Advertisement

Advertisement

เผยภาพ MG Cyberster ไฟฟ้า เปิดประทุน 2 ที่นั่ง เวอร์ชั่นจำหน่ายจริง ก่อนเปิดตัวในจีน

เผยภาพ MG Cyberster ไฟฟ้า เปิดประทุน 2 ที่นั่ง เวอร์ชั่นจำหน่ายจริง ก่อนเปิดตัวในจีน

Advertisement

Advertisement
วันที่ 11 เมษายน 2023 มีการปล่อยภาพใหม่ เวอร์ชั่นจำหน่ายจริงของ MG Cyberster ที่กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ประเทศจีน คาดว่ารถใหม่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และ เผยโฉมที่งาน Shanghai Auto Show 2023 วันที่ 18 เมษายน 2023
รถยนต์คันนี้คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Shanghai Auto Show ปี 2023 ในเดือนเมษายน 2023 ประเทศจีน
ล่าสุดมีการเผยแพร่ภายในห้องโดยสาร Cyberster โรสเตอร์ไฟฟ้า คาดว่านี้คือเวอร์ชั่นผลิตจำหน่ายจริงๆ ก่อนเปิดตัวในงาน 2023 Shanghai Auto Show ซึ่งจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2023 ประเทศจีน

ภาพการทดสอบวิ่งของ MG Cyberster โรสเตอร์ไฟฟ้า 2 ที่นั่งใหม่ ในประเทศจีน คาดว่ารุ่นผลิตจำหน่ายนี้จะเปิดราคาในปีหน้า

วันที่ 15 กรกฎาคม 2022 MG ประกาศรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมปล่อยทีเซอร์ Cyberester โรสเตอร์รถสปอร์ตสองที่นั่งที่มีประตูปีกนก
วันที่ 15 กรกฎาคม 2022 MG ประกาศรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมปล่อยทีเซอร์ Cyberester โรสเตอร์รถสปอร์ตสองที่นั่งที่มีประตูปีกนก

 

 

MG กำลังอยู่ในระหว่างการเปิดตัว ‘Project E’ รถโรดสเตอร์ไฟฟ้าสองที่นั่งในเดือนเมษายนปีหน้า 2023 ก่อนส่งมอบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรในช่วงครึ่งแรกปี 2024

ชื่อแรกทีเราเห็นคือ MG Cyberster Electric Roadster แต่คาดว่าพวกเขาจะใช้ชื่อ A ถึง E อย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับการเปิดตัวเวอร์ชั่นจำหน่ายจริง

Guy Pigounakis ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของ MG UK บอกกับ Autocar ในงานล่าสุดว่า “รถที่ผลิตจริงจะพลิกเกมในแง่ของการรับรู้ของแบรนด์” มีให้เลือกทั้ง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และ มอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อสมรรถนะสูง

นอกจากนี้ MG ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในชื่อ ‘MG A ถึง E EV’ ซึ่งอาจเป็นการดีไซน์ของแบรนด์ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 มาใช้งาน ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าแบรนด์จะพยายาม จะทำซีรีย์นี้เป็นรถเปิดประทุนทั้งหมดหรือไม่

แน่นอนว่า MG Cyberster เวอร์ชั่นต้นแบบไม่สามารถผลิตแบบนั้นได้ เพราะต้องมีการปรับปรุงหลายอย่าง ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดคือหลังคา เพราะรถต้นแบบไม่มีหลังคา นอกจากนี้ MG ยังเลือกใช้รถคูเป้หหลังคาแบบแข็งยึดหดได้ เป็นการสร้างโรสเตอร์ในอดีตยุค 1960 – 1970 กลับมาอีกครั้ง

ด้านข้างดูค่อนข้างยาวไปหน่อย รอบพับข้างมีการออกแบบหรูหรา ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับต้นแบบ หลังคาจะเก็บไว้ใต้แผงดาดฟ้าด้านหลัง พร้อมการออกแบบไฟรูปลูกศร สปอยเลอร์ในตัว ไร้มือจับประตู

Advertisement

Advertisement

MG Cyberster น่าจะเป็นรถโรดสเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเป็นจำนวนมาก และมันสามารถแข่งขันกับ MX-5 ไฟฟ้าในอนาคตได้แบบสบายๆ

Cyberster พัฒนาโดยทีมงานที่ MG Advanced Design Centre ในลอนดอนโดยนำสัญลักษณ์บางอย่างมาจาก MGB Roadster เช่นไฟหน้าทรงกลม “Magic Eye” กระจังหน้าแบบบาง แถบ LED ด้านหน้า ไฟท้ายแบบ LED พร้อมกราฟิกคล้ายธงชาติอังกฤษ

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4535 มม.
  • กว้าง 1913 มม.
  • สูง 1329 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2690 มม.

MG Cyberster มันจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Tesla Roadster สปอร์ต 2 ประตูไฟฟ้า

  • SAIC Motor Corporation Limited เป็น บริษัท ออกแบบและผลิตยานยนต์ของจีนที่มีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ด้วยการดำเนินงานข้ามชาติ บริษัท ฟอร์จูนโกลบอล 100 และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับ 4 ในจีน

MG Cyberster จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพสูง มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยว ให้กำลังระหว่าง 309 – 470 แรงม้า และ รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ มอเตอร์หน้า 201 แรงม้า มอเตอร์หลัง 470 แรงม้า คาดว่าสามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที วิ่งได้ 800 กม./ชาร์จ

  • แบตเตอรี่แบบไร้โมดูล (Moduleless Battery) รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ทคโนโลยีการชาร์จ 800 โวลต์

ภายในห้องโดยสารออกแบบในธัม ดิจิตอลไฟเบอร์ เน้นการตกแต่งที่เอนเอียงไปทางด้านคนขับ เพื่อนำเสนอความสปอร์จสองที่นั่งแบบคลาสสิก เน้นการออกแบบเรียบง่าย พวงมาลัยแบบแป้นเกม ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ด้วยพวงมาลัย

ออกแบบเบาะนั่งแบบ Zero-Gravity ทูโทน สีแดง-ขาว หัวเบาะทรงเหลี่ยมเพชน รองรับสรีระอย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ในด้านของเทคโนโลยียังสามารถรองรับระบบการเชื่อมต่อแบบ 5G และติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 3 (Autonomous Level 3 : Conditional Automation)

วันที่ 15 กรกฎาคม 2022 MG ประกาศรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมปล่อยทีเซอร์ Cyberester โรสเตอร์รถสปอร์ตสองที่นั่งที่มีประตูปีกนก
วันที่ 15 กรกฎาคม 2022 MG ประกาศรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมปล่อยทีเซอร์ Cyberester โรสเตอร์รถสปอร์ตสองที่นั่งที่มีประตูปีกนก

 

 

MG กำลังอยู่ในระหว่างการเปิดตัว ‘Project E’ รถโรดสเตอร์ไฟฟ้าสองที่นั่งในเดือนเมษายนปีหน้า 2023 ก่อนส่งมอบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรในช่วงครึ่งแรกปี 2024

ชื่อแรกทีเราเห็นคือ MG Cyberster Electric Roadster แต่คาดว่าพวกเขาจะใช้ชื่อ A ถึง E อย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับการเปิดตัวเวอร์ชั่นจำหน่ายจริง

Guy Pigounakis ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของ MG UK บอกกับ Autocar ในงานล่าสุดว่า “รถที่ผลิตจริงจะพลิกเกมในแง่ของการรับรู้ของแบรนด์” มีให้เลือกทั้ง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และ มอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อสมรรถนะสูง

นอกจากนี้ MG ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในชื่อ ‘MG A ถึง E EV’ ซึ่งอาจเป็นการดีไซน์ของแบรนด์ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 มาใช้งาน ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าแบรนด์จะพยายาม จะทำซีรีย์นี้เป็นรถเปิดประทุนทั้งหมดหรือไม่

แน่นอนว่า MG Cyberster เวอร์ชั่นต้นแบบไม่สามารถผลิตแบบนั้นได้ เพราะต้องมีการปรับปรุงหลายอย่าง ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดคือหลังคา เพราะรถต้นแบบไม่มีหลังคา นอกจากนี้ MG ยังเลือกใช้รถคูเป้หหลังคาแบบแข็งยึดหดได้ เป็นการสร้างโรสเตอร์ในอดีตยุค 1960 – 1970 กลับมาอีกครั้ง

ด้านข้างดูค่อนข้างยาวไปหน่อย รอบพับข้างมีการออกแบบหรูหรา ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับต้นแบบ หลังคาจะเก็บไว้ใต้แผงดาดฟ้าด้านหลัง พร้อมการออกแบบไฟรูปลูกศร สปอยเลอร์ในตัว ไร้มือจับประตู

MG Cyberster น่าจะเป็นรถโรดสเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเป็นจำนวนมาก และมันสามารถแข่งขันกับ MX-5 ไฟฟ้าในอนาคตได้แบบสบายๆ

Cyberster พัฒนาโดยทีมงานที่ MG Advanced Design Centre ในลอนดอนโดยนำสัญลักษณ์บางอย่างมาจาก MGB Roadster เช่นไฟหน้าทรงกลม “Magic Eye” กระจังหน้าแบบบาง แถบ LED ด้านหน้า ไฟท้ายแบบ LED พร้อมกราฟิกคล้ายธงชาติอังกฤษ

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4535 มม.
  • กว้าง 1913 มม.
  • สูง 1329 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2690 มม.

MG Cyberster มันจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Tesla Roadster สปอร์ต 2 ประตูไฟฟ้า

  • SAIC Motor Corporation Limited เป็น บริษัท ออกแบบและผลิตยานยนต์ของจีนที่มีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ด้วยการดำเนินงานข้ามชาติ บริษัท ฟอร์จูนโกลบอล 100 และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับ 4 ในจีน

MG Cyberster จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพสูง มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยว ให้กำลังระหว่าง 309 – 470 แรงม้า และ รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ มอเตอร์หน้า 201 แรงม้า มอเตอร์หลัง 470 แรงม้า คาดว่าสามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที วิ่งได้ 800 กม./ชาร์จ

  • แบตเตอรี่แบบไร้โมดูล (Moduleless Battery) รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ทคโนโลยีการชาร์จ 800 โวลต์

ภายในห้องโดยสารออกแบบในธัม ดิจิตอลไฟเบอร์ เน้นการตกแต่งที่เอนเอียงไปทางด้านคนขับ เพื่อนำเสนอความสปอร์จสองที่นั่งแบบคลาสสิก เน้นการออกแบบเรียบง่าย พวงมาลัยแบบแป้นเกม ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ด้วยพวงมาลัย

ออกแบบเบาะนั่งแบบ Zero-Gravity ทูโทน สีแดง-ขาว หัวเบาะทรงเหลี่ยมเพชน รองรับสรีระอย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ในด้านของเทคโนโลยียังสามารถรองรับระบบการเชื่อมต่อแบบ 5G และติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 3 (Autonomous Level 3 : Conditional Automation)

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้