ BYD
- รับประกันตัวรถ 6 ปี หรือ 150,000 กม. แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน
- รับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 160,000 กม.
- โปรแกรมเช็กระยะราคาเหมาจ่าย (Capped Price Servicing) กำลังอยู่ระหว่างจัดทำ
การใช้มาตรฐานการรับประกันเดียวกับ BYD ช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่กังวลเรื่องความทนทานของแบตเตอรี่ และค่าใช้จ่ายระยะยาวของรถปลั๊กอินไฮบริดขนาดใหญ่
เปรียบเทียบตำแหน่งตลาด: ถูกกว่าญี่ปุ่นและยุโรป แต่สเปกสูงกว่า
Denza ตั้งเป้าดึงลูกค้าจากทั้งแบรนด์แมสและแบรนด์หรู โดย B5 และ B8 ถูกจัดให้เข้ามาแทรกช่องว่างระหว่าง Prado, LandCruiser และรถหรูอย่าง Land Rover Defender PHEV ซึ่งมีราคาแพงกว่ามาก
จุดเด่นของ Denza คือพลังไฮบริดกำลังสูง แบตเตอรี่ใหญ่ วิ่งไฟฟ้าล้วนได้จริง พร้อมแรงบิดระดับรถสมรรถนะสูงแต่ยังประหยัดน้ำมันกว่า SUV ขนาดใหญ่ทั่วไป
ขุมพลัง DMO Super Hybrid แรงระดับรถสมรรถนะสูง
ทั้ง B5 และ B8 ใช้ระบบปลั๊กอินไฮบริด DMO (Dual Mode Offroad) ที่ BYD พัฒนาจากแพลตฟอร์ม Fangchengbao หรือ “สูตรเสือ” ซึ่งเป็นสายออฟโรด Performance โดยตรง
Denza B5 สเปกเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน แบบย่อๆ
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ
- กำลังรวมสูงสุด 543 แรงม้า PS
- แรงบิดสูงสุด 760 Nm
- 0–100 กม./ชม. 4.8 วินาที
- แบตเตอรี่ LFP ความจุ 31.8 kWh
- ระยะทางไฟฟ้า WLTC: 90 กม.
- ระยะทางไฟฟ้า NEDC: 100 กม.
- ระยะทางรวม NEDC: 975 กม.
- ระยะทางรวม WLTC: 850 กม.
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (SOC <25%) NEDC: 9.49 ลิตร/100 กม. หรือ 10.5 กม./ลิตร
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (SOC <25%) WLTC: 10.92 ลิตร/100 กม. หรือ 9.53 กม./ลิตร
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (SOC 25–100%) NEDC: 1.9 ลิตร/100 กม. หรือ 52.6 กม./ลิตร
- WLTC: 3.9 ลิตร/100 กม. หรือ 25.6 กม./ลิตร
- การปล่อย CO₂: 42 กรัม/กม.
- การใช้พลังงานไฟฟ้า: 233 Wh/กม.
ระบบชาร์จ (Charging)
- AC Type 2 (11 kW)
- สายชาร์จพกพา Mode 2
- DC CCS2 (100 kW)
- V2L
- ระบบเบรกแบบ Regenerative
ตัวเลขแรงบิดระดับ 760 Nm นับว่ามากกว่า Toyota Prado และ LandCruiser รุ่นปัจจุบันอย่างชัดเจน แม้จะเป็นระบบปลั๊กอินไฮบริดก็ตาม ทำให้ Denza B5 และ B8 สามารถตอบโจทย์การลากจูง การขับทางไกล และการใช้งานออฟโรดได้สบาย
DENZA B5 มาพร้อมโหมดการขับขี่ 16 รูปแบบ
โหมดทั่วไป (Daily Drive Modes)
- Comfort
- Eco
- Sport
โหมดออฟโรด (Terrain Modes)
- Snow Mode
- Sand Mode
- Mud Mode
- Mountain Mode
- Rock Mode
- Intelligent Mode
- Creep Mode
- Wading Mode
- Sport+ Mode
- Custom Mode
- Burst Mode
- Climbing Mode
- Tug-of-War Mode
- L Function
- Leopard Turn
ช่วงล่างและโครงสร้าง (Chassis)
- ดิฟล็อกหน้า–หลังไฟฟ้า
- ช่วงล่างหน้า/หลัง แบบ Double Wishbone
- ดิสก์เบรกหน้า/หลัง
- ล้ออัลลอยสีดำ
- ยาง 265/65 R18 หรือ 275/55 R20
- ยางสำรองเต็มรูปแบบ
- ระบบเบรกอัจฉริยะ
- ช่วงล่าง DiSus-P (เฉพาะรุ่น Leopard)
DiSus-P
- Denza B5 รุ่น Leopard มาพร้อมช่วงล่างไฮดรอลิกอัจฉริยะ DiSus-P รองรับระยะยุบตัวสูงสุด 140 มม. ด้วย DiSus-P รถจึงทำมุมไต่สูงสุดได้ถึง 39° มุมจากสูงสุด 35° และลุยน้ำลึกได้ถึง 790 มม. (จากเดิม 700 มม.)
Cell-to-Chassis
- โครงสร้าง CTC รวมแบตเตอรี่เป็นส่วนหนึ่งของแชสซี ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ใช้เหล็กกำลังสูง 96% และเหล็กกำลังสูงพิเศษ 19% ในจุดรับแรงกระแทก ลดการยุบตัวจากการชนด้านหน้า 30% และด้านข้าง 25%
Lock It Up
- ดิฟล็อกหน้า–หลังแบบกลไก ให้การยึดเกาะในสถานการณ์ออฟโรดที่ท้าทาย ไม่ว่าจะลาก 3 ตัน ไต่ก้อนหิน ทราย หรือพื้นหินแผ่น ก็ยังนิ่ง มั่นใจ และทรงพลัง
House of Denza ประสบการณ์ลูกค้าระดับลักชัวรี
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ Denza ใช้สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง คือโปรแกรมบริการลูกค้าระดับพรีเมียมที่เรียกว่า “House of Denza” ซึ่งคอนเซ็ปต์ใกล้เคียงกับโปรแกรม Lexus Encore
- บริการรับ–ส่งรถแบบคอนเซียร์จสำหรับเข้าศูนย์บริการ
- กิจกรรมขับออฟโรดและทริปพิเศษสำหรับลูกค้า Denza
- เลานจ์หรือพื้นที่พักผ่อนในโชว์รูม รองรับการนั่งทำงาน พูดคุย และจิบกาแฟ
- กิจกรรมสร้างคอมมูนิตี้สำหรับเจ้าของ Denza
กลยุทธ์นี้ทำให้ Denza ไม่ได้ขายแค่ตัวรถ แต่ยังขาย “ประสบการณ์การเป็นเจ้าของ” ในแบบที่ค่ายหรูยุโรปและญี่ปุ่นใช้ดึงดูดลูกค้ามานาน
มิติตัวรถ (Dimensions)
- ความยาวทั้งหมด (มม.) 4888 / 4921
- ความกว้างทั้งหมด (มม.) 1920 / 1930
- ความสูงทั้งหมด (มม.) 1670 / 1660
- ระยะฐานล้อ (มม.) 2800
- ความกว้างล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1064 / 1050
- รัศมีวงเลี้ยวต่ำสุด (ม.) 5.90
- มุมไต่สูงสุด (°) 35 / 39
- มุมจากสูงสุด (°) 32 / 35
- มุมคร่อมเนิน (°) 20 / 27
- ระยะความสูงใต้ท้องรถ (มม.) 220 / 310
- ความลึกสูงสุดของน้ำที่ลุยได้ (มม.) 700 / 790
- ความจุพื้นที่เก็บสัมภาระต่ำสุด (ลิตร) 2897
- พื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด (ลิตร) 3497
- จำนวนที่นั่ง 5
งานออกแบบตัวถัง ทรงกล่องดุดันแต่หรูหรา
เส้นสายภายนอกของ Denza B5 เน้นความเป็นรถออฟโรดตัวจริง ด้วยรูปทรงกล่องเหลี่ยม ตัวรถสูง โปร่ง และดูบึกบึนตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงด้านท้าย เสริมด้วยซุ้มล้อขนาดใหญ่ และกันชนหน้าหลังที่ออกแบบให้พร้อมรับสภาพทางสมบุกสมบัน แต่ยังแฝงความหรูด้วยงานประกอบและรายละเอียดของชิ้นงานที่เนี๊ยบแบบรถพรีเมียม
รุ่น Denza B5 Leopard จะตกแต่งให้มีความสปอร์ตและลุยมากขึ้น ด้วยล้อขนาดใหญ่ขึ้น ช่วงล่าง DiSus-P ที่ยกความสูงได้มากกว่า รวมถึงรายละเอียดภายนอกบางจุดที่เน้นความเป็นรุ่นท็อปชัดเจน
ระบบไฟหน้า–ไฟท้าย LED รอบคัน
- ไฟหน้า LED เต็มระบบ ดีไซน์ทันสมัย ให้ความสว่างชัดทั้งทางตรงและโค้ง
- ระบบเปิด–ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ (Auto On Headlights) ทำงานตามสภาพแสง ช่วยลดการลืมเปิดหรือปิดไฟ
- Headlight Matrix Assistant ช่วยควบคุมลำแสงไม่ให้แยงตารถที่สวนมา แต่ยังให้ทัศนวิสัยสว่างชัด
- ระบบ Follow Me Home ไฟหน้าจะติดสว่างต่อหลังดับเครื่องยนต์ ช่วยส่องทางกลับบ้านหรือเข้าบ้านตอนกลางคืน
- ไฟส่องสว่าง LED รอบคัน ทั้งไฟวิ่งกลางวัน (DRL), ไฟตัดหมอกหน้า–หลัง, ไฟท้าย LED, ไฟเลี้ยวหลัง LED และไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
- ไฟอ่านหนังสือ LED หน้า–หลัง เพิ่มความหรูและใช้สอยในชีวิตประจำวัน
กระจกบังลมและกระจกข้าง: ทั้งเงียบ ทั้งปลอดภัย
- กระจกคู่หน้าแบบ Double-Layer Acoustic Glass ลดเสียงลมและเสียงถนน ช่วยให้ห้องโดยสารเงียบขึ้นอย่างชัดเจน
- กระจกบานหลังแบบ Privacy Glass เพิ่มความเป็นส่วนตัว และช่วยกันความร้อนจากแดด
- กระจกหน้าต่างทุกบานปรับขึ้น–ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบกันหนีบ เพิ่มทั้งความสะดวกและความปลอดภัยสำหรับเด็ก
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า ใช้งานง่ายในเมืองและที่จอดรถแคบ
- ฟังก์ชันทำความร้อน/ละลายน้ำแข็งกระจกมองข้าง เหมาะสำหรับสภาพอากาศหนาวหรือฝนจัด
- ระบบจำตำแหน่งกระจกมองข้าง ทำงานร่วมกับเมมโมรี่เบาะคนขับ ปรับกลับตำแหน่งเดิมได้ทันที
- สัญลักษณ์เตือนจุดบอดบนกระจกมองข้าง (Blind Spot Indicator) ช่วยเตือนเมื่อตรวจพบรถในจุดอับสายตา เพิ่มความมั่นใจเวลาเปลี่ยนเลน
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ (Auto-Dimming Rear View Mirror) ลดแสงไฟจากรถคันหลังที่ส่องจ้าเข้าตา
ฟังก์ชันภายนอกเพื่อการใช้งานจริง
- ที่ปัดน้ำฝนแบบ Rain Sensing ทำงานเองตามปริมาณน้ำฝน ลดการละสายตาจากถนน
- ซันรูฟไฟฟ้าแบบเปิดได้ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า เพิ่มความโปร่งโล่งและภาพลักษณ์แบบพรีเมียม
- บันไดข้างแบบติดตายตัว (Side Step – Fixed) ช่วยให้ขึ้น–ลงรถง่ายขึ้น โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
- ระบบปิดประตูท้ายและเซ็นทรัลล็อกแบบรีโมต ให้ความสะดวกในทุกการใช้งาน
- มือจับและประตูแบบ Soft Closing (เฉพาะรุ่น Leopard) ปิดประตูได้เบา ๆ แต่ล็อกสนิท เหมือนรถหรูยุโรประดับบน
ล้อ–ยาง: สไตล์ออฟโรดพรีเมียม
Denza B5
- ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต โทนสี Gunmetal
- ยาง Continental ขนาด 265/65 R18 เน้นความนุ่มหนึบและสมดุลระหว่างทางดำกับทางฝุ่น
- ยางอะไหล่แบบ Full Size ให้ยางและล้อจริงครบชุด พกความมั่นใจเวลาออกทริปไกล
Denza B5 Leopard
- ล้ออัลลอย 20 นิ้ว ทรงสปอร์ตเต็มซุ้ม เน้นภาพลักษณ์รุ่นท็อป
- ยาง Pirelli ขนาด 275/55 R20 จับคู่กับช่วงล่าง DiSus-P ยกสูงได้ เหมาะกับทั้งใช้งานออนโรดความเร็วสูงและออฟโรด
- ยังคงให้ยางอะไหล่ Full Size พร้อมลุยทริประยะไกลแบบไม่กังวล
สีตัวถัง Denza B5 / B5 Leopard
Denza B5 และ B5 Leopard มีสีตัวถังให้เลือกหลากหลาย เหมาะทั้งสายหรู สายลุย และสายแต่งรูปลงโซเชียล ได้แก่:
- Eclipse Black – ดำเงาแน่น ภูมิฐาน
- Alpine White – ขาวสะอาด ตัดกับชิ้นส่วนสีดำและซุ้มล้อได้ดี
- Juniper Green – เขียวโทนเอิร์ธ เหมาะกับสายแคมป์ปิ้ง
- Glacier Blue – ฟ้าอมเทา สไตล์โมเดิร์น
- Granite Grey – เทาเข้มดุดัน ดูแลง่าย
- Leopard Gold – ทองเฉพาะรุ่น Leopard เสริมภาพลักษณ์รุ่นท็อป
- Slate Grey – เทากลางหรูหรา
- Jade Green – เขียวหยกแตกต่างไม่ซ้ำใคร
- Sandstone – สีทรายให้ฟีลออฟโรดสไตล์ทะเลทราย
Keywords: Denza B5 ภายใน, Denza B5 Leopard ห้องโดยสาร, รีวิว Denza B5, SUV ออฟโรดหรู, อุปกรณ์ภายใน Denza B5
การออกแบบภายในห้องโดยสาร DENZA B5 / B5 Leopard หรูหรา ล้ำสมัย และใส่ฟีเจอร์แบบจัดหนัก
ภายในห้องโดยสารของ Denza B5 และ Denza B5 Leopard ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่หรูหราระดับเฟิร์สคลาส ผสมผสานความสะดวกสบายของรถครอบครัวเข้ากับอารมณ์พรีเมียมแบบรถยุโรป โดยให้วัสดุเกรดสูง เบาะนั่งเต็มฟังก์ชัน ระบบเสียงระดับไฮเอนด์ และเทคโนโลยีเต็มคันที่หาได้ยากในรถออฟโรดทั่วไป
ดีไซน์คอนโซลหรู พร้อมแผงควบคุมลอยตัวสุดล้ำ
คอนโซลหน้าของ Denza B5 ใช้แนวคิดแบบ “แบนยาว” ให้พื้นที่ดูกว้าง โปร่ง และไฮเทค ชุดแผงควบคุมกลางดีไซน์เรียบ แต่เน้นฟังก์ชันใช้ง่าย มีที่วางแก้วแบบปรับระดับ หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ และปุ่มควบคุมบางส่วนที่ออกแบบด้วยความประณีต
คันเกียร์แบบ Electronic Pop-Up Drive Selector โผล่ขึ้นมาขณะเปิดรถ ให้ความรู้สึกพรีเมียมเหมือนรถไฟฟ้ารุ่นเรือธงหลายแบรนด์
เบาะหนังคุณภาพสูง พร้อมระบบนวด อุ่น และระบายอากาศ
- เบาะหนังพรีเมียมทั้งคัน (รุ่น Leopard ใช้หนัง Nappa)
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะผู้โดยสารหน้า 6 ทิศทาง
- ระบบนวดเบาะคู่หน้า ช่วยผ่อนคลายในการเดินทางไกล
- ระบบระบายอากาศ + ระบบอุ่นเบาะหน้า สบายได้ทั้งหน้าร้อนและหน้าหนาว
- พนักพิงหลังเบาะหลังปรับองศาได้ เพื่อความสบายของผู้โดยสารทุกคน
- เบาะหลังอุ่น/ระบายอากาศ (เฉพาะรุ่น Leopard)
วัสดุภายในมีลักษณะ “นุ่มทุกจุด” แม้บนคอนโซล ประตู และแผงด้านข้าง สไตล์เดียวกับรถยุโรปราคาแพง
ระบบเสียง Devialet 800W ระดับไฮเอนด์จากฝรั่งเศส
จุดเด่นที่ทำให้ Denza B5 เหนือกว่ารถในคลาสเดียวกัน คือระบบเสียงพรีเมียมจาก Devialet ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านอะคูสติก
- กำลังขับ 800W
- ลำโพง 16 ตัว วางแบบ Surround รอบห้องโดยสาร
- คุณภาพเสียงแบบไร้ความเพี้ยน (Zero Distortion)
ให้มิติของเสียงแบบโฮมเธียเตอร์ และเหมาะอย่างยิ่งกับการขับลุยที่ต้องการบรรยากาศเพลงแบบเต็มอารมณ์
เทคโนโลยีภายในล้ำสมัย
- หน้าจอกลาง 15.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย
- จอเรือนไมล์ดิจิทัล 12.3 นิ้ว ชัดเจนทุกข้อมูล
- ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียง 4 โซน รองรับภาษาอังกฤษ
- การอัปเดตซอฟต์แวร์ OTA เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ได้ภายหลัง
- อินเทอร์เน็ต 4G + In-Car Hotspot พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต 2GB/เดือน 2 ปี
- ระบบชาร์จไร้สาย 50W มีทั้งแบบ 1 จุดและ 2 จุด (แล้วแต่รุ่น)
- กุญแจ NFC / Bluetooth / UWB Key ใช้งานสะดวกแม้ไม่พกรีโมต
พื้นที่ใช้งานกว้างขวาง พร้อมตู้เย็น–ตู้ร้อนในรถ
- Car Refrigerator & Hotbox จุดเด่นที่หาได้ยากในรถระดับเดียวกัน เก็บเครื่องดื่มเย็นหรืออุ่นอาหารได้
- ที่วางแก้วหน้าแบบปรับระดับ
- ช่องแอร์หลัง + ควบคุมแรงลมแยก
- ห้องโดยสารกว้าง รองรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง
- พื้นที่เก็บสัมภาระใหญ่พิเศษ 2,897–3,497 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัว นักเดินทาง และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในทุกเส้นทาง
Keywords: Denza B5 ความปลอดภัย, Denza B5 Leopard Safety, รีวิวระบบความปลอดภัยรถจีน, SUV ไฮบริดออฟโรด, ความปลอดภัย Denza
ระบบความปลอดภัย DENZA B5 / B5 Leopard อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีครบที่สุดในคลาส
Denza B5 และ B5 Leopard มาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็มระดับเรือธง ทั้งโครงสร้างตัวถังแบบ Cell-to-Chassis, ถุงลมนิรภัย 11 จุด, ระบบช่วยขับขั้นสูง ADAS แบบครบชุด และเซ็นเซอร์รอบคันจำนวนมาก พร้อมเทคโนโลยีการปกป้องแบบ 360 องศา
โครงสร้างความปลอดภัยตัวถัง แข็งแกร่งระดับ 12 ตัน
Denza B5 ใช้โครงสร้าง Cell-to-Chassis (CTC) ซึ่งรวมแบตเตอรี่เข้ากับโครงสร้างรถ เพิ่มความแข็งแรงและความปลอดภัยเหนือกว่ารถ PHEV ทั่วไป
- เหล็กกำลังสูง 96% ใช้ในโครงสร้างหลัก
- เหล็กกำลังสูงพิเศษ 19% ใช้ในจุดรับแรงกระแทก
- ทนแรงกดหลังคาได้ถึง 12 ตัน
- ลดการยุบตัวด้านหน้า 30%
- ลดการยุบตัวด้านข้าง 25%
โครงสร้างนี้ช่วยปกป้องผู้โดยสารในสถานการณ์รุนแรงและเพิ่มความเสถียรของรถเมื่อขับในทางวิบาก
ถุงลมนิรภัย 11 จุด ครอบคลุมรอบห้องโดยสาร
จำนวนถุงลมมากกว่ารถระดับเดียวกันหลายรุ่น โดยครอบคลุมทั้งผู้ขับและผู้โดยสารรอบทิศทาง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (หน้า–หลัง)
- ถุงลมนิรภัยด้านข้างคุ้มครองศีรษะ (Curtain)
- ถุงลมนิรภัยกลางระหว่างผู้ขับ (Far-Side)
- ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารแถวหลัง
ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS Level สูง) ครบที่สุดในคลาส
Denza B5 ใส่ระบบช่วยขับมากกว่า 30 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่การเตือน การป้องกัน ไปจนถึงการแทรกแซงเบรกและพวงมาลัยอัตโนมัติ
ระบบควบคุมความเร็ว + ระยะห่าง
- Adaptive Cruise Control (ACC) – ควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมเว้นระยะรถด้านหน้า
- Intelligent Cruise Control (ICC) – ควบคุมความเร็วอัตโนมัติโดยใช้ข้อมูลจากหลายเซ็นเซอร์
ระบบเบรกอัตโนมัติและป้องกันการชน
- Automatic Emergency Braking (AEB) – เบรกอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงชน
- Forward Collision Warning (FCW) – เตือนการชนด้านหน้า
- Forward Traffic Crossing Alert / Braking (FCTA / FCTB) – เตือนและเบรกเมื่อตัดหน้าในทางร่วม
- Rear Cross Traffic Alert / Braking (RCTA / RCTB) – เตือนและเบรกเมื่อถอยหลังตัดรถด้านข้าง
ระบบควบคุมการทรงตัวและเบรก
- Electronic Stability Control (ESC)
- Traction Control (CST)
- Electronic Brake Force Distribution (EBD)
- Hydraulic Brake Assist (HBA)
- Anti-lock Braking System (ABS)
- Auto Hold
- Electric Parking Brake (EPB)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเลน
- Emergency Lane Keeping Assist (ELKA) – ป้องกันออกนอกเลน
- Blind Spot Detection (BSD) – เตือนจุดบอด
- Door Opening Warning (DOW) – เตือนเมื่อต้องเปิดประตูขณะมีรถมาด้านหลัง
ระบบป้องกันการเหนื่อยล้าและวอกแวก
- Driver Distraction Monitoring (DDM) – ตรวจจับการละสายตา
- Driver Fatigue Monitoring (DFM) – เตือนอาการล้า
ระบบสำหรับผู้โดยสารและเด็ก
- Child Presence Detection (CPD) – ตรวจจับการลืมเด็กในรถ
- ISOFIX สำหรับติดตั้งเบาะนิรภัยเด็ก
- Electronic Child Safety Lock – ล็อกประตูหลังอัจฉริยะ
ระบบกล้องและเรดาร์รอบคัน
- 360° View Monitor – มองเห็นรอบทิศทาง
- Smart Driving Surround View Camera – ภาพรอบทิศแบบ Real-time
- High Perception Camera – กล้องความละเอียดสูงสำหรับระบบช่วยขับ
- เรดาร์มิลลิเมตร 1 ตัว และอัลตราโซนิกเซ็นเซอร์หน้า–หลังรวม 8 จุด
ระบบตรวจจับและการแจ้งเตือนอัจฉริยะ
- Traffic Sign Recognition (TSR) – อ่านป้ายจราจรอัตโนมัติ
- Tyre Pressure Monitoring System (TPMS) – แจ้งเตือนลมยาง
- Rearward Collision Warning (RCW) – เตือนรถพุ่งมาจากด้านหลัง
- Roll Movement Intervention (RMI) – ลดโอกาสพลิกคว่ำโดยควบคุมแรงเบรก
เทคโนโลยีเฉพาะรุ่น Leopard
- DiSus-P Intelligent Damping Suspension – ระบบช่วงล่างไฮดรอลิกปรับระดับอัตโนมัติ
- ระบบยกตัวรถอัตโนมัติเวลาโหลดท้าย
Denza ในตลาดออสเตรเลีย แบรนด์หรูจากจีนที่ต้องจับตา
Denza ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือ BYD ถือเป็นผู้เล่นจากจีนรายที่สองที่ประกาศตัวชัดเจนว่าเป็น แบรนด์ลักชัวรี ในตลาดออสเตรเลีย ต่อจาก Zeekr ภายใต้กลุ่ม Geely
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ที่จัดวางตัวเองในกลุ่มพรีเมียม เช่น IM (Presented by MG Motor) และในอนาคตจะมี Lepas จาก Chery เข้ามาเสริมความร้อนแรงในเซกเมนต์รถหรูจากจีนเช่นกัน
บทสรุป คู่แข่งใหม่ที่ Toyota และยุโรปต้องจับตา
Denza B5 และ Denza B8 คือ SUV ออฟโรดปลั๊กอินไฮบริดที่ให้สเปกเหนือคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันอย่างชัดเจน ทั้งด้านพละกำลัง แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ระยะทางวิ่งไฟฟ้าล้วนที่ใช้งานได้จริง และแพ็กเกจบริการหลังการขายในสไตล์แบรนด์หรู
เมื่อเทียบกับราคาที่ต่ำกว่า Toyota Prado และ LandCruiser แต่ให้สมรรถนะระดับรถสปอร์ต Denza B5 และ B8 จึงกลายเป็นหนึ่งใน SUV ที่น่าจับตามองที่สุดในตลาดปี 2026 ทั้งในมุมมองของผู้บริโภคและคู่แข่งรายใหญ่จากญี่ปุ่นและยุโรป

