Advertisement

Advertisement

เดือนแรกขายได้ 1,337 คัน All-NEW KIA EV9 SUV ไฟฟ้า 541 กม./ชาร์จ WLTP ราคา 2.10 – 2.82 ล้านบาท ในเกาหลีใต้

เดือนแรกขายได้ 1,337 คัน All-NEW KIA EV9 SUV ไฟฟ้า 541 กม./ชาร์จ WLTP ราคา 2.10 – 2.82 ล้านบาท ในเกาหลีใต้

Advertisement

Advertisement

 

Kia รายงานว่ายอดขายรถยนต์ทั่วโลกในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 7.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีแตะที่ 278,256 คัน ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2023 KIA ขายรถยนต์ได้กว่า 1,575,920 คัน (เพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี)

มีข่าวเชิงบวกที่เกี่ยวข้องกับการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด เนื่องจากบริษัทเพิ่งเปิดตัวรุ่น Kia EV9 ในเกาหลีใต้และกล่าวว่าเร็ว ๆ นี้จะเริ่มส่งมอบในตลาดโลก จำนวนการส่งมอบของ KIA EV9 ในเดือนแรก หรือเดือนมิถุนายน 2023 รวมกว่า 1,337 คัน (รวม 1,334 คันในเกาหลีใต้และส่งออก 3 คัน)

  • ในเดือนมิถุนายน ยอดขายขายส่ง Kia EV6 (ใกล้เคียงกับการผลิต) มีจำนวน 9,217 คัน (เพิ่มขึ้น 65 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี) ซึ่งใกล้เคียงกับเดือนเมษายนและพฤษภาคม
  • โดยรวมแล้วยอดขายขายส่งของ EV6 และ EV9 อยู่ที่ 10,554 ซึ่งถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว และมีศักยภาพในการเติบโตสูง
  • จนถึงปีนี้ ยอดขายขายส่งของเกีย EV6/EV9 เกิน 56,000 คัน (เพิ่มขึ้น 38 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี)

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า KIA ในเดือนที่แล้ว มิถุนายน 2023

  • EV6: ยอดขายปลีกนอกเกาหลีใต้ 6,083 คัน (ขายส่ง 9,217 ราย – 1,379 คันในเกาหลีใต้ และส่งออก 7,838 คัน)
  • EV9: 2 ยอดขายปลีกนอกเกาหลีใต้ (1,337 คัน ขายส่ง – 1,334 คัน ในเกาหลีใต้ และ 3 คัน ส่งออก)
  • Niro EV: 5,465 คัน ยอดค้าปลีกนอกเกาหลีใต้
  • Niro Plus EV: 13 คัน ยอดค้าปลีกนอกเกาหลีใต้
  • Soul EV: 240 คัน ยอดขายปลีกนอกเกาหลีใต้
  • ยอดรวม*: อย่างน้อย 14,516 คัน (เพิ่มขึ้น 25% จากปีที่แล้ว) หรือสัดส่วนส่วนแบ่งตลาด 5.2% ของปริมาณทั้งหมด
    *เกาหลีใต้ (EV6, EV9) + ข้อมูลยอดค้าปลีกในต่างประเทศ (EV6, EV9, Niro EV, Niro Plus EV, Soul EV )

น่าเสียดายที่ Kia ไม่รายงานหมายเลข PHEV

ก่อนหน้านี้ Kia เริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า EV9 รุ่นใหม่ในเกาหลีใต้ SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่เปิดตัวในเกาหลีใต้ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 78.14 – 104 ล้านวอน หรือประมาณ 2.10 – 2.82 ล้านบาท หลังจากรุ่น EV6 รุ่น EV9 ซึ่งเปิดตัวในเดือนมีนาคมถือเป็นรุ่นที่สองของเกียที่ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP ของกลุ่ม

Kia EV9 มีกำหนดการวางจำหน่ายในตลาดโลกปลายปี 2023 รวมถึงยุโรป สำหรับสหรัฐฯ เริ่มส่งมอบปลายปี 2023 Kia ยืนยันว่ารถ SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่จะไม่เพียงผลิตในเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังผลิตในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2024 โดยเฉพาะที่โรงงาน West Point ในรัฐจอร์เจียของสหรัฐฯ

  • Kia ​​EV9 SUV SUV ไฟฟ้าขนาดที่นั่ง 3 แถว บนแพลตฟอร์ม Electric Global Modular Platform (E-GMP) ภายใต้การแชร์แนวคิด SEVEN ของฮุนได
  • “Kia EV9 ทำลายสถิติใหม่ โดยตั้งเป้าที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการออกแบบ การเชื่อมต่อ การใช้งาน และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม” Karim Habib รองประธานบริหารและหัวหน้าของ Kia Global Design Center กล่าว “Kia EV9 นำเสนอข้อเสนอคุณภาพสูงเป็นพิเศษแก่ลูกค้าและมุมมองใหม่ของ EV ในกลุ่มรถ SUV สำหรับครอบครัว จะมอบประสบการณ์ทั้งความสะดวกสบายที่ยอดเยี่ยม ให้ผู้โดยสารทุกคน รวมทั้งเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ พร้อมการออกแบบ “
  • รุ่น “GT-Line” มาพร้อมกระจังหน้าแบบดิจิตอลพร้อมม่านอากาศใหม่ ล้ออัลลอยให้เลือก 19-21 นิ้ว ให้เลือก ในรุ่น GT คาดว่ามาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวให้กำลังกว่า 576 แรงม้า แรงบิด 738 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4 วินาที (วางจำหน่ายในปี 2025)

มอเตอร์ไฟฟ้าให้เลือกหลากหลายรุ่นได้แก่

  • รุ่นพื้นฐานคือ EV9 RWD Standard มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลัง 215 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ 76.1kWh สามารถวิ่งได้ 480 กม./ชาร์จ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.2 วินาที
  • RWD Long Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลัง 201 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 9.4 วินาที แบตเตอรี่ 99.8kWh สามารถวิ่งได้ 541 กม./ชาร์จ WLTP พร้อมล้ออัลลอย 19 นิ้ว
  • AWD range-topper มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 380 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ All Wheel Drive (AWD)

อัตราชาร์จ

  • รองรับการจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก V2Lผ่านชุดควบคุมการชาร์จแบบรวม (ICCU) 3.68KW
  • สถาปัตยกรรม 400- และ 800-volt ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จ DC ได้อย่างรวดเร็ว
  • สามารถชาร์จสูงสุด DC 350kW จาก 10 – 80 % ภายใน 30 นาที **
  • สามารถชาร์จเร็วพิเศษ 15 นาทีวิ่งได้ 239 กม.
  • อัตราชาร์จเร็วพิเศษ 10-80% 230KW ใช้เวลา 25 นาที สามารถวิ่งได้ 482 กม.

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 5010  มม.
  • กว้าง 1980 มม.
  • สูง 1755 มม.
  • ฐานล้อ 3100 มม.

KIA EV9 มาออกแบบเรียบง่าย ที่ยังคงปรัชญาการออกแบบ “Opposites United” ใหม่ของ Kia แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี รูปลักษณ์ด้านหน้าที่ KIA นิยมเรียกว่าทรงจมูกเสือ“Digital Tiger Face” ไฟหน้าแบบ Pixel ให้มิติอย่างลึกซึ่ง เชื่อมด้วยแถบไฟส่องสว่างกลางวันแนวยาว ไฟวิ่งกลางวัน LED แบบ Star Map LED (DRL)’ กันชนหน้าเสริมขอบโครเมียมโด่ดเด่น

  • นักออกแบบของ Kia มุ่งมั่นที่จะสร้างรถยนต์ที่ดึงดูดสายตาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลักปรัชญา ‘Bold for Nature’ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการผสมผสานองค์ประกอบจากธรรมชาติและโลกวัตถุ มีบทบาทสำคัญในการออกแบบภายนอกของ EV9
  • ค่าสัมประสิทธิ์แอโรไดนามิก 0.28Cd.

ซุ้มล้อทั้งด้านหน้า และ ด้านหลังให้ความรู้สึกเหมือนยื่นออกมาจากตัวรถ ด้านข้างดูคล้ายกับลูกพี่ลูกน้อง Hyundai SEVEN ราวหลังคาด้านบนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อรับพลังงานแสงอาทิตย์ ราวหลังคาแบบยืดหดได้ ซึ่งสามารถยกหรือลดระดับได้ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ล้ออัลลอยขนาด 19 / 20 / 22 นิ้ว

ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 6 – 7 ที่นั่ง ติดตั้งแผงหน้าแบบลอยขนาด 12.3 นิ้ว และ หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อม หน้าจอขนาอเล็กแสดงผลขนาด 5 นิ้ว KIA ไม่ได้ระบุว่าใช้ทำอะไรมาก แต่หลักๆมีไว้สำหรับการควบคุมสภาพอากาศโดยเฉพาะ

  • EV9 ใช้รูปแบบที่นั่งแบบดั้งเดิม แต่สามารถหันหน้าเข้าหากันได้ในแถวแรก และ แถวที่สาม พร้อมมีโต๊ะส่วนกลางในแถวที่ 2
  • นอกจากนี้ยังมีโหมดใหม่ ที่จะสามารถให้แถวที่ 3 หมุนไปยังด้านหลัง และประตูท้ายจะเปิดขึ้น เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับการชมวิวบริเวณท้ายประตู
  • KIA ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่ยั่งยืน เช่นเบาะผ้าที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล และ เส้นใยขนสัตว์รีไซเคิล รวมทั้งใช้หนังวีแกนอีกด้วย
  • เทคโนโลยี Ultra-Wide Band (UWB) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดและสตาร์ทรถโดยใช้สมาร์ทโฟนได้
  • Kia Connect Store ซึ่งช่วยให้ลูกค้าซื้อคุณสมบัติและบริการดิจิทัลได้ตามต้องการ ทำให้พวกเขามีความยืดหยุ่นในการเลือกคุณสมบัติที่ต้องการและอัปเกรดความสามารถของ EV9 อย่างต่อเนื่องด้วยการอัปเดต Over the Air (OTA) ได้ตลอดเวลา

Highway Driving Pilot (HDP) ใหม่ ระบบ่ช่วยเหลือแการขับขี่อัตโนมัติระดับ L3 พร้อมเซ็นเซอร์ 15 ตัว ให้สามารถสแกนหาและตรวจจับวัตถุในมุมมอง 360 องศาเต็มรูปแบบ ทำให้สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อถนนและผู้ใช้รายอื่นเพื่อป้องกันการชนที่อาจเกิดขึ้น ระบบความปลอดภัย ได้แก่ ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนท้ายรถ (RCCA) ระบบช่วยหลบหลีกการชนในจุดอับสายตา (BCA) ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LKA) และระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะ (ISLA) ระบบควบคุมความเร็วคงที่อัจฉริยะ (NSCC) ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนขณะจอด (PCA) ระบบช่วยจอดรถระยะไกลอัจฉริยะ 2 (RSPA 2)  

insideev

Advertisement

Advertisement

https://www.youtube.com/watch?v=KYSa8Jg1cMw&embeds_euri=https%3A%2F%2Fwww.carscoops.com%2F&source_ve_path=MjM4NTE&feature=emb_title https://www.youtube.com/watch?v=pIY0k1PJD5s https://www.youtube.com/watch?v=KYSa8Jg1cMw&embeds_euri=https%3A%2F%2Fwww.carscoops.com%2F&source_ve_path=MjM4NTE&feature=emb_title   เครดิต motortrend/ electrive.com

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้