เปิดขายยุโรป เริ่ม 1.73 – 2.13 ล้านบาท MG IM5 ซีดานไฟฟ้า 490 – 655 กม./ชาร์จ WLTP

 

      

 

 

MG ได้ใช้เวทีงาน Goodwood Festival of Speed เพื่อเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น รถยนต์ต้นแบบ 1 คัน และรถยนต์ที่เน้นการออกแบบอีก 1 คัน นอกจากนี้ยังได้นำเสนอรถยนต์ต้นแบบ EX4 ซึ่งเป็นการนำรถแรลลี่ Metro 6R4 กลับมาสร้างสรรค์ใหม่ด้วย

• รุ่นแบตเตอรี่ 75 kWh (รุ่นมาตรฐาน): เริ่มต้นที่ 39,450 ปอนด์ หรือประมาณ 1.73 ล้านบาท
• รุ่น Long Range แบตเตอรี่ 100 kWh: 44,995 ปอนด์ หรือประมาณ 1.98 ล้านบาท
• รุ่น Performance แบตเตอรี่ 100 kWh: 48,495 ปอนด์ หรือประมาณ 2.13 ล้านบาท

ข้อมูลจำเพาะเชิงเทคนิคของ MG IM5 แยกตามรุ่นย่อย

 MG IM5 Premium RWD

• มอเตอร์ไฟฟ้า:
  • กำลัง: 295 PS (ประมาณ 217 kW)
  • แรงบิด: 450 Nm
• ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 4.6 วินาที
• แพลตฟอร์มไฟฟ้า: 400V IGBT
• แบตเตอรี่ LFP 75kWh
  • ระยะทางขับขี่ WLTP: 490 กม.
• การชาร์จ DC (กระแสตรง – Fast Charging):
  • กำลังสูงสุด: 153 kW
  • เวลาชาร์จ 30% – 80%: ประมาณ 20 นาที
• การชาร์จ AC (กระแสสลับ – Home/Public Charging):
  • กำลังสูงสุด: 11 kW
• V2L (จ่ายไฟนอกรถ): รองรับ (สูงสุด 6.6 kW)

MG IM5 Platinum RWD

• มอเตอร์ไฟฟ้า:
  • กำลัง: 407 PS (ประมาณ 300 kW)
  • แรงบิด: 500 Nm
• ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 4.6 วินาที
• แพลตฟอร์มไฟฟ้า: 800V SiC (Silicon Carbide)
• แบตเตอรี่ NMC 100kWh
• ระยะทางขับขี่ WLTP: 655 กม.
• การชาร์จ DC (กระแสตรง – Fast Charging):
  • กำลังสูงสุด: 396 kW (โดดเด่นมาก)
  • เวลาชาร์จ 30% – 80%: ประมาณ 15.2 นาที
  • เวลาชาร์จ 10% – 80%: ประมาณ 17 นาที
• การชาร์จ AC (กระแสสลับ – Home/Public Charging):
  • กำลังสูงสุด: 11 kW
• V2L (จ่ายไฟนอกรถ): รองรับ (สูงสุด 6.6 kW)

MG IM5 Performance AWD

• มอเตอร์ไฟฟ้า
• มอเตอร์คู่ (หน้า-หลัง):
  • กำลังรวม: 742 PS (538 kW) (หน้า 271 PS + หลัง 505 PS)
  • แรงบิดรวม: 802 Nm (หน้า 302 Nm + หลัง 500 Nm)
• ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD)
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 3.2 วินาที (บางแหล่ง 2.74 วินาที)
• แบตเตอรี่ NMC 100kWh
  • แพลตฟอร์มไฟฟ้า: 800V SiC (Silicon Carbide)
  • ระยะทางขับขี่ WLTP: 575 กม.
• การชาร์จ DC (กระแสตรง – Fast Charging):
  • กำลังสูงสุด: 396 kW
  • เวลาชาร์จ 30% – 80%: ประมาณ 15.2 นาที
  • เวลาชาร์จ 10% – 80%: ประมาณ 17 นาที
• การชาร์จ AC (กระแสสลับ – Home/Public Charging):
  • กำลังสูงสุด: 11 kW
• V2L (จ่ายไฟนอกรถ): รองรับ (สูงสุด 6.6 kW)

สำหรับ MG IM5 Executive Liftback เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นอากาศพลศาสตร์ มีเส้นสายพลิ้วไหวชวนให้นึกถึง Porsche Taycan อยู่เล็กน้อย โดดเด่นด้วยเส้นสายที่โค้งมนอย่างนุ่มนวล, มือจับประตูแบบฝังเรียบ, และค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.226

ภายนอกและภายใน

• หลังคากระจกพาโนรามา: เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับห้องโดยสาร
• ล้อขนาด 19 นิ้ว: ออกแบบเพื่อหลักอากาศพลศาสตร์
• สปอยเลอร์โดดเด่น: ช่วยเสริมรูปลักษณ์สปอร์ต
• ไฟท้าย LED: ดีไซน์ทันสมัย
• ประตูท้ายแบบยกเปิด: เผยให้เห็นพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 16.1 ลูกบาศก์ฟุต (457 ลิตร)

แม้ MG จะไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับภายในมากนัก แต่ก็มีหน้าจอขนาด 26.3 นิ้ว ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งแผงหน้าปัดดิจิทัลและระบบอินโฟเทนเมนต์ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนี้ยังมีหน้าจอสัมผัสขนาด 10.5 นิ้วที่อยู่ด้านล่างอีกด้วย

IM5 มาพร้อมเบาะนั่ง “สไตล์หนัง” ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ (ร้อนและเย็น) และระบบเครื่องเสียง 20 ลำโพง นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วยวัสดุเมทัลลิกและที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย

ข้อมูลทางเทคนิค (Technical)

• ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
• ขนาดตัวรถ (ย×ก×ส): 4,931 × 1,960 × 1,474 มม.
• ฐานล้อ: 2,950 มม.
• ระยะต่ำสุดจากพื้น: 120 มม. (ไม่บรรทุก)
• ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.226

ระบบช่วงล่างและบังคับเลี้ยว (Chassis & Suspension)

• ช่วงล่างหน้า: Double Wishbone
• ช่วงล่างหลัง: Multi-link
• ระบบ Air Suspension
• ระบบ Adaptive Damping Control
• ระบบพวงมาลัย 4 ล้อ (Crab Mode)
• ล้อหน้า 245/40 R20 / ล้อหลัง 275/30 R20
• เบรกหน้า Continental 4 พอต
• ระบบเบรก Brake-By-Wire + Regenerative Braking
• ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าไวต่อความเร็ว

ภายนอก (Exterior)

• LED Headlights: ไฟหน้าระบบ LED สว่างชัด มีดีไซน์เฉียบคมทันสมัย
• LED Strip Taillights: ไฟท้าย LED แบบแถบยาวเชื่อมทั้งสองฝั่ง ดูล้ำสมัยในยามค่ำคืน
• Active Grille Shutter (AGS): กระจังหน้าปรับเปิด-ปิดได้อัตโนมัติเพื่อลดแรงต้านอากาศ (ช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มระบายอากาศเวลาต้องการ)
• Frameless Doors: ประตูแบบไร้กรอบ (แนวสปอร์ต-พรีเมียมเหมือนรถสไตล์คูเป้)
• Power Release: ระบบเปิดประตูด้วยไฟฟ้า – ไม่ต้องดึงมือจับแบบกลไก
• Automatic Flush Door Handles: มือจับประตูแบบเรียบไปกับตัวถัง โผล่ออกมาอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้ (ลดแรงต้านลม + ความหรูหรา)
• Hands-free Power Tailgate: ฝาท้ายไฟฟ้าเปิด-ปิดได้โดยไม่ต้องใช้มือ (เตะเปิดใต้กันชน)
• Power Side Mirrors: กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน:
  • จดจำตำแหน่ง (Memory)
  • มีระบบทำความร้อน (Heated)
  • เอียงลงอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอย (Auto Tilt Down)
  • มีเซ็นเซอร์มุมอับ (BSD)
• Rain-Sensing Front Windshield Wipers: ใบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ทำงานตามปริมาณฝน
• Hidden Spray Nozzles: หัวฉีดน้ำล้างกระจกแบบซ่อนในใบปัด (ดูเนียนสะอาดตา ไม่เกะกะ)
• ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว
  • หน้า 245 มม. / หลัง 275 มม. (แบบ Staggered – หน้าเล็ก หลังใหญ่)
  • ใช้ยาง PIRELLI P-ZERO (แนวสปอร์ตระดับพรีเมียม)
  • ดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน พร้อมคาลิเปอร์ Continental 4 พอต (เฉพาะรุ่น IM)

ภายใน (Interior)

• หลังคากระจก Panoramic Glassroof: แบบ double-glazed (กระจกสองชั้น) เคลือบกันความร้อน
• Fabric Headliner: หลังคาด้านในบุด้วยผ้าคุณภาพสูง
• Laminated Glass (4 บาน): กระจกนิรภัยแบบลามิเนต 4 บาน (ลดเสียงจากภายนอก)
• Rear Privacy Glass: กระจกหลังแบบเข้ม เพิ่มความเป็นส่วนตัว
• Ambient Light 256 สี: ระบบไฟตกแต่งเปลี่ยนสีได้รอบห้องโดยสาร ปรับตามอารมณ์
• พวงมาลัยสปอร์ต:
  • ปรับมือ 4 ทิศทาง
  • มีระบบทำความร้อน
  • มีระบบตรวจจับการไม่จับพวงมาลัย (สำหรับระบบช่วยขับ)

• ระบบกระจกไฟฟ้า: ขึ้น-ลงด้วยระบบ One-touch ทุกบาน พร้อมระบบป้องกันหนีบ (Anti-pinch)

เบาะนั่ง / ความสะดวกภายใน

• วัสดุเบาะ: Ultra-Soft Synthetic Leather (หนังสังเคราะห์พรีเมียมนุ่มพิเศษ)

• เบาะคนขับ:

  • ปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง
  • รองรับเอว (Lumbar) ไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • มีระบบ Memory Seat
  • ระบบ Easy Entry (เลื่อนออกตอนเข้า-ออก)
• เบาะผู้โดยสารตอนหน้า: ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
• หมอนรองศีรษะเบาะหน้า: ปรับด้วยมือ 2 ทิศทาง
• เบาะหน้า:
  • ระบบทำความร้อน (Heated)
  • ระบบระบายอากาศ (Ventilated)

• เบาะหลัง:

  • ระบบทำความร้อน
  • พนักพิงปรับเอนได้ 6 องศา
  • พับได้แบบ 40:60
  • รองรับ ISOFIX 3 จุด (ที่นั่งเด็ก)
• กล่องเย็น-ร้อน: Intelligent Cold & Warm Box (คล้ายตู้เย็นขนาดย่อม)
• ฮุกแขวนของท้ายรถ: มี 4 จุดสำหรับแขวนถุง/ของใช้

ช่องชาร์จ / การเชื่อมต่อ

• แท่นชาร์จไร้สาย: Qi รองรับการระบายความร้อนแบบมีพัดลม (สูงสุด 50W)

• พอร์ตชาร์จ USB-C:

  • ด้านหน้า 2 ช่อง
  • ด้านหลัง 1 ช่อง (สูงสุด 60W)
• ช่องจ่ายไฟ 12V: 2 จุด
• IM MAG Hub: จุดแม่เหล็กสำหรับติดอุปกรณ์เสริม (เช่น ที่วางมือถือ, ไฟเสริม ฯลฯ)

ระบบความบันเทิง (Infotainment System)

• ขุมพลังประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 8295 (ระดับเดียวกับชิปสมาร์ตโฟนเรือธง)

• หน้าจอหลัก:

  • ขนาด 26.3 นิ้ว (ความละเอียด 4320×720 พิกเซล)
  • แบบ Immersive Ultra-wide Touch Screen (ลากจากฝั่งคนขับถึงผู้โดยสารหน้า)

• หน้าจอกลาง:

  • ขนาด 10.5 นิ้ว (1500×1640 พิกเซล)
  • ใช้ควบคุมแอร์, ที่นั่ง, กล้อง, ระบบสั่งงาน ฯลฯ
• ระบบปฏิบัติการ IMOS (IM Multi-screen Interactive System): ใช้ควบคุมทั้งระบบความบันเทิง, ฟีเจอร์อัจฉริยะ และสถานะรถแบบครบวงจร
• รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto: ทั้งแบบไร้สาย (Wireless) และมีสาย
• ลำโพง 20 ตัว + 4 Sky Speakers: ให้มิติเสียงรอบทิศทาง ระดับพรีเมียม (เหมือนรถหรูยุโรป) ระบบตัดเสียงรบกวน (RNC):
  Road Noise Cancellation (ลดเสียงจากพื้นถนน)
• ระบบสั่งงานด้วยเสียง: ควบคุมฟีเจอร์ภายในรถได้ (แอร์, เพลง, นำทาง ฯลฯ)
• Digital Audio Broadcasting (DAB): รองรับคลื่นวิทยุดิจิทัล
• FM / Bluetooth / 4G / DVR: ครบทุกช่องทางการเชื่อมต่อ
• Proactive Vision Supplement System (PVSS): ระบบช่วยการมองเห็นเสริมอัจฉริยะ (เสมือน AR)
• Scene Modes: เช่น Snap Mode (เปิดกล้องถ่ายภาพในรถ) / Rainy Night Mode (โหมดขับกลางฝน)

ระบบกุญแจและการเข้าใช้งาน

• Keyless Access / PEPS
• NFC Key Card: ใช้แตะเปิดประตู (เหมือนบัตร BTS)
• รีโมต PEPS Key Fob: พร้อมระบบควบคุมรถจากระยะไกล

ความปลอดภัย (Safety)

• ถุงลมนิรภัย: ด้านหน้า / ด้านข้าง / ม่านนิรภัย / ฝั่งไกล
• เข็มขัดนิรภัยพร้อมระบบ Pre-tensioner หน้าและหลัง
• ระบบแจ้งเตือนคาดเข็มขัด
• ระบบติดตามผู้ขับขี่ (DMS)
• กล้อง 360° HD
• ระบบ TPMS
• ABS / EBD / TCS / VDC / EBA / BDW / HHC / CBC
• ระบบเตือนคนเดินถนน

ระบบช่วยขับ (ADAS)

ฮาร์ดแวร์

• NVIDIA Orin N, กล้อง 9, เรดาร์ 3, เซ็นเซอร์ 12 จุด

ฟีเจอร์ช่วยขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driver Assistance Systems – ADAS)

• FCW (Forward Collision Warning): ระบบเตือนการชนด้านหน้า เมื่อรถเข้าใกล้สิ่งกีดขวางเร็วเกินไป
• AEB (Automatic Emergency Braking): ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ หากคนขับไม่ตอบสนองหลังมีการเตือนจาก FCW
• BSD (Blind Spot Detection): เตือนจุดอับสายตาที่กระจกมองข้างเมื่อมีรถเข้ามาในมุมบอด
• DOW (Door Open Warning): เตือนเมื่อจะเปิดประตูแล้วมีรถหรือจักรยานกำลังวิ่งผ่านด้านข้าง
• RCTA (Rear Cross Traffic Alert): เตือนเมื่อถอยหลังและมีรถตัดขวางจากด้านข้าง
• RCTB (Rear Cross Traffic Braking): เบรกอัตโนมัติเมื่อถอยหลังและมีรถตัดหลัง
• LCA (Lane Change Assist): ช่วยให้การเปลี่ยนเลนปลอดภัยขึ้นโดยตรวจจับรถในเลนข้างเคียง
• LDW (Lane Departure Warning): เตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
• LDP (Lane Departure Prevention): ดึงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติเพื่อป้องกันการออกนอกเลน
• ELK (Emergency Lane Keeping): แทรกแซงพวงมาลัยอัตโนมัติในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้รถกลับเข้าสู่เลน
• ACC (Adaptive Cruise Control): ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระยะห่างจากคันหน้า
• LCC (Lane Centering Control): ระบบช่วยให้รถอยู่กึ่งกลางเลนตลอดเวลา
• ISA (Intelligent Speed Assistance): ปรับความเร็วตามป้ายจำกัดความเร็วโดยอัตโนมัติ
• SLIF (Speed Limit Information Function): อ่านป้ายจำกัดความเร็วและแสดงเตือนคนขับ
• DLC (Demand Lane Change): ระบบเปลี่ยนเลนเมื่อคนขับเปิดไฟเลี้ยว (ต้องการ)
• ILC (Intelligent Lane Change): ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติโดยใช้ AI ตรวจสอบว่าปลอดภัยก่อนจะเปลี่ยนเลนให้เอง
• Auto Park Assist (APA): ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (ถอยหลังหรือจอดขนาน)
• PDC (Park Distance Control): ระบบเซ็นเซอร์แจ้งเตือนระยะใกล้วัตถุขณะจอด
  • One Touch iAD (AI Chauffeur)
  • One Touch Park: สั่งให้รถจอดอัตโนมัติได้ด้วยปุ่มเดียว
  • One Touch Pull Out: สั่งให้รถออกจากช่องจอดอัตโนมัติ
  • One Touch Reverse: สั่งให้รถถอยกลับตามเส้นทางเดิม
  • One Touch Curbside Parking: จอดขนานขอบทางแบบอัตโนมัติ

 

whichcar

ภาพในประเทศจีน

AUTOHOME

DRIVE

whichcar