คาดขายไทยราคา 2.2-2.4 ล้านบาท 792 กม./ชาร์จ WLTP / 887 กม. NEDC Mercedes-Benz CLA 250+ ประกาศราคาในงาน Motor Show 2026

คาดขายไทยราคา 2.2-2.4 ล้านบาท 792 กม./ชาร์จ WLTP / 887 กม. NEDC Mercedes-Benz CLA 250+ ประกาศราคาในงาน Motor Show 2026
Spread the love
Advertisement Advertisement
คาดขายไทยราคา 2.2-2.4 ล้านบาท 792 กม./ชาร์จ WLTP / 887 กม. NEDC Mercedes-Benz CLA 250+ ประกาศราคาในงาน Motor Show 2026

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ประเดิมจัดงาน CLASS OF ITS OWN. “The new CLA Designer Talk” สร้างปรากฏการณ์ในรอบ 20 ปี ด้วยการดึงตัว “เดนนิส บริงส์” (Dennis Brings) ดีไซเนอร์ระดับโลกจาก Mercedes-Benz Design มาร่วมเผยแรงบันดาลใจและแนวคิดการออกแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เจเนอเรชันล่าสุด “The new CLA” ก่อนที่จะนำรุ่น CLA 250+ with EQ Technology มาจัดแสดงในประเทศไทยครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2025  วันที่ 28 พฤศจิกายน 2025 ส่วนราคาจำหน่ายจะประกาศในงาน MOTOR SHOW 2026 เดือนมีนาคมในประเทศไทย

แพ็กเกจการรับประกันจาก Mercedes-Benz ประเทศไทย

  • รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty) นาน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • รับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High-Voltage Battery Warranty) ยาวนาน 10 ปี หรือ 250,000 กม. เพื่อเพิ่มความอุ่นใจสำหรับผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ในระยะยาว

โดย The new CLA มาพร้อมแพลตฟอร์ม MMA (Mercedes-Benz Modular Architecture) ที่เน้นความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพการผลิตให้สามารถเข้ากับรถยนต์ทุกระบบขับเคลื่อนทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์สันดาปภายใน สอดคล้องกับการปรับกลยุทธ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จากเดิมที่ใช้ซับแบรนด์ Mercedes-EQ จะถูกเปลี่ยนมาอยู่ภายใต้แบรนด์ Mercedes-Benz ทั้งหมด โดยรถยนต์ทุกรุ่นที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จะใช้ชื่อรุ่นตามด้วย “with EQ Technology” ส่วนรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดจะตามด้วย “with EQ Hybrid Technology”

ไฮไลท์การเปิดตัว

  • เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ในงาน Motor Expo 2025 ขายปีหน้า Motor Show 2026 ราคา 2.2-2.4 ล้านบาท
  • รุ่น CLA 250+ with EQ Technology ใช้แพลตฟอร์ม MMA (Mercedes-Benz Modular Architecture) รองรับได้ทั้ง BEV, PHEV และ ICE
  • เป็น รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรก ที่ประกอบในประเทศไทยด้วยแพลตฟอร์ม MMA
  • ยุติการใช้ซับแบรนด์ Mercedes-EQ โดยรถ EV จะใช้ชื่อ “with EQ Technology” และ PHEV ใช้ “with EQ Hybrid Technology”

ขุมพลังและสมรรถนะ

  • กำลังสูงสุด: 272 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด: 335 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่: 800V ขนาด 85 kWh
  • ระยะทางวิ่งสูงสุด: 792 กม. ต่อการชาร์จเต็ม (มาตรฐาน WLTP)
  • ชาร์จเร็ว DC สูงสุด: 320 kW
  • ชาร์จเพียง 10 นาที ขับได้ไกลถึง 325 กม.

Mercedes-Benz CLA มิติตัวถัง และความจุสัมภาระ

Mercedes-Benz CLA รุ่นล่าสุดมาพร้อมงานออกแบบที่ผสานความปราดเปรียวกับความพรีเมียมในสไตล์ซีดานคูเป้ ภายใต้ตัวถังที่ให้สัดส่วนสมดุลทั้งความสปอร์ตและความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะในรุ่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EV) ที่โดดเด่นด้านอากาศพลศาสตร์และพื้นที่ใช้งานจริง

มิติตัวถัง Mercedes-Benz CLA

  • ความยาวตัวถัง: 4,723 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง: 1,855 มิลลิเมตร
  • ความสูง: 1,468 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,790 มิลลิเมตร

ด้วยขนาดตัวถังดังกล่าว CLA มีบุคลิกแบบซีดานคูเป้ทรงสปอร์ต เส้นสายไหลลื่น ตำแหน่งนั่งที่ต่ำในแบบรถยุโรป และมีความมั่นคงบนถนนมากขึ้นจากฐานล้อยาว 2.79 เมตร

ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน Cd = 0.21

จุดเด่นสำคัญของ CLA คือค่าลู่ลมเพียง 0.21 ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับรถยุคใหม่ที่ให้ความประหยัดพลังงานสูง เสียงลมต่ำ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระยะทางสำหรับรุ่นไฟฟ้า (EV)

พื้นที่เก็บสัมภาระ

  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย: 405 ลิตร – เหมาะกับกระเป๋าเดินทาง 2–3 ใบ
  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk): 101 ลิตร – พื้นที่เสริมที่หาไม่ได้ง่ายในรถซีดาน

การมี Frunk ขนาดกว่า 100 ลิตร ทำให้การใช้งานจริงสะดวกขึ้นมาก เหมาะสำหรับของที่ต้องหยิบใช้บ่อย เช่น สายชาร์จ หรือกระเป๋าใบเล็ก

ด้วยมิติตัวถังที่สมดุล ค่าลู่ลมต่ำ 0.21 และพื้นที่ใช้งานรวมกว่า 506 ลิตร Mercedes-Benz CLA ถือเป็นหนึ่งในรถซีดานพรีเมียมที่ให้ทั้งความสปอร์ต ความทันสมัย และความสามารถในการใช้งานจริง เหมาะกับทั้งครอบครัวเล็กและผู้ใช้ที่ต้องการรถพรีเมียมสไตล์คูเป้ในชีวิตประจำวัน

เทคโนโลยีและระบบภายใน

  • ระบบปฏิบัติการใหม่ MB.OS
  • ผู้ช่วยอัจฉริยะ MBUX Virtual Assistance ทำงานร่วมกับ Google
  • รองรับแอปฯ ระดับโลก: ChatGPT, Gemini, Google Maps, Microsoft Teams, Webex, Zoom ฯลฯ
  • ดีไซน์ภายนอก: กระจังหน้า Starpanel แบบไฟแอนิเมชัน, ไฟ DRL ทรง Star Shaped, ไฟท้าย Digital Jewelry
  • ดีไซน์ภายใน: แรงบันดาลใจจากสวนหินญี่ปุ่น “Zen Garden” ใช้วัสดุกระจก, โลหะ และหนังคุณภาพสูง

กลยุทธ์ในไทย

  • เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยใช้แนวทางการตลาด EV แตกต่างจากตลาดโลก

  • เริ่มทำตลาด EV ด้วยรุ่นเรือธงอย่าง EQS ก่อนลงสู่รุ่น Entry Luxury (EQB, EQE ฯลฯ)

  • มองว่า The new CLA จะเป็นโมเดลสำคัญเจาะกลุ่ม EV ระดับราคาจับต้องได้

The new CLA ในจีน

Mercedes-Benz CLA ใหม่ (EV) เปิดพรีเซลส์แล้วในจีน ราคาเริ่มราว 1.18 ล้านบาทไทย!

ในยุคที่โลกกำลังหมุนเข้าสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ค่ายรถหรูอย่าง Mercedes-Benz ก็ไม่พลาดที่จะส่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ลงตลาด และล่าสุดก็ถึงคิวของ Mercedes-Benz CLA ใหม่ พลังงานไฟฟ้า 100% ที่เพิ่งเปิดพรีเซลส์ในประเทศจีนไปเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา

ราคาเปิดพรีเซลส์

Mercedes-Benz CLA ไฟฟ้าใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่

  • CLA 300 L รุ่นเริ่มต้น ระยะทางไกลพิเศษ → 259,000 หยวน (ประมาณ 1,180,000 บาท)
  • CLA 300 L รุ่นท็อป ระยะทางไกลพิเศษ เพิ่มออปชัน → 299,000 หยวน (ประมาณ 1,362,000 บาท)

(คำนวณด้วยอัตรา 1 หยวน = 4.51 บาท)

ราคาที่เปิดมาเรียกได้ว่าค่อนข้าง “เร้าใจ” เพราะถ้าเทียบกับแบรนด์หรูในกลุ่มเดียวกัน CLA ใหม่ถือว่า “คุ้มค่า” อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อมองที่ออปชันและเทคโนโลยีที่ให้มาแบบจัดเต็ม

สิทธิพิเศษสำหรับผู้จองล่วงหน้า

ลูกค้าที่วางเงินจองเพียง 3,000 หยวน (≈ 13,530 บาท) จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย รวมมูลค่ากว่า 20,000 หยวน (เกิน 90,000 บาท) เช่น

  • ชุดท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ มูลค่าราว 32,923 บาท

  • ระบบเสียงระดับพรีเมียม Burmester มูลค่า 26,609 บาท

  • เลือกระหว่างบัตรชาร์จ Super Charge มูลค่า 22,550 บาท หรือ Wallbox Charger มูลค่า 22,545 บาท

  • รวมถึงสิทธิใช้งานแพ็กเกจระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะทั้งในเมืองและทางด่วน

พูดง่ายๆ คือ แค่จองก็คุ้มแล้ว

ดีไซน์ภายนอก: หรูหราแต่ล้ำอนาคต

  • กระจังหน้า (grille) ถูกออกแบบให้มีลวดลายดาว LED กระจายเต็มพื้นผิว — เป็นเอกลักษณ์ที่สื่อถึงตัวตนของ Mercedes — และบางเวอร์ชันอาจมีไฟแบ็คไลต์ซ่อนอยู่ในกระจังหน้า
  • ไฟหน้าเป็น LED ที่ดีไซน์เรียวเฉียบ ติดตั้งในแนวที่เชื่อมโยงกับกระจังหน้า ช่วยให้ด้านหน้าดูลื่นไหลเป็นหนึ่งเดียว
  • กันชนหน้ามีช่องดักอากาศ (air intakes) แบบเรียบแต่ทรงพลัง มีดีไซน์ที่ช่วยลดแรงต้านอากาศและเสริมลุคสปอร์ต
  • รูปทรงตัวถังเป็นสไตล์คูเป้ซีดาน (coupe-like roofline) หลังคาลาดเอียงลงให้ความรู้สึกสปอร์ต พร้อมยังคงความนุ่มนวลไม่กระด้าง
  • ประตูด้านข้างอาจใช้ดีไซน์ “ไร้กรอบ” (frameless doors) ที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหรา
  • เส้นสายด้านข้าง (character lines) ถูกออกแบบให้ลากยาวจากส่วนหน้าจนถึงส่วนท้าย เพื่อสร้างพลวัตในการรับแสงเงา
  • มือจับประตูแบบซ่อนหรือนูนต่ำ (flush or recessed door handles) เพื่อความลู่ลมและเส้นสายที่เรียบเนียน
  • ซุ้มล้อมีความมั่นคง โดดเด่น และมักมีขอบที่สื่อถึงความแข็งแรง
  • ไฟท้ายเป็น LED ที่เชื่อมต่อกับกันทั้งแนวกว้างของรถ (light bar) ทำให้ด้านท้ายดูกว้างและทันสมัย
  • แบบไฟออกแบบให้มีลวดลายดาว / LED แยกเป็นจุด ๆ ในระดับหนึ่ง เพื่อสื่อถึงธีมดาว (star motif) ที่ใช้ในกระจังหน้า
  • ฝาท้าย (trunk lid) มีเส้นเรียบ สะอาดตา และไม่มีการตกแต่งที่เกะกะ — หมายเลขทะเบียนมักจะวางที่กันชน
  • กันชนหลังมีดีไซน์ diffuser / insert ด้านล่าง (มักเป็นพลาสติกรุ่นสีดำเงา) เพื่อให้ดูสปอร์ตและบาลานซ์กับด้านหน้ารถ
  • หลังคาพาโนรามา (panoramic glass roof) — กระจกครอบคลุมด้านบน ช่วยให้รถดูโปร่งและมีความหรู
  • กระจกมองข้างติดตั้งบนบานประตู (ไม่ติดเสา A) เพื่อให้ลู่ลมและการมองเห็นดีขึ้น
  • เสารอบคัน (A-pillar, B-pillar, C-pillar) ถูกออกแบบให้กลืนกับเส้นสายตัวถัง — เสริมภาพรวมที่เป็นหนึ่งเดียว
  • ล้ออัลลอย (alloy wheels) ดีไซน์ใหม่ — มีขอบเงา / ดำสลับ / ดีไซน์ลายที่โดดเด่น เพื่อเสริมบุคลิกภาพให้รถดูหรูแบบสปอร์ต
  • ผิวพื้นผิวตัวถัง (body surfaces) ใช้แนวคิด “น้อยแต่มาก” — หลีกเลี่ยงเส้นย้ำที่เยอะเกินไป ให้ผิวนูน-เว้าธรรมชาติรับเงา

 มิติและความสบาย

  • ขนาดตัวถัง: 4763 × 1836 × 1471 มม.

  • ระยะฐานล้อ: 2830 มม. (+40 มม. จากรุ่นมาตรฐาน)

การเพิ่มความยาวฐานล้อทำให้พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังโปร่งขึ้น เบาะนั่งยาวขึ้น 10 มม. → ผู้โดยสารตอนหลังนั่งสบายขึ้นชัดเจน

ห้องโดยสารล้ำสมัย

  • Mercedes ยึดแนวคิด “เทคโนโลยี + มินิมัลลิสต์ + ไฟฟ้า” — ภายในถูกออกแบบให้เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อสื่อถึงรถยนต์แห่งยุคใหม่ และให้ความรู้สึก “ล้ำหน้าแต่หรูหรา” พร้อมทั้งมีอารมณ์ “futuristic lounge” มากกว่าจะเป็นห้องโดยสารแบบเดิม ๆ
  • แผงหน้าปัดแบบดิจิทัลใช้จอหลายชิ้น (dual / triple display) — มีจอสำหรับผู้ขับขี่ (instrument cluster) และจอ infotainment ขนาดใหญ่ รวมถึงในรุ่นสูงอาจมีจอแยกสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า (passenger display)
  • การเชื่อมจอ (screen integration) ถูกทำให้ดูเป็นแผงเดียวต่อเนื่องกับแผงควบคุม (seamless integration) — ขอบจอและเส้นสายบนแผงควบคุมจะกลมกลืน และลดปุ่ม /สวิตช์ให้เหลือน้อยที่สุด
  • การออกแบบช่องลมแอร์แบบกังหัน (turbine / jet engine style vents) อยู่บนแผงคอนโซล — ใช้เป็นองค์ประกอบตกแต่งที่มีความโดดเด่นทางสายตา
  • ใช้ระบบปฏิบัติการ MB.OS ซึ่งเป็นระบบที่ Mercedes พัฒนาขึ้นเอง และเป็นรุ่นที่ MBUX เข้าสู่ยุคที่ 4 (4th generation)
  • ระบบช่วยสั่งการด้วยเสียง (voice assistant) ที่ต่อยอดด้วยเทคโนโลยี AI – มีการบูรณาการกับ ChatGPT, Google Gemini ฯลฯ เพื่อให้การสั่งงาน /โต้ตอบกับรถทำได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ over-the-air (OTA) เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในภายหลัง
  • ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หนัง / Alcantara / ผ้า /วัสดุสัมผัสนุ่ม (soft-touch) บริเวณจุดสัมผัสหลัก (เช่น แผงประตู, ที่เท้าแขน)
  • มีการประดับด้วยวัสดุสีเมทัลลิก / แผ่นตกแต่ง (trim) เพื่อเพิ่มความหรู เช่น ขอบโลหะ / เส้นสายตกแต่งที่ติดตั้งเรียบกับพื้นผิว
  • Ambient Lighting / แสงส่องสว่างภายใน (ไฟประดับ) ช่วยสร้างบรรยากาศภายใน พร้อมตัวเลือกหลายโทนสี เพื่อให้ผู้ขับและผู้โดยสารปรับตามอารมณ์ได้
  • เบาะนั่งด้านหน้าออกแบบให้รองรับสรีระ (ergonomic) พร้อมฟังก์ชันปรับได้ (อาจมีระบบไฟฟ้า / memory)
  • เบาะหลังในรุ่น LWB (long wheelbase) จะได้รับประโยชน์พื้นที่ขา (legroom) ที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้โดยสารด้านหลัง
  • หลังคาพาโนรามา (panoramic roof) — มักมีให้ในบางรุ่น เพื่อเพิ่มความโปร่งสบายให้กับห้องโดยสาร
  • มีการออกแบบช่องเก็บของในแผงประตู / คอนโซลกลาง / ที่วางแก้วให้ใช้ประโยชน์ได้จริง
  • ในรุ่นไฟฟ้า CLA มี “frunk” (front trunk) หรือช่องเก็บของด้านหน้าหลังจากถอดแบตเตอรี่บางส่วนออก ใช้เป็นพื้นที่เก็บของเพิ่ม
  • ปุ่มสัมผัส /แผงควบคุมแบบ Haptic (สัมผัส / นิ้วแตะ) แทนปุ่มกายภาพบางจุด
  • ระบบควบคุมอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ (dual zone / multi zone climate control)
  • ระบบเสียงคุณภาพสูง (อาจมีลำโพงแบรนด์พรีเมียม)
  • ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ / จอ HUD /ระบบมองรอบคัน /กล้อง /เซนเซอร์อื่น ๆ อาจฝังในภายในให้ดูเรียบและไม่รบกวนสายตา

พลังงานและสมรรถนะ

Mercedes-Benz CLA ใหม่ พัฒนาบนแพลตฟอร์ม MMA (Mercedes-Benz Modular Architecture) ซึ่งมีจุดเด่นคือ

Advertisement Advertisement
  • สถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V → ชาร์จเร็วขึ้น
  • มอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 272 แรงม้า
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 89 kWh
  • ระยะทางวิ่งสูงสุด 866 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน CLTC)
  • ใช้พลังงานเพียง 10.9 kWh ต่อ 100 กม.
  • สำหรับการชาร์จ AC (ที่บ้าน / สถานีชาร์จช้า) สเปกระบุว่ารองรับ 11 kW แบบ 3 เฟส
  • รุ่น CLA รองรับ DC fast charging สูงสุด 320 kW ช่วงการชาร์จ 10 % → 80 % ใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 18 นาที 19 วินาที

ตัวเลขเหล่านี้ถือว่าทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน

ระบบช่วยขับ / ผู้ช่วยขับ (Driver Assistance / ADAS)

  • MB.DRIVE: เป็นแพ็กเกจระบบช่วยขับที่ Mercedes ใช้กับ CLA รุ่นใหม่ ประกอบด้วยหลายโหมด เช่น DRIVE ASSIST, DRIVE ASSIST PLUS, DRIVE ASSIST PRO, DRIVE PARKING ASSIST, DRIVE PARKING ASSIST 360 2
  • ระบบ Adaptive Cruise Control (เช่น DISTRONIC): ควบคุมความเร็วอัตโนมัติและรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าได้
  • Lane-Keeping / Active Lane-Keeping Assist: ช่วยรักษาเลนให้อยู่ตรงกลาง และช่วยเบี่ยงกลับเมื่อมีการเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • Active Steering Assist / Lane Change Assist / Evasive Steering Assist: มีในรุ่นที่มีออปชัน เพื่อช่วยในสถานการณ์ที่ต้องเปลี่ยนเลน หรือเลี่ยงสิ่งกีดขวางอย่างปลอดภัย
  • Active Brake Assist / Collision Mitigation / Autonomous Emergency Braking: ระบบตรวจจับการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติหากผู้ขับไม่ตอบสนอง
  • Crosswind Assist: ช่วยควบคุมทิศทางและเสถียรภาพเมื่อโดนลมแรงจากด้านข้าง
  • Surround View System / กล้องรอบคัน 360°: ช่วยให้มองเห็นรอบคันเวลาจอด / เคลื่อนตัวในพื้นที่แคบ
  • PARKTRONIC กับ Active Parking Assist: ช่วยจอดรถ โดยระบบช่วยเลี้ยว / ควบคุมเบรกให้เมื่อจอดเข้าซองหรือออกซองได้ง่ายขึ้น
  • Traffic Sign Assist / Speed Limit Assist: ระบบอ่านป้ายจราจร (ป้ายจำกัดความเร็ว) และช่วยเตือน /ปรับความเร็วให้สอดคล้องกับป้ายถ้ามีออปชัน
  • Active Emergency Stop Assist: ถ้าผู้ขับหมดสติ ระบบสามารถหยุดรถได้อย่างปลอดภัย (ในบางรุ่น / ออปชัน)
  • ระบบตรวจจับผู้ขับ (Driver Monitoring / Attention Assist): ติดตามพฤติกรรมผู้ขับ (เช่น เส้นทางการบังคับพวงมาลัย) หากตรวจพบเหนื่อยล้าเตือนให้พัก

ระบบป้องกัน / ระบบพาสซีฟ (Passive Safety & Supplemental Systems)

  • ถุงลมนิรภัยหลายจุด (Front airbags, Side airbags, Curtain airbags) เพื่อป้องกันแรงกระแทกจากหลายทิศทาง
  • ถุงลมนิรภัยกลาง (Center Airbag) ระหว่างผู้ขับกับผู้โดยสารด้านหน้า — เป็นครั้งแรกใน сегмент (กลุ่มรถขนาดเล็ก /คอมแพกต์) ที่ Mercedes ทำใน CLA รุ่นใหม่นี้
  • โครงสร้างตัวถังเสริมแรง (High-strength steel / โครงสร้างนิรภัย) เพื่อดูดซับแรงกระแทกรอบด้านและลดการแปลงรูป (deformation)
  • ระบบ PRE-SAFE®: เมื่อระบบตรวจจับได้ถึงสถานการณ์เสี่ยง จะเตรียมตัวให้ผู้โดยสารอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย (เช่น รั้งเข็มขัด, ปรับเบาะ, ปิดหน้าต่าง /หลังคา ฯลฯ)
  • ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน (Mercedes-Benz Emergency Call) — เมื่อเกิดอุบัติเหตุ รถสามารถส่งสัญญาณ /โทรแจ้งขอความช่วยเหลือโดยอัตโนมัติ
  • ระบบเตือนแรงดันลมยาง (TPMS / Tire Pressure Monitoring) — ตรวจสอบสถานะลมยางอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัย
  • ระบบป้องกันการโจรกรรม / สัญญาณเตือน (Anti-theft alarm system) และคุณสมบัติ remote panic / remote alarm


ภายนอก: ชุดแต่ง AMG Line Plus สีแดงเมทัลลิก MANUFAKTUR patagonia
ภายนอก:
รุ่น AMG Line สีน้ำเงินเมทัลลิกใส
ภายนอก:
รุ่น AMG Line สีน้ำเงินเมทัลลิกใส
ภายนอก:
รุ่น AMG Line สีน้ำเงินเมทัลลิกใส

ภายนอก: ชุดแต่ง AMG Line Plus สีแดงเมทัลลิก MANUFAKTUR patagonia

ภายนอก: ชุดแต่ง AMG Line Plus สีแดงเมทัลลิก MANUFAKTUR patagonia
ภายนอก: รุ่น Edition, AMG
Line, สีดำ Cosmos Black Magno

เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLA รุ่นใหม่: เนื้อหาที่แสดงอาจแตกต่างจากรุ่นที่ผลิตจริงเล็กน้อย รุ่นพิเศษ AMG Line ภายในตกแต่งด้วยหนังสีน้ำตาลทาร์ทู
โฟ
Mercedes-Benz CLA รุ่นใหม่พร้อม
เครื่องยนต์ไฮบริดไฮเทค
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว CLA รุ่นใหม่ล่าสุด ใน
งานเปิดตัวสุดอลังการ ณ วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025
โรม อิตาลี – 13 มีนาคม: โอลา คัลเลนิอุส เข้าร่วมงานเปิดตัวรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLA รุ่นใหม่ล่าสุด ณ วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025 (ภาพโดย วิตโตริโอ ซูนีโน เซโลตโต/เก็ตตี อิมเมจส์ สำหรับ
เมอร์เซเดส-เบนซ์)
โรม อิตาลี – 13 มีนาคม 2025: คามิลลา คาเบลโล เข้าร่วมงานเปิดตัวรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLA รุ่นใหม่ล่าสุด ณ วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี (ภาพโดย เออร์เนสโต เอส. รุสซิโอ/เก็ตตีอิมเมจ สำหรับเมอร์เซเดส
-เบนซ์)
โรม อิตาลี – 13 มีนาคม 2025: ลูเซียน ลาวิสเคานต์ เข้าร่วมงานเปิดตัวรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLA รุ่นใหม่ล่าสุด ณ วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี (ภาพโดย เออร์เนสโต เอส. รุสซิโอ/เก็ตตี อิมเมจส์ สำหรับเมอร์เซเดส
-เบนซ์)
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว CLA รุ่นใหม่ล่าสุด ใน
งานเปิดตัวสุดอลังการ ณ วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว CLA รุ่นใหม่ล่าสุด ใน
งานเปิดตัวสุดอลังการ ณ วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว CLA รุ่นใหม่ล่าสุด ใน
งานเปิดตัวสุดอลังการ ณ วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว CLA รุ่นใหม่ล่าสุด ใน
งานเปิดตัวสุดอลังการ ณ วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว CLA รุ่นใหม่ล่าสุด ใน
งานเปิดตัวสุดอลังการ ณ วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025

เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเปิดตัว CLA รุ่นใหม่ในงานอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ที่วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ในวันที่ 13 มีนาคม 2025

เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเปิดตัว CLA รุ่นใหม่ในงานอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ที่วิลลา มิอานี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ในวันที่ 13 มีนาคม 2025
Mercedes-Benz และ will.i.am ยกระดับความบันเทิงในรถยนต์ไปอีกขั้นด้วย
FYI RAiDiO E-Class
Mercedes-Benz และ will.i.am ยกระดับความบันเทิงในรถยนต์ไปอีกขั้นด้วย
FYI RAiDiO E-Class
Mercedes-Benz และ will.i.am ยกระดับความบันเทิงในรถยนต์ไปอีกขั้นด้วย
FYI RAiDiO E-Class
Mercedes-Benz และ will.i.am ยกระดับความบันเทิงในรถยนต์ไปอีกขั้นด้วย FYI RAiDiO CLA
Mercedes-Benz และ will.i.am ยกระดับความบันเทิงในรถยนต์ไปอีกขั้นด้วย FYI RAiDiO CLA

Mercedes-Benz

 

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้