GMC Hummer และ Nissan Ariya SUV พบกันในสถานีชาร์จ Electrify America 350kW

น่าจะเป็นการพบกันครั้งแรกของ EV เรือธงของแบรนด์อย่าง GMC Hummer EV กระบะเรือธงของ GM และ Nissan Ariya SUV เรือธงของ NISSAN

ทั้งคู่ถูกพบเห็นที่สถานีชาร์จเร็วของ Electrify America โดย EV นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า Hummer และ Nissan Ariya แล้ว ยังมีรถทดสอบ Polestar 2 มาในสถานีชาร์จดังกล่าว

น่าเสียดายที่วิดีโอไม่แสดงหน้าจอของเครื่องชาร์จ แต่การชาร์จ 66 kW สำหรับ Hummer (คาดว่าจะสูงถึง 350 kW)

เราเดาว่าสถานที่ที่ชาร์จเร็วนี้อาจใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดสอบการชาร์จ ก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดสหรัฐฯ

GMC Hummer EV คาดว่าจะเข้าสู่ตลาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 (รุ่น Edition 1) ในขณะที่ Nissan Ariya อาจมีความล่าช้ากว่า คาดว่าเปิดตัวปี 2022 ในสหรัฐฯ

Insideevs.com

ทดสอบวิ่ง GMC HUMMER EV บนถนนจริงๆในสหรัฐฯ โชว์โหมด Crab Mode บังคับเลี้ยว 4 ล้อ

NISSAN ARIYA EV เตรียมขายในสหรัฐฯ ปีหน้า

Electrify America ประกาศแผนที่จะเพิ่มเครือข่ายการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา โดยจะเพิ่มสถานีชาร์จกว่า 2 เท่า หรือมากกว่า 1,800 สถานีภายในสิ้นปี 2025

หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด ในการก้าวไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าคือ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างสถานีชาร์จ เช่นเดียวกับปั้นน้ำมันในรถยนต์สันดาป

ภายใต้แผน Boost ใหม่ ของ Electrify America บริษัทจะมีสถานีชาร์จเร็วมากกว่า 1,800 แห่ง และ เครื่องชาร์จ 10,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา และ แคนาดาภายในสิ้นปี 2568

การขยายขนาดครั้งนี้ จะเน้นไปที่เพิ่มเครื่องชาร์จขนาด 150-350 กิโลวัตต์ ซึ่งช่วยลดเวลาในการชาร์จลงอย่างมาก

ในสหรัฐอเมริกา บริษัทคาดว่าจะมีสถานีชาร์จประมาณ 800 แห่งและ ที่ชาร์จแยก 3,500 แห่งภายในสิ้นปีนี้

การขยายตัวดังกล่าวจะทำให้ Electrify America เข้าสู่ตลาดใหม่ เช่น ฮาวาย นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา เวสต์เวอร์จิเนีย ไวโอมิง และเวอร์มอนต์ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสถานะอยู่ใน 49 รัฐและ District of Columbia

แคนาดากำลังเพิ่มสถานีชาร์จเช่นกัน คาดว่าจะมีสถานีชาร์จกว่า 100 แห่ง และ เครื่องชาร์จอีก 500 เครื่องภายในสิ้นปี 2568 โดยจะตั้งอยู่ในศูนย์กลางมหานคร ริมทางหลวงสายหลัก

Giovanni Palazzo ซีอีโอของ Electrify America กล่าวว่า “เราได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จปัจจุบันของเราเป็นสองเท่า ในอเมริกาเหนือในช่วงสี่ปีข้างหน้า เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการการเติบโตอย่างรวดเร็ว ของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อช่วยให้ การนำ EV มาใช้นั้นเข้าถึงได้ง่าย และ น่าสนใจมากกว่าที่เคย”