Mitsubishi Delica Mini MY2025 ราคาเริ่ม 404,000 – 499,000 บาทในญี่ปุ่น

Mitsubishi Delica Mini MY2025 ราคาเริ่ม 404,000 – 499,000 บาทในญี่ปุ่น
Spread the love
Advertisement Advertisement

มิตซูบิชิ เดลิก้า มินิ รุ่นใหม่ (เจนเนอเรชัน 2025)

เกรด T (Turbo)

  • T Premium (4WD) – 2,271,500 เยน ≈ 499,730 บาท
  • T Premium Limited Edition (4WD) – 2,249,500 เยน ≈ 494,890 บาท
  • T Premium (2WD) – 2,107,600 เยน ≈ 463,670 บาท
  • T Premium Limited Edition (2WD) – 2,085,600 เยน ≈ 458,830 บาท
  • T (4WD) – 2,125,200 เยน ≈ 467,550 บาท
  • T (2WD) – 1,914,000 เยน ≈ 421,080 บาท

 เกรด G (NA เครื่องยนต์ปกติ)

  • G Premium (4WD) – 2,182,400 เยน ≈ 480,130 บาท
  • G Premium Limited Edition (4WD) – 2,160,400 เยน ≈ 475,290 บาท
  • G Premium (2WD) – 2,018,500 เยน ≈ 444,070 บาท
  • G Premium Limited Edition (2WD) – 1,996,500 เยน ≈ 439,230 บาท
  • G (4WD) – 2,048,200 เยน ≈ 450,600 บาท
  • G (2WD) – 1,837,000 เยน ≈ 404,140 บาท

ตลาดรถยนต์ เคคาร์ (Kei Car) ของญี่ปุ่นมีการแข่งขันสูง ทำให้ผู้ผลิตต้องอัปเดตโมเดลบ่อยกว่ารถรุ่นใหญ่ ๆ โดย Mitsubishi Delica Mini ที่เปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิปี 2023 กำลังจะเปลี่ยนโฉมเป็นเจนเนอเรชันใหม่ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 ครั้งนี้มาพร้อมดีไซน์ที่เฉียบคมขึ้น เทคโนโลยีที่ล้ำกว่าเดิม และการปรับเซ็ตแชสซีใหม่เพื่อรับมือคู่แข่ง

การออกแบบภายนอก

  • ด้านหน้า: ไฟหน้า LED แบบครึ่งวงกลมสไตล์ Defender มีขนาดใหญ่ขึ้น, กระจังหน้าแรงบันดาลใจจาก Jeep หนาขึ้นและมีส่วนยื่นรอบโลโก้, กันชนปรับใหม่พร้อม Dynamic Shield สีเดียวกับตัวรถ ช่องดักลมใหม่ และแผ่นกันกระแทก (skid plate) ที่เด่นชัดขึ้น
  • ด้านข้าง: ฝากระโปรง, บังโคลนหน้า และประตูมีเส้นสายคมชัดกว่าเดิม กระจกบังลมหน้าถูกดันขึ้นไปด้านหน้า 115 มม. ทำให้รถดูทรงตั้งตรงขึ้น
  • ด้านหลัง: เสา D (D-pillar) แบบทึบแทนที่ดีไซน์โอบรอบ, ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่, ฝาท้ายมีแถบสีตัวถัง, และแผ่นกันกระแทกใหญ่กว่าเดิม

สีตัวถังใหม่: Sand Beige Pearl และ Denim Blue Pearl (เลือกแบบโมโนโทนหรือทูโทนหลังคาดำได้)

มิติรถ (ตามมาตรฐาน Kei-Car)

  • ความยาว: 3,395 มม.
  • ความกว้าง: 1,475 มม.
  • ความสูง: 1,800 มม.
  • ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,495 มม.

ห้องโดยสารและเทคโนโลยี

  • ค็อกพิทดิจิทัลใหม่: จอวัดผล 7 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนต์ 12.3 นิ้ว อยู่ในแผงเดียวกัน
  • วัสดุภายในคุณภาพดีขึ้น มีโทนเบจพรีเมียม
  • เพิ่มการเก็บเสียงและการจัดวางเบาะที่ปรับได้หลายรูปแบบ
  • ฟีเจอร์ใหม่: ชุดระบบช่วยขับขี่ (ADAS) ครบครัน และ กล้องรอบคัน 3D Multi Around Monitor ใช้กล้อง 4 ตัว

เครื่องยนต์และสมรรถนะ

  • ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 658 ซีซี (BR06) ทั้งแบบ NA และ Turbo:

    • NA: 52 PS  และแรงบิด 60 Nm

    • Turbo: 64 PS  และแรงบิด 100 Nm

  • ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT และมีทั้งรุ่น 2WD (หน้า) และ AWD (4WD) ให้เลือก

ระบบขับเคลื่อน & โหมดการขับ

  • มีโหมดขับขี่ให้เลือกตามสภาพถนน: Power, Normal, Eco, Gravel, Snow — แม้ในรุ่น 2WD ก็ได้โหมดเหล่านี้ครบครัน

  • ระบบช่วงล่างมีโช้ค Kayaba Prosmooth ใหม่ ปรับแต่งพิเศษเพื่อให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น 4WD ที่มี setup ต่างจากรุ่น 2WD

น้ำหนักรถ & Ground Clearance (ตาม DailyRevs)

  • น้ำหนัก (Kerb weight):

    • ประมาณ 970 กก. สำหรับรุ่น G 2WD

    • ถึง 1,060 กก. สำหรับรุ่น T Premium 4WD

  • ความสูงใต้ท้องรถ (Ground clearance):

    • 2WD: ประมาณ 155 มม.

    • 4WD: ประมาณ 160 มม.

Mitsubishi eK Space

  • ใช้แพลตฟอร์มและห้องโดยสารเดียวกับ Delica Mini
  • ต่างกันตรงที่ หน้าตาเรียบง่ายกว่า, ตัวรถเตี้ยกว่า, ตัดการ์ดกันกระแทกและสเกิร์ตออก
  • รุ่น eK Cross Space ถูกยกเลิก เนื่องจาก Delica Mini ได้รับความนิยมมากกว่า
  • พัฒนาควบคู่กับ Nissan Roox รุ่นใหม่

Advertisement Advertisement

Autocar

Advertisement

 

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้