ก่อนเปิดตัวไทย 10 พ.ย.นี้ NEW TOYOTA Hilux TRAVO พร้อมการออกแบบใหม่ ทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร








All-New Toyota Hilux 2026 เปิดตัว 10 พฤศจิกายนนี้ — ยุคใหม่ของกระบะโลก พร้อมรุ่นไฟฟ้า BEV ครั้งแรก
กว่า 55 ปีที่ชื่อ “Hilux” ถูกยืนยันบนถนนทุกทวีปในฐานะรถกระบะที่ทนทาน ใช้งานได้จริง และเป็นสัญลักษณ์ความแข็งแกร่งของ Toyota นับจากปี 1968 จนถึงปัจจุบัน Hilux คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีบทบาททั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมยานยนต์ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เป็น “หนึ่งในฐานการผลิตหลักของโลก” และมีส่วนแบ่งตลาดกระบะสูงสุดกว่า 50% ในบางปี
ปีนี้จึงไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนโฉม แต่นี่คือ “จุดเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์” ของ Toyota ในตลาดกระบะระดับโลก เพราะ Hilux Travi ใหม่ไม่ใช่แค่ “รุ่นถัดไป” แต่เป็นการประกาศก้าวสู่ยุคที่กระบะต้องเป็นทั้งรถทำงาน–รถครอบครัว–รถสมาร์ทคาร์–รถพลังงานไฟฟ้า ในครั้งนี้
Hilux 2026 การเปลี่ยนผ่านจาก “ความแกร่ง” สู่ “ความอัจฉริยะ”
ตลอดหลายเจนที่ผ่านมา Hilux ถูกวางภาพลักษณ์ฐานหลักคือ “ความทนทานใช้งานได้จริง” เหมาะกับฟาร์ม, หน่วยงาน, งานเกษตร, งานบรรทุก รวมถึงกองกำลังทหารในหลายประเทศ แต่ Hilux เจนใหม่ต้องแบกรับโจทย์ที่ต่างออกไป:
- ลูกค้ายุคใหม่คาดหวังความสบายระดับ SUV
- ตลาดโลกเริ่มผลักดันพลังงานไฟฟ้า (EV / BEV / PHEV)
- กฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้มขึ้น (Euro 6 / CO2 Target)
- คู่แข่งอย่าง Ford Ranger, Mitsubishi Triton, Isuzu D-MAX พลิกโฉมไปก่อนหน้าแล้ว
- Toyota ต้องปกป้องตำแหน่งกระบะขายดีในหลายประเทศ รวมถึงไทย
คำตอบจึงไม่ใช่ “ไมเนอร์เชนจ์” แต่เป็น “การออกแบบใหม่ทั้งคัน” ตั้งแต่โครงสร้างตัวถัง, แพลตฟอร์ม, ดีไซน์, ระบบความปลอดภัย, ขุมพลัง และการเพิ่มรุ่นไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
ยกเลิกเครื่อง 2.4 ใช้ 2.8 ดีเซลทั้งไลน์อัป
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่สุดคือ Toyota ประกาศ “ยุติการใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตรดีเซล” ที่ใช้มายาวนานใน Smart Cab / Double Cab หลายรุ่น และปรับโครงสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด โดยเปลี่ยนมาใช้ เครื่องยนต์ 2.8 ลิตรเทอร์โบดีเซล เป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย
เหตุผลเชิงผลิตภัณฑ์
- เครื่อง 2.8 เดิมให้แรงบิดสูงกว่า 2.4 อย่างมีนัยสำคัญ
- รองรับมาตรฐานไอเสีย Euro 6 ซึ่งเริ่มบังคับใช้ในหลายประเทศ
- รองรับน้ำมัน B20 และเชื้อเพลิงไบโอดีเซลอนาคต
- ปรับโครงสร้างต้นทุนการผลิต ลดจำนวนรหัสเครื่องยนต์ในระบบ
ข้อสังเกตสำคัญ
- นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ Toyota “ตัดรุ่นเครื่องยนต์ยอดนิยม” อย่าง 2.4 ซึ่งในไทยเป็นตัวเลขขายสูงสุดในกลุ่มฟลีทและรถครอบครัว
- ตลาดอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงราคา–ตำแหน่งตลาดของ Smart Cab และ Double Cab
- สื่อหลายสำนักตีความว่า Toyota กำลัง “บีบให้ลูกค้ากระโดดขึ้นรุ่นสูง” และผลัก Hilux ให้เป็นกระบะที่พรีเมียมขึ้น
โครงสร้างรุ่นย่อยใหม่ (Model Lineup)
STANDARD CAB 4×4
-
2.8 Entry MT
-
2.8 Entry AT
→ กลุ่มงานเกษตร / หน่วยงานภาครัฐ / งานบรรทุกหนัก
SMART CAB 4×2 (ยกเลิกเครื่อง 2.4)
-
2.8 Entry MT / AT
-
2.8 Mid MT / AT
→ รุ่น “คุ้มค่าสำหรับบุคคลทั่วไป–ธุรกิจฟลีท” / ไม่มีรุ่น ROCCO 2.4 อีกต่อไป
SMART CAB 4×4
-
2.8 Mid MT
-
2.8 Mid AT (เพิ่มใหม่)
→ Toyota ปรับให้รุ่น 4×4 เข้าถึงง่ายขึ้น
DOUBLE CAB 4×2
-
2.8 Entry MT / AT
-
2.8 Mid MT / AT
-
2.8 Rocco AT
-
2.8 Rocco Safety AT
→ Toyota รวม “High” และ “Rocco” เข้าด้วยกัน เหลือเฉพาะชื่อ Rocco ชัดเจน
DOUBLE CAB 4×4
-
2.8 Mid MT
-
2.8 Rocco Safety AT (ตัวท็อปดีเซล)
Hilux BEV จุดเริ่มต้นของยุคกระบะไฟฟ้า Toyota
แม้ Toyota จะยังไม่เปิดสเปกเต็ม แต่ยืนยันแล้วว่า Hilux BEV จะเปิดตัวพร้อมกันในปี 2026 และใช้พื้นฐาน IMV-0 platform ที่รองรับระบบไฟฟ้าโดยตรง
รายละเอียดเบื้องต้น
| รายการ | เบื้องต้น |
|---|---|
| พื้นฐาน | IMV-0 (ไฟฟ้าเต็มระบบ) |
| รูปแบบตัวถัง | Single Cab / Double Cab |
| ระยะทางวิ่ง | ประมาณ 300–400 km (WLTP) |
| ฐานการผลิต | ยังไม่ยืนยัน (ไทยมีโอกาสสูง) |
| กลุ่มตลาด | เมือง / ฟลีทรัฐ / กลุ่มองค์กรลดคาร์บอน |
ดีไซน์ใหม่ทั้งคัน Tough & Tech ดุดันขึ้นแต่ล้ำสมัยกว่าเดิม
Toyota ใช้แนวคิด “Tough & Tech” ในการพัฒนา Hilux รุ่นปี 2026 โดยเป็นการออกแบบที่ผสมผสาน “ความเป็นรถใช้งานจริงแบบกระบะดั้งเดิม” เข้ากับภาพลักษณ์ “รถสมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีสูง” ซึ่งเป็นทิศทางใหม่ที่ Toyota ต้องการวางให้กับกระบะในยุคหลังปี 2025
ไฮไลต์ภายนอกใหม่
- ไฟหน้า Full LED พร้อมลาย Signature Light แบบโฉบเฉี่ยว (แนว Land Cruiser / Tacoma)
- กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแนวตั้ง ขนาดใหญ่ขึ้น เน้นความบึกบึน
- ฝากระโปรงหน้าและซุ้มล้อออกแบบใหม่ เพิ่มมิติเส้นสายให้ดูทรงพลัง
- กันชนหน้าทรงใหม่ แยกสัดส่วนชัดเจน พร้อมช่องดักลมใหญ่ขึ้น
- คิ้วล้อและบันไดข้างดีไซน์ใหม่ (Smart Cab / Double Cab)
- ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ (Rocco ใช้ขนาด 18 นิ้ว ลายเฉพาะ)
- ฝาท้ายกระบะดีไซน์ใหม่ พร้อมโลโก้นูน “TOYOTA” สีดำ
- กันชนหลังพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ ครบตั้งแต่รุ่น Mid ขึ้นไป
เจาะรายละเอียดเพิ่มเติม
- Rocco รุ่นใหม่ ติดตั้งกันชนหน้าทรงล่างใหม่ + สปอร์ตบาร์ลายใหม่ + แต่งลุคกึ่งออฟโรด
- รุ่น Entry / Mid ถูกปรับภาพลักษณ์ให้ดูพรีเมียมขึ้น แม้ยังคงกลุ่มลูกค้าฟลีท
Toyota พยายามเลิกภาพ “กระบะเพื่อทำงาน” แล้วย้าย Hilux ไปยืนในตลาดเดียวกับ Ford Ranger / Triton โฉมใหม่ ที่ถูกพัฒนามาให้เป็น “Lifestyle Pickup” มากขึ้น รองรับทั้งครอบครัว, คนทำงาน, และกลุ่ม Weekend Adventure
ห้องโดยสารใหม่ ยกระดับสู่ความรู้สึกแบบ SUV ระดับ Land Cruiser
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของ Hilux 2026 คือ “ภายในใหม่เต็มระบบ” โดยใช้แรงบันดาลใจจาก Toyota Land Cruiser 300 / 250 และ Tacoma ใหม่ในสหรัฐฯ
คุณสมบัติเด่นภายใน
- แผงคอนโซลหน้าใหม่ (ออกแบบแนวเส้นขวาง + ช่องแอร์ทรงเหลี่ยม)
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงใหม่แบบ 4 ก้าน
- หน้าจอกลาง 12.3 นิ้ว (ตั้งแต่รุ่น Mid) รองรับ Wireless Apple CarPlay / Android Auto
- หน้าจอมาตรวัดดิจิทัล 7 นิ้ว / 12.3 นิ้ว (ขึ้นกับรุ่น)
- คอนโซลกลางยกสูง + คันเกียร์แบบสั้นแนวสปอร์ต
- เบรกมือไฟฟ้า EPB (ครั้งแรกของ Hilux)
- Wireless Charger + Smart Entry + Push Start
- เบาะคนขับปรับดันหลังไฟฟ้า (เฉพาะ Rocco)
- ระบบเสียง 8 ลำโพง ติดตั้งลำโพงบนเพดาน (เหมือน Land Cruiser Prado)
สิ่งที่ชัดเจนคือ Toyota ต้องการให้ Hilux ไม่ใช่ “กระบะทำงาน” อีกต่อไป แต่เป็น “รถที่พร้อมใช้แทน SUV ได้” — กลยุทธ์นี้ชัดเจนมาก
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชันใหม่
Hilux 2026 มาพร้อม Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุด ซึ่งมีการเพิ่มขีดความสามารถหลัก 3 ด้าน
| ฟีเจอร์ | ความสามารถใหม่ |
|---|---|
| PCS (Pre-Collision) | ตรวจจับรถ/คน/จักรยาน/มอเตอร์ไซค์ + เข้าแยก + ลดแรงม้า |
| DRCC | ควบคุมตามรถทุกความเร็ว + ลดความเร็วเมื่อเข้าโค้ง + ตอบสนองรถแทรก |
| LTA / LDA | คุมเลนอย่างต่อเนื่อง + เบี่ยงหลบสิ่งกีดขวางข้างทาง |
เพิ่มฟีเจอร์ใหม่:
-
ไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
-
ดิสก์เบรกหลัง (ตั้งแต่รุ่น Mid)
-
เซ็นเซอร์รอบคัน + ถุงลมนิรภัย 7 ใบ
ความสำคัญเชิงกลยุทธ์
-
Toyota ถูกมองว่า “มาช้ากว่า Ford / Isuzu” ด้านระบบ ADAS
-
Hilux 2026 จึงเป็นจุดที่ Toyota “อัปสถานะ” ยานยนต์เชิงความปลอดภัยอย่างจริงจัง
-
สื่อญี่ปุ่นรายงานว่าระบบใหม่นี้พัฒนาให้ “ตรวจจับกว้างขึ้น 30% และตอบสนองเร็วขึ้น 40%”
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยีออฟโรด Multi-Terrain Select 6 โหมด
Hilux 2026 มาพร้อมระบบช่วยขับออฟโรดที่ฉลาดขึ้นแบบเดียวกับ Land Cruiser
| โหมด | ใช้งานสำหรับ |
|---|---|
| AUTO | ระบบเลือกอัตโนมัติ |
| DIRT | ถนนลูกรัง / ดินร่วน |
| SAND | ทรายนุ่ม / ชายหาด |
| MUD | โคลนหนา |
| DEEP SNOW | หิมะลึก |
| ROCK | ไต่หิน / หินหลวม |
ระบบนี้ทำงานร่วมกับ 4H / 4L และโหมดปรับแรงบิดเฉพาะล้อ Hilux จึงไม่ใช่แค่ “ทนทาน” แต่เริ่มกลายเป็น “รถออฟโรดที่วิเคราะห์พื้นผิวได้”


ล่าสุดทดสอบวิ่งกระบะตอนเดียวสำหรับ Hilux Travo ใหม่ ก่อนเปิดตัวปลายปีนี้
ขออนุญาติเจ้าของภาพนะครับ


ภาพโดย คุณ Pom Buddy / Revo GR Sport Club







เครดิตภาพคุณ รัตน์ ระยอง
All-New Toyota Hilux 2026 — ยุคใหม่ของกระบะโลก ยกเครื่องดีไซน์ ยกระดับเทคโนโลยี พร้อมขุมพลัง BEV ครั้งแรก
กำหนดการเปิดตัว: วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้
Hilux ก้าวสู่ยุคใหม่ จากความแกร่ง สู่ความอัจฉริยะ
กว่า 55 ปีที่ชื่อ “Hilux” ยืนหนึ่งในฐานะกระบะระดับตำนานของ Toyota — จากรุ่นแรกในปี 1968 ที่เน้นความทนทาน บึกบึน และใช้งานได้ทุกสภาพถนน จนถึงปี 2026 Toyota พร้อมยกระดับกระบะขวัญใจคนไทยและทั่วโลกอีกครั้ง ด้วย All-New Toyota Hilux รุ่นปี 2026 ที่เปลี่ยนใหม่เกือบทั้งคัน ทั้งด้านดีไซน์ ภายใน เทคโนโลยี ระบบขับเคลื่อน และที่สำคัญคือการมาของ “รุ่น BEV” หรือขุมพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Hilux
รุ่นย่อยและการจัดไลน์อัปใหม่ ยกเลิกเครื่อง 2.4 ดีเซลทั้งหมด
Toyota ปรับโครงสร้างไลน์อัปของ Hilux ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี โดยยุติการใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร เดิมที่ใช้มายาวนาน และเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร เทอร์โบดีเซล ทั้งหมด ซึ่งมีแรงบิดสูงกว่าเดิม พร้อมรองรับมาตรฐานไอเสียยุโรปและการใช้งานน้ำมัน B20
รุ่นเครื่องยนต์เบนซินยังไม่ถูกเปิดเผยในช่วงเปิดตัวแรก เนื่องจาก Toyota มุ่งเน้นไปที่รุ่น “ยกสูง (High-Floor)” และรุ่น BEV เป็นหลักในรอบแรก
รายละเอียดรุ่นย่อย (Model Lineup)
STANDARD CAB 4×4
-
2.8 Entry MT
-
2.8 Entry AT
สำหรับสายงานเกษตรหรือฟลีทรถหน่วยงานที่ต้องการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมความทนทาน
SMART CAB 4×2 (ยกเลิกเครื่อง 2.4 เปลี่ยนเป็น 2.8)
-
2.8 Entry MT / AT
-
2.8 Mid MT / AT
จุดเด่นคือความสมดุลระหว่างราคาและอุปกรณ์ เหมาะกับทั้งลูกค้าทั่วไปและภาคธุรกิจ โดย Toyota ตัดรุ่น 2.4 Rocco AT ออกไป เพื่อให้ตำแหน่งตลาดไม่ทับกับรุ่น Rocco ตัวท็อป
SMART CAB 4×4
-
2.8 Mid MT
-
2.8 Mid AT (รุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้น)
การเพิ่มรุ่น Mid AT ทำให้ตลาดกลุ่มผู้ใช้ 4×4 มีทางเลือกมากขึ้น โดยตัดรุ่น High และ Rocco เดิมออก เพื่อให้เรียบง่ายและเน้นเฉพาะรุ่นขายดี
DOUBLE CAB 4×2
รวมรุ่น “High” และ “Rocco” เดิมให้เหลือเพียง “Rocco” และ “Rocco Safety”
-
2.8 Entry MT / AT
-
2.8 Mid MT / AT
-
2.8 Rocco AT (แทน 2.4 High AT เดิม)
-
2.8 Rocco Safety AT (แทน 2.4 Rocco AT เดิม)
Toyota ปรับกลยุทธ์ “รวมรุ่น” เพื่อให้ลูกค้าเลือกง่าย และผลักดัน Rocco เป็นภาพลักษณ์ใหม่ของ Hilux ยุค 2026
DOUBLE CAB 4×4
-
2.8 Mid MT
-
2.8 Rocco Safety AT (รุ่นท็อปสุดของไลน์ดีเซล) ชูจุดขายด้านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบ พร้อมระบบ Multi-Terrain Select รุ่นใหม่
Hilux BEV (Battery Electric Vehicle)
Hilux BEV หรือรุ่นไฟฟ้า 100% จะเปิดตัวเป็นไฮไลต์ของปี 2026 ใช้พื้นฐานร่วมกับแพลตฟอร์ม IMV-0 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดย Toyota คาดว่าจะมีให้เลือกทั้งแบบ Single Cab และ Double Cab พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางต่อการชาร์จราว 300–400 กิโลเมตร (WLTP)
รุ่น GR Sport Wide Tread จะยังไม่จำหน่ายในช่วงเปิดตัวแรก
ดีไซน์ใหม่ทั้งคัน — ความแข็งแกร่งที่ทันสมัยกว่าเดิม
Hilux 2026 มาพร้อมเส้นสายใหม่หมดจด โดย Toyota ยึดคอนเซ็ปต์ “Tough & Tech” — ดุดัน แข็งแรง แต่แฝงความล้ำสมัย
ภายนอก
-
ไฟหน้าใหม่แบบ Full LED พร้อม Signature Light
-
กระจังหน้าแนวตั้งทรงหกเหลี่ยม พร้อมลายซี่ขนาดใหญ่
-
ฝากระโปรงหน้าและแก้มข้างออกแบบใหม่ เพิ่มความบึกบึน
-
คิ้วล้อ และบันไดข้างดีไซน์ใหม่ (เฉพาะ Smart Cab / Double Cab)
-
ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ (Rocco ใช้ขนาด 18 นิ้ว)
-
ฝาท้ายกระบะใหม่ พร้อมโลโก้ “TOYOTA” สีดำแบบปั๊มนูน
-
กันชนท้ายทรงใหม่ พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ
ชุดแต่ง Rocco ใหม่
-
กันชนหน้าส่วนล่างใหม่
-
ชิ้นตกแต่งข้างกันชนใหม่
-
สปอร์ตบาร์ลายใหม่แนวล้ำยุค
-
ล้ออัลลอย 18 นิ้วลายเฉพาะ
ห้องโดยสารใหม่หมด — จากกระบะสู่ระดับ SUV
ภายในของ Hilux 2026 ได้แรงบันดาลใจจาก Toyota Land Cruiser และ Tacoma รุ่นล่าสุด ผสมผสานวัสดุ Soft-touch เข้ากับการจัดวางที่ดูพรีเมียมแต่ใช้งานง่าย
จุดเด่นภายในใหม่
- แผงคอนโซลหน้าและช่องแอร์ดีไซน์ใหม่
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันทรงใหม่
- คอนโซลกลางยกสูงพร้อมคันเกียร์สั้นแนวสปอร์ต
- เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
- หน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว (ตั้งแต่ Mid ขึ้นไป)
- หน้าจอมาตรวัดดิจิทัล 7 นิ้ว / 12.3 นิ้ว (Rocco ขึ้นไป)
- Wireless Charger และระบบ Smart Entry + Push Start
- เบาะคนขับปรับดันหลังไฟฟ้า (เฉพาะ Rocco)
- ระบบเสียง 8 ลำโพง พร้อมลำโพงบนเพดาน
ความปลอดภัยล้ำยุค — Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุด
Hilux 2026 นำเสนอชุดระบบความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจาก Toyota ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มี “ขอบเขตการตรวจจับกว้างขึ้น” และ “ตอบสนองเร็วขึ้น”
รายละเอียดการอัปเกรด Safety Sense
Pre-Collision System (PCS)
- ตรวจจับรถ คน มอเตอร์ไซค์ และจักรยาน
- ตรวจจับข้ามทางแยก
- ควบคุมพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวาง
- ลดแรงเครื่องยนต์ในความเร็วต่ำ
Dynamic Radar Cruise Control (All-Speed)
- ตรวจจับรถด้านหน้า 2 คัน
- ลดความเร็วเมื่อเข้าโค้ง
- ตอบสนองเมื่อมีรถแทรกในเลน
- ปรับการทำงานเมื่อเปิดไฟเลี้ยว
- ตั้งค่าการทำงานง่ายกว่าเดิม
Lane Departure Alert & Lane Tracing Assist
- เสริมแรงพวงมาลัยเมื่อเบี่ยงออกนอกเลน
- ตรวจจับวัตถุข้างทางและเลนข้างเคียง
- ควบคุมให้อยู่กลางเลนแม้ขณะเข้าโค้ง
- มีระบบเบี่ยงเล็กน้อยอัตโนมัติเมื่อเจอสิ่งกีดขวางใกล้เคียง เพิ่มระบบไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) และดิสก์เบรกหลังตั้งแต่รุ่น Mid
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยีออฟโรด — Multi-Terrain Select
Hilux 2026 ได้ระบบ Multi-Terrain Select ใหม่ ซึ่งยกระดับสมรรถนะออฟโรดให้ฉลาดกว่าเดิม โดยสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 6 แบบ
-
AUTO – ให้ระบบเลือกตามสภาพพื้นผิว
-
DIRT – พื้นดินร่วนหรือถนนลูกรัง
-
SAND – ทรายนุ่มหรือชายหาด
-
MUD – โคลนหนา
-
DEEP SNOW – หิมะลึก
-
ROCK – พื้นหินหรือไต่ก้อนหิน
ระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้โหมด 4H หรือ 4L เพื่อให้การยึดเกาะและแรงบิดเหมาะสมในทุกสภาพพื้นผิว

จากข้อมูลในตอนนี้ HILUX TRAVO ใหม่ อาจไม่มี 2.4 แล้ว อนาคตของ 2.4 จะเป็นอย่างไร ?
- Hilux Revo Smart Cab / Double Cab รุ่น E / Prerunner
- Revo Rocco รุ่นล่าง
- Fortuner รุ่น 2.4 V
เหตุผลหลักที่ Toyota อาจเลิกเครื่อง 2.4 ลิตร
การปรับสู่ยุค Hybrid และ EV Pickup
ต้นทุนและกฎมลพิษใหม่ (Euro 6 / มาตรฐานไทย)
การเปลี่ยนโฟกัสสู่กลุ่มพรีเมียม
แล้วเครื่อง 2.4 จะหายไปเลยไหม?
ยังคงอยู่ใน Hilux Champ
อาจถูกใช้ในรถเพื่อส่งออก
ดีเซล 48V Technology 1GD-FTV 2.8 ลิตร สำหรับกระบะ TRAVO และ ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่
1GD-FTV (GD Super Power) ขุนพลดีเซลเทพ 2.8 จาก REVO สู่ TRAVO ใหม่
ราคา 2.14 ล้านบาทในสหรัฐฯ TOYOTA Tacoma Trailhunter i-FORCE MAX HYBRID 326 แรงม้า 9.78 กม./ลิตร EPA
ภาพคันจริง TOYOTA TACOMA LIMITED i-Force MAX 2.4T ไฮบริด 326 แรงม้า ราคา 2.01 ล้านบาทในสหรัฐฯ
https://www.car250.com/toyota-tacoma-trd-pro-i-force-max-10.html
TOYOTA TACOMA X-Runner i-FORCE MAX 3.4 Twin Turbo V6 ให้กำลัง 421 แรงม้า ต้นแบบในสหรัฐฯ
