ซีอีโอ Ford Australia เผย FORD Everest Super Duty มีโอกาศสร้างในอนาคต


Ford Ranger Super Duty เปิดตัวในออสเตรเลีย โฟกัสงานหนัก แต่ยังไม่ปิดโอกาส “Everest Super Duty” ในอนาคต
Ford ออสเตรเลียเปิดตัว Ranger Super Duty อย่างเป็นทางการ พร้อมตั้งเป้าชัดเจนเจาะตลาดฟลีท งานเหมืองป่าไม้ เกษตร และกลุ่มอุตสาหกรรมหนักที่เคยถูกครองโดย Toyota LandCruiser 70 Series มานานหลายทศวรรษ นับเป็นการขยับหมากสำคัญของ Ford ในการรุกตลาดรถใช้งานสมบุกสมบันแบบจริงจังมากขึ้น
กลิ่นอายความเป็น SUV มีโอกาสเกิด “Everest Super Duty” หรือไม่?
เนื่องจาก Ranger Super Duty มีพื้นฐานร่วมกับ Ford Everest SUV แบบ 7 ที่นั่ง ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่ามีโอกาสที่ Ford จะผลิตรุ่นตัวถังแบบ wagon หรือ Everest Super Duty ออกมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้างานหนักและสายลุยหรือไม่
ทาง CarExpert ได้ถาม Andrew Birkic ซีอีโอ Ford Australia โดยตรง ซึ่งเขาตอบว่า: “จะบอกว่าไม่มีวันเกิดขึ้นเลยก็คงไม่ได้ แต่ตอนนี้มันไม่อยู่ในแผน… หรืออย่างน้อยเท่าที่ผมรู้”
พร้อมกันนั้นเขายังหันไปถามทีมวิศวกรแบบขำ ๆ ว่ากำลังซ่อนโปรเจกต์พิเศษอยู่หรือไม่ สะท้อนให้เห็นว่าประเด็นนี้ยัง ไม่ถูกปิดประตูแบบ 100% แต่ยังไม่ใช่เป้าหมายหลักในตอนนี้
Super Duty ใหม่ ไม่ได้สร้างมาแค่เพื่อเหมือง มุ่งจับสายลุย-นักเดินทาง
แม้ตลาดหลักจะเป็นงานเหมือง งานป่าไม้ งานดับเพลิง และการเกษตร แต่ทีมวิศวกร Ford ก็ยอมรับว่า กลุ่ม Grey Nomads (นักท่องเที่ยววัยเกษียณเดินทางไกล) และกลุ่มออฟโรดสายโหด ก็สนใจ Ranger Super Duty เช่นกัน เนื่องจาก:
- โครงสร้างแชสซีส์แบบเฮฟวี่ดิวตี้
- ความสามารถบรรทุกสูงมาก
- ระบบช่วงล่างที่ถูกออกแบบให้ทนทานในงานหนักโดยเฉพาะ
- ความเหมาะสมสำหรับลากพ่วง คาราวาน หรือชุดอุปกรณ์กู้ภัย
ทั้งหมดนี้ทำให้ Ranger Super Duty ไม่ได้ตอบโจทย์เฉพาะองค์กรเท่านั้น แต่ยังดึงดูดผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการรถใช้งานจริงจัง หรือสายท่องเที่ยวเดินทางไกล
ซีอีโอ Ford ชี้ชัด ก่อนจะทำ Everest Super Duty ต้องตอบโจทย์เรื่อง “ตลาด” และ “ผลตอบแทน”
เมื่อถามถึงโอกาสของ Everest Super Duty Birkic ให้ความเห็นว่า Ford ต้องคิดในเชิงธุรกิจเป็นหลัก โดยกล่าวว่า:
“สุดท้ายแล้ว Ford Motor Company เป็นองค์กรธุรกิจ เราต้องใช้เงินลงทุนอย่างคุ้มค่าและต้องสร้างผลตอบแทนได้”
Advertisement Advertisement“และต้องมีตลาดรองรับเพียงพอ ต้องมีดีมานด์ที่ชัดเจน และเราต้องทำได้ดีในตลาดนั้นด้วย”
เขายังเสริมว่า Ford ต้องโฟกัสในสินค้าที่ทำได้ดีเป็นพิเศษ มากกว่าจะขยายไลน์ไปทุกทิศทางโดยไม่จำเป็น
Everest Super Duty จะเกิดไหม? มุมมองโอกาสในอนาคต
แม้ Ford จะยังไม่วางแผน แต่หากพิจารณาตลาดจริงใน Australia และ ASEAN จะพบว่ามีดีมานด์เฉพาะกลุ่มสำหรับรถ wagon ตัวถังแข็งแรงแบบ LC76/LC78 อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในงานกู้ภัย ออฟโรดฮาร์ดคอร์ และการท่องเที่ยวแบบโอเวอร์แลนด์
ดังนั้น ความเป็นไปได้ของ Everest Super Duty ยังมีอยู่ แต่จะขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้:
- ขนาดตลาดรถงานหนักแบบตัวถัง wagon ในอนาคต
- ต้นทุนและผลตอบแทนของการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่
- ผลตอบรับของ Ranger Super Duty ในช่วง 1–2 ปีแรก
- ทิศทางการรุกของ Toyota LandCruiser รุ่นใหม่ๆ
ถ้า Ranger Super Duty ประสบความสำเร็จสูง การขยายไลน์เป็น Everest Super Duty ก็มีโอกาสถูกพิจารณามากขึ้นในอนาคต
สรุป
Ford Ranger Super Duty คือการกลับมาเล่นเกมรถงานหนักแบบเต็มตัวของ Ford และแม้บริษัทจะยัง “ไม่ยืนยัน” การทำ Everest Super Duty แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตลาดและผลตอบแทนการลงทุน
สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ Ranger Super Duty จะเป็นรถที่ได้รับความสนใจจากทั้งอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้ใช้งานสายลุยอย่างแน่นอนในปีต่อ ๆ ไป

เปิดราคา 1.76 – 1.90 ล้านบาท ในออสเตรเลีย Ford Ranger Super Duty 2025 ลากจูงได้ถึง 4.5 ตัน
