เปิดตัวไทย 19 สิงหาคม คาดเริ่ม 5xx,xxx บาท JAECOO 5 EV

เปิดตัวไทย 19 สิงหาคม คาดเริ่ม 5xx,xxx บาท JAECOO 5 EV
Spread the love
Advertisement Advertisement

กรุงเทพฯ 16 กรกฎาคม 2568 – OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ประกาศเปิดตัว “Mr. J” แต่งตั้ง มาริโอ้ เมาเร่อ เป็นพรีเซนเตอร์คนแรกของแบรนด์ JAECOO ในประเทศไทย เพื่อสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์และความทันสมัยของแบรนด์ JAECOO สู่ผู้บริโภคชาวไทย

OMODA & JAECOO (ประเทศไทย) เตรียมเปิดตัว JAECOO 5 EV รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 สิงหาคม 2568 โดยจะวางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นย่อย และคาดว่ารุ่นท็อปจะมีราคาไม่เกิน 699,000 บาท 

การเลือก มาริโอ้ เมาเร่อ เป็นตัวแทนแบรนด์ครั้งนี้ สะท้อนถึงความลงตัวระหว่างบุคลิกภาพของพรีเซนเตอร์กับอัตลักษณ์ของ JAECOO ทั้งในด้านความทันสมัย ความมีสไตล์ และจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการผจญภัย ด้วยภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับในวงการบันเทิงไทย มาริโอ้จึงเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบในการสื่อสารคุณค่าของแบรนด์สู่ผู้บริโภค

คุณ ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าวว่า “JAECOO มุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ด้วยการผสานเอกลักษณ์ของแบรนด์เข้ากับเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่ชื่นชอบการผจญภัยและการเดินทางสุดพิเศษ เราเชื่อว่า มาริโอ้ เมาเร่อ จะเป็นตัวแทนของแบรนด์ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าของเรา”

JAECOO โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และความปลอดภัย โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ล่าสุด JAECOO กำลังจะเปิดตัว JAECOO 5 EV รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์พรีเมียม พร้อมราคาคาดการณ์สุดเร้าใจไม่เกิน 69x,xxx บาท  สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการขับขี่ด้วย JAECOO 5 EV ยานยนต์อเนกประสงค์ที่มาพร้อมขนาดตัวถังกว้าง 1,860 มิลลิเมตร ยาว 4,380 มิลลิเมตร และสูง 1,650 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร เพื่อการควบคุมที่มั่นคงเหนือระดับ พร้อมระยะความสูงใต้ท้องรถถึง 174 มิลลิเมตร ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนทุกสภาพถนน นอกจากนี้ JAECOO 5 EV ยังมาพร้อมห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับพื้นที่เก็บสัมภาระตั้งแต่ 480 ลิตร ไปจนถึง 1,284 ลิตร เพื่อความยืดหยุ่นในการบรรทุกที่เหนือชั้น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว

Advertisement Advertisement

มิติตัวถัง JAECOO 5 BEV

  • ความยาว: 4,380 มม.
  • ความกว้าง: 1,860 มม.
  • ความสูง: 1,650 มม.
  • ระยะฐานล้อ: 2,700 มม. (บางแหล่งข้อมูลระบุ 2,620 มม.)
  • ความสูงจากพื้น: 174 มม.
  • ความจุสัมภาระ: 480-1,284 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)

BYD ATTO 3

  • ความยาว: 4,455  มม.
  • ความกว้าง (ไม่รวมกระจกมองข้าง): 1,875  มม.
  • ความสูง: 1,615  มม.
  • ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,720  มม.

TOYOTA YARIS CROSS DNGA

  • ความยาว : 4,310  มม.
  • ความกว้าง : 1,770 มม.
  • ความสูง : 1,615 มม.
  • ระยะฐานล้อ : 2,620 มม.

สมรรถนะ

  • กำลังสูงสุด: คาดการณ์ประมาณ 150 kW (204 แรงม้า / 211 แรงม้า)
  • แรงบิด: 288 นิวตันเมตร (บางแหล่งข้อมูลระบุสูงถึง 340 นิวตันเมตร สำหรับบางรุ่นย่อย)
  • ความเร็วสูงสุด: 172 กม./ชม. (สำหรับ Omoda C5 EV ซึ่งใช้แพลตฟอร์ม/ส่วนประกอบร่วมกัน)
  • อัตราเร่ง (0-100 กม./ชม.): ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง 8-10 วินาที เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใกล้เคียงกัน
  • ความจุแบตเตอรี่ LFP คาดว่า 60.9 kWh (บางแหล่งข้อมูลระบุ 67 kWh หรือ 69.8 kWh ซึ่งอาจเป็นสำหรับรุ่นย่อยหรือตลาดที่แตกต่างกัน) วิ่งได้ 470 กม./ชาร์จ NEDC ประมาณ

โครงสร้างและระบบกันสะเทือน

  • เบรกหน้า: ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
  • เบรกหลัง: ดิสก์เบรก
  • ระบบกันสะเทือนหน้า: แมคเฟอร์สันสตรัท
  • ระบบกันสะเทือนหลัง: มัลติลิงค์
  • ล้อ: ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
  • ยาง: 245/45 R19 Radial

ภายนอก (Exterior)

  • ดีไซน์ด้านหน้าแบบปิดทึบ (Grille-less) เอกลักษณ์ของรถไฟฟ้า ช่วยลดแรงต้านลม

  • โลโก้ Jaecoo แบบใหม่ ติดบนคานหน้าขนาดใหญ่ ดูหรูหราและทันสมัย

  • ชุดไฟหน้า LED เต็มระบบ ดีไซน์เพรียวคม พร้อมไฟ Daytime Running Light

  • ไฟท้าย LED แบบเส้นยาวเชื่อมทั้งสองฝั่ง (Full-width LED Bar)

  • ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ ขนาด 18–19 นิ้ว (ขึ้นกับรุ่นย่อย)

  • หลังคา ซันรูฟพาโนรามา (Panoramic Sunroof) สำหรับรุ่น Luxury ให้ความโปร่งโล่ง

  • กระจกแบบ Silent Glass ลดเสียงรบกวนจากภายนอก

  • ระบบกล้อง 540° รอบคัน มองเห็นชัดเจนแม้ขับทางแคบหรือออฟโรด

  • มุมไต่ทางชัน 20° และมุมจากพื้น 30° สมรรถนะดีกว่า Land Rover Discovery Sport

ภายใน (Interior)

  • จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 13.2 นิ้ว แนวตั้ง รองรับ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย
  • มาตรวัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ (Full Digital Cluster)
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-cut หุ้มหนังพรีเมียม
  • ระบบเสียง Sony

    • รุ่น เริ่ม  : 6 ลำโพง

    • รุ่น ท๊อป  : 8 ลำโพง

  • เบาะคู่หน้า

    • รุ่น เริ่ม : ปรับมือ 6 ทิศทาง

    • รุ่น ท๊อป : มีระบบ ทำความร้อน + ระบายอากาศ (Heated & Ventilated Seats)

  • พื้นที่เก็บสัมภาระ 480 ลิตร พับเบาะได้สูงสุด 1,180 ลิตร
  • ระบบไฟ Ambient Light ปรับสีได้ (รุ่น Luxury)
  • ที่ชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน (Luxury)
  • ฟังก์ชัน Pet Mode รักษาอุณหภูมิในห้องโดยสารเมื่อเจ้าของออกจากรถ
  • การตกแต่งใช้โทนสีหรู เน้นวัสดุ Soft-touch รอบห้องโดยสาร

ระบบความปลอดภัย (Safety Systems)

ความปลอดภัยพื้นฐาน

  • ถุงลมนิรภัยรอบคัน (Front, Side, Curtain)

  • ระบบเบรก ABS + EBD + BA

  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC)

  • ระบบควบคุมการออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)

  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)

  • โครงสร้างตัวถังนิรภัยออกแบบให้ซับแรงกระแทก (Crash Absorption)

  • ระบบล็อก Isofix สำหรับเบาะเด็ก

ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS – Advanced Driver Assistance System)

รวมทั้งหมด 19 ฟังก์ชัน (มาตรฐานตั้งแต่รุ่น Pure) เช่น

  • Adaptive Cruise Control (ACC) : ควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า
  • Lane Keep Assist (LKA) : ช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน
  • Lane Departure Warning (LDW) : เตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
  • Blind Spot Detection (BSD) : แจ้งเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา
  • Rear Cross Traffic Alert (RCTA) : เตือนเมื่อมีรถตัดหลังขณะถอย
  • Autonomous Emergency Braking (AEB) : เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ลดโอกาสชนด้านหน้า
  • Driver Attention Monitoring : ตรวจจับอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับ
  • Traffic Sign Recognition (TSR) : อ่านป้ายจราจรและแสดงผลบนหน้าจอ
  • Intelligent High Beam : ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ

กล้องและเซ็นเซอร์

  • กล้อง 540° รอบคัน (รวมมุมมองใต้ท้องรถ สำหรับออฟโรด)
  • เซ็นเซอร์จอดรอบคัน
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติบางฟังก์ชัน

เทคโนโลยีการขับขี่ (Driving Technology)

ระบบขับเคลื่อนและการควบคุม

  • มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว (Front Motor) กำลัง 207 แรงม้า / แรงบิด 287 นิวตันเมตร → ตอบสนองไวทันใจ
  • โหมดการขับขี่หลายรูปแบบ (Drive Modes) → Eco, Normal, Sport ปรับตามสภาพการใช้งาน
  • One-Pedal Driving → สามารถชะลอรถด้วยการยกคันเร่ง ช่วยประหยัดพลังงานและลดการใช้เบรก
  • ระบบ Regenerative Braking → กู้พลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ ปรับระดับการหน่วงได้

การขับขี่อัจฉริยะ

  • Adaptive Cruise Control (ACC) → ควบคุมความเร็ว + เว้นระยะห่างอัตโนมัติ
  • Lane Centering / Lane Keep Assist → ช่วยประคองรถให้อยู่กลางเลน
  • Level 2 Semi-Autonomous Driving → ขับกึ่งอัตโนมัติบนทางด่วนและถนนหลัก
  • Traffic Sign Recognition → อ่านป้ายจำกัดความเร็ว แสดงบนหน้าจอ

เทคโนโลยีเสริมการขับ

  • 540° All-Terrain Camera → มองเห็นรอบคัน + ใต้ท้องรถ เหมาะสำหรับออฟโรด/ซอยแคบ
  • ระบบกันสะเทือนอิสระ 4 ล้อ (Independent Suspension) → ขับนุ่มสบายทั้งในเมืองและนอกถนน
  • โหมดขับขี่ออฟโรด (Off-road Assist) พร้อมมุมไต่ 20° / มุมจากพื้น 30° → ผ่านเส้นทางท้าทายได้
  • Intelligent High Beam Control → ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ

การเชื่อมต่อและผู้ช่วยอัจฉริยะ

  • Pet Mode → รักษาอุณหภูมิห้องโดยสารสำหรับสัตว์เลี้ยงขณะจอด
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Auto Parking Assist) → ช่วยบังคับพวงมาลัยและเบรกตอนจอด
  • แอปมือถือ (Jaecoo App) → ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่, ควบคุมการชาร์จ, เปิดแอร์ล่วงหน้า

paultan

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้