เปิดราคา 900,000 บาทในญี่ปุ่น TOYOTA RAV4 เจนที่ 6 ใหม่ พร้อม 2.5 ไฮบริด E-FOUR

Toyota RAV4 ใหม่ เปิดตัวญี่ปุ่น 2025 SUV เจเนอเรชันที่ 6 พลิกโฉมทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และไฮบริด ราคาจำหน่าย 900,000 – 980,000 บาทเท่านั้น
Toyota Motor Corporation เปิดตัว Toyota RAV4 ใหม่ อย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2025 นับเป็นการก้าวเข้าสู่เจเนอเรชันที่ 6 ของ SUV รุ่นสำคัญระดับโลก ที่มียอดขายสะสมหลายล้านคัน โดย RAV4 ใหม่ ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “Life is an Adventure” หรือ “ชีวิตคือการผจญภัย” สะท้อนภาพลักษณ์รถที่พร้อมตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมือง การเดินทางไกล และไลฟ์สไตล์กลางแจ้ง
RAV4 รุ่นใหม่นี้ ไม่ได้เป็นเพียงการปรับโฉม แต่เป็นการยกเครื่องใหม่ทั้งแพลตฟอร์ม แนวคิดการออกแบบ ระบบขับเคลื่อน และซอฟต์แวร์ โดยโตโยต้าวางโครงสร้างการพัฒนาไว้บน 3 แกนหลัก ได้แก่ Diversification, Electrification และ Intelligence
ราคา Toyota RAV4 ใหม่ ในญี่ปุ่น (แปลงเป็นเงินบาท)
- RAV4 Z HEV E-Four
ราคา 4,900,000 เยน ≈ 980,000 บาท - RAV4 Adventure HEV
ราคา 4,500,000 เยน ≈ 900,000 บาท
*ราคาเป็นราคาในญี่ปุ่น รวมภาษี แต่ยังไม่รวมค่าจดทะเบียนและค่ารีไซเคิล
แนวคิดการพัฒนา Toyota RAV4 ใหม่
1. Diversification – ความหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
RAV4 ใหม่ ถูกออกแบบให้มีบุคลิกชัดเจน แยกตามรูปแบบการใช้งาน โดยมีให้เลือก 3 สไตล์หลัก
- Z – สายพรีเมียม ดีไซน์หรู ทันสมัย เหมาะกับการใช้งานในเมือง
- Adventure – สายลุย เน้นออฟโรด ภาพลักษณ์แข็งแกร่ง
- GR SPORT – สายสมรรถนะ เน้นการขับขี่ (เตรียมเปิดตัวภายในปีงบประมาณ 2025)
2. Electrification – ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
RAV4 ใหม่ มาพร้อมทางเลือกด้านพลังงานที่ชัดเจน ได้แก่
- HEV (Hybrid Electric Vehicle)
- PHEV (Plug-in Hybrid รุ่นใหม่) เตรียมเปิดตัวภายในปีงบประมาณ 2025
ระบบไฟฟ้ารุ่นใหม่ให้การเร่งที่ลื่นไหล ประหยัด และตอบสนองได้ทันทีตามสไตล์รถไฟฟ้า
3. Intelligence – ยุคใหม่ของรถยนต์อัจฉริยะ
Toyota RAV4 ใหม่ เป็นหนึ่งในรถรุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ Arene ซึ่งเป็นรากฐานของแนวคิด Software-Defined Vehicle (SDV) ช่วยให้ระบบความปลอดภัย ค็อกพิท และมัลติมีเดีย สามารถพัฒนาและอัปเดตได้รวดเร็วขึ้นในอนาคต
ตารางขนาดตัวถัง
| รายการ | RAV4 Z | RAV4 Adventure |
|---|---|---|
| ความยาว (มม.) | 4,600 | 4,620 |
| ความกว้าง (มม.) | 1,855 | 1,880 |
| ความสูง (มม.) | 1,680 | 1,680 |
| ฐานล้อ (มม.) | 2,690 | 2,690 |
| ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 190 | 190 |
| ช่วงล้อหน้า (มม.) | 1,600 | 1,620 |
| ช่วงล้อหลัง (มม.) | 1,615 | 1,635 |
| รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (ม.) | 5.7 | 5.7 |
| จำนวนที่นั่ง | 5 | 5 |
เครื่องยนต์ Toyota RAV4 Hybrid E-Four (ญี่ปุ่น)
Toyota RAV4 รุ่น Hybrid E-Four ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้ได้ทั้งความประหยัดและแรงบิดที่ตอบสนองไว โดยสเปกต่อไปนี้เป็นข้อมูลจากตารางสเปกโรงงานญี่ปุ่น
เครื่องยนต์เบนซิน (A25A-FXS)
- ประเภทเครื่องยนต์: เบนซิน 4 สูบเรียง
- ความจุเครื่องยนต์: 2.487 ลิตร (2,487 ซีซี)
- เชื้อเพลิงที่ใช้: เบนซินไร้สารตะกั่ว “เรกูลาร์” (Unleaded Regular)
- กระบอกสูบ x ช่วงชัก: 87.5 x 103.4 มม.
- กำลังสูงสุด (Net): 137 kW (186 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุด (Net): 221 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600–5,200 รอบ/นาที
- ระบบจ่ายเชื้อเพลิง: หัวฉีดคู่ D-4S (ฉีดตรงในกระบอกสูบ + ฉีดพอร์ต)
- ความจุถังน้ำมัน: 55 ลิตร
มอเตอร์ไฟฟ้า (รองรับระบบ E-Four ขับ 4 ไฟฟ้า)
ระบบ E-Four ใช้มอเตอร์หน้าเป็นตัวหลัก และมีมอเตอร์หลังช่วยเสริมแรงฉุดและการยึดเกาะ โดยทั้งสองเป็นมอเตอร์แบบ AC synchronous
- มอเตอร์หน้า: 100 kW (136 แรงม้า), แรงบิด 208 นิวตัน-เมตร
- มอเตอร์หลัง: 40 kW (54 แรงม้า), แรงบิด 121 นิวตัน-เมตร
แบตเตอรี่ไฮบริด (Traction Battery)
- ชนิดแบตเตอรี่: นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ (Ni-MH)
- ความจุ: 5.0 Ah
กำลังรวมของระบบไฮบริด+เครื่องยนต์ (Total System Output)
- กำลังรวมสูงสุด: 177 kW (240 แรงม้า)
อัตราประหยัดเชื้อเพลิง Toyota RAV4 Hybrid (2WD vs AWD)
อัตราประหยัด – ระบบขับหน้า (2WD)
- อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย (WLTC): ราว 23.2 – 24.1 กม./ลิตร
- ในเมือง: rาว 18.7 – 19.5 กม./ลิตร
- นอกเมือง: ราว 27.5 – 28.2 กม./ลิตร
- ทางหลวง: ราว 23.6 – 24.0 กม./ลิตร
อัตราประหยัด – ระบบขับ 4 ไฟฟ้า (E-Four / AWD)
- อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย (WLTC): ประมาณ 22.5 – 22.9 กม./ลิตร
- ในเมือง: ราว 18.0 – 18.5 กม./ลิตร
- นอกเมือง: ราว 26.5 – 27.0 กม./ลิตร
- ทางหลวง: ราว 22.6 – 22.8 กม./ลิตร
ระบบเกียร์และการส่งกำลัง
- เกียร์: e-CVT (เกียร์แปรผันต่อเนื่องแบบไฟฟ้า)
- อัตราทด: 3.605 (หน้า 3.605 / หลัง 10.781)

ช่วงล่าง Toyota RAV4 Hybrid E-Four – โครงสร้างเพื่อความนุ่ม มั่นคง และการลุยที่มั่นใจ
Toyota RAV4 Hybrid E-Four ถูกออกแบบช่วงล่างให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การขับขี่ในเมือง ความเร็วเดินทางบนทางหลวง ไปจนถึงเส้นทางลื่นหรือทางขรุขระเบา ๆ โดยเน้นความสมดุลระหว่างความนุ่มสบายและการควบคุมตัวรถที่มั่นคง
ช่วงล่างด้านหน้า
- รูปแบบ: แมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut)
- ระบบสปริง: คอยล์สปริง
- อุปกรณ์เสริม: เหล็กกันโคลง (Stabilizer Bar)
ช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทให้โครงสร้างที่แข็งแรง น้ำหนักเบา และช่วยซับแรงสะเทือนได้ดี เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมให้การควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำ
ช่วงล่างด้านหลัง
- รูปแบบ: ดับเบิลวิชโบน (Double Wishbone)
- ระบบสปริง: คอยล์สปริง
- อุปกรณ์เสริม: เหล็กกันโคลง (Stabilizer Bar)
ระบบเบรกและการควบคุมการทรงตัว
- เบรกหน้า: ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
- เบรกหลัง: ดิสก์เบรก
- ระบบเบรก: เบรกไฮดรอลิกร่วมกับระบบชาร์จไฟกลับ (Regenerative Braking)
ระบบเสริมการขับขี่ที่ทำงานร่วมกับช่วงล่าง
- โหมดการขับขี่ NORMAL / ECO / SPORT / CUSTOM
- โหมด TRAIL สำหรับเส้นทางลุย
- โหมด SNOW สำหรับถนนลื่นหรือพื้นผิวที่มีแรงยึดเกาะต่ำ
- Hill Start Assist และ Downhill Assist Control
ระยะใต้ท้องรถ
- ระยะต่ำสุดจากพื้น: 190 มิลลิเมตร

การออกแบบภายนอก Toyota RAV4 Hybrid E-Four – แข็งแกร่ง ชัดเจน และเป็น SUV เต็มตัว
Toyota RAV4 Hybrid E-Four รุ่นใหม่ ถูกออกแบบภายนอกภายใต้แนวคิดที่เน้นความแข็งแกร่ง ความทันสมัย และการใช้งานจริง โดยยังคงเอกลักษณ์ของ RAV4 ในฐานะ SUV ที่พร้อมลุย แต่ปรับรายละเอียดให้ดูพรีเมียมและดุดันมากขึ้น เพื่อรองรับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางนอกเส้นทางหลัก
แนวคิดหลักในการออกแบบ
โตโยต้าใช้ 3 องค์ประกอบหลักในการกำหนดบุคลิกของ RAV4 รุ่นนี้ ได้แก่
- Big Foot: ล้อและยางขนาดใหญ่ ช่วยให้ตัวรถดูมั่นคง แข็งแรง และยึดเกาะถนนได้ดี
- Lift-up: สัดส่วนตัวถังยกสูง สื่อถึงความพร้อมในการลุยและการมองเห็นที่ดีขณะขับขี่
- Utility: เส้นสายตัวถังและชิ้นส่วนรอบคันที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริง ไม่เน้นความหวือหวาเกินจำเป็น
ดีไซน์ด้านหน้า
- ด้านหน้าของ RAV4 ใหม่ ให้ภาพลักษณ์แข็งแกร่งด้วยกระจังหน้าทรงกว้าง พร้อมกันชนหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED ที่ออกแบบให้ดูเฉียบคม เสริมด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) ช่วยเพิ่มความทันสมัยและการมองเห็นที่ชัดเจน
- ในรุ่น Adventure จะเพิ่มความดุดันด้วยกระจังหน้าและกันชนสีดำ พร้อมแผ่นกันกระแทก (Skid Plate) สีเงินขนาดใหญ่ ให้ภาพลักษณ์รถออฟโรดชัดเจนยิ่งขึ้น
ด้านข้างตัวรถ
- เส้นสายด้านข้างถูกออกแบบให้ดูแข็งแรง มีมัดกล้ามชัดเจน ซุ้มล้อขนาดใหญ่ช่วยเน้นภาพลักษณ์ SUV เต็มตัว รุ่น Adventure จะเสริมโป่งล้อและคิ้วข้างตัวถังสีดำขนาดใหญ่ เพิ่มความรู้สึกบึกบึนและพร้อมลุยมากกว่ารุ่นปกติ
- ทุกรุ่นมาพร้อม ราวหลังคาอะลูมิเนียม รองรับการติดตั้งแร็คหรืออุปกรณ์เสริมสำหรับการเดินทางและกิจกรรมกลางแจ้ง
ดีไซน์ด้านท้าย
- ด้านท้ายของ RAV4 เน้นความกว้างและมั่นคง ไฟท้าย LED ออกแบบให้ดูเฉียบคม สปอยเลอร์หลังช่วยเสริมทั้งภาพลักษณ์สปอร์ตและหลักอากาศพลศาสตร์ รุ่น Adventure จะใช้กันชนหลังสีดำ พร้อม Skid Plate ขนาดใหญ่ ช่วยปกป้องตัวรถเมื่อใช้งานบนเส้นทางสมบุกสมบัน
ล้อและยาง
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
- ลายล้อของรุ่น Z เน้นความพรีเมียม ทันสมัย
- ลายล้อของรุ่น Adventure เน้นความแข็งแรง ดิบ และเหมาะกับทางลุย
รายละเอียดตกแต่งเฉพาะรุ่น Adventure
- กันชนหน้า–หลังสีดำ
- แผ่นกันกระแทกหน้าและหลัง (Skid Plate) สีเงิน ขนาดใหญ่
- โป่งล้อและคิ้วข้างตัวถังขนาดใหญ่ สีดำ
- ตรา Adventure สีดำด้าน

การออกแบบภายในห้องโดยสาร Toyota RAV4 Hybrid E-Four – ทันสมัย ใช้งานง่าย และเน้นผู้ขับเป็นศูนย์กลาง
ห้องโดยสารของ Toyota RAV4 Hybrid E-Four ถูกออกแบบใหม่ภายใต้แนวคิดที่ให้ความสำคัญกับ “การใช้งานจริง ความปลอดภัย และความสบาย” โดยผสานดีไซน์สมัยใหม่เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ SUV ยุคปัจจุบัน ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล
แนวคิดการออกแบบห้องโดยสาร
โตโยต้าใช้แนวคิด Island Architecture ในการจัดวางอุปกรณ์ภายใน โดยรวมฟังก์ชันหลัก เช่น หน้าจอ มาตรวัด และชุดควบคุมต่าง ๆ ให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นและเอื้อมถึงได้ง่าย ลดการละสายตาจากถนน และช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
แผงคอนโซลหน้าและมาตรวัด
- มาตรวัดดิจิทัลแบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่และระบบไฮบริดอย่างชัดเจน
- จอแสดงผลออกแบบให้มีความเป็นแนวนอน ช่วยสร้างความรู้สึกกว้างและมั่นคงแบบ SUV
- รุ่น Z ติดตั้ง Head-Up Display แบบสี ช่วยแสดงข้อมูลสำคัญโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน
ระบบมัลติมีเดียและการเชื่อมต่อ
- หน้าจอกลางสัมผัสขนาด 12.9 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
- รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
- กราฟิกหน้าจอออกแบบใหม่ ใช้งานง่าย และตอบสนองรวดเร็ว
- ระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ตอบสนองไวขึ้น ช่วยลดภาระผู้ขับขี่
เบาะนั่งและวัสดุภายใน
เบาะนั่งของ RAV4 Hybrid E-Four ถูกออกแบบให้รองรับสรีระได้ดี เหมาะกับการเดินทางไกล พร้อมใช้วัสดุที่ให้ทั้งความทนทานและความพรีเมียม
- เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์คุณภาพสูง
- รุ่น Z มีเบาะคู่หน้าพร้อมระบบอุ่นและระบายอากาศ
- รุ่น Adventure ใช้โทนสีและลวดลายที่ให้บรรยากาศสไตล์เอาต์ดอร์
พวงมาลัยและตำแหน่งผู้ขับ
- พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ ทรง 3 ก้าน
- ติดตั้งระบบทำความร้อนที่พวงมาลัย เพิ่มความสบายในสภาพอากาศหนาว
- ตำแหน่งนั่งผู้ขับถูกออกแบบให้มองเห็นถนนได้ชัด ควบคุมรถได้ง่าย
ระบบปรับอากาศและความสะดวกสบาย
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
- โหมด S-FLOW เน้นการกระจายลมเฉพาะเบาะหน้า เพื่อลดการใช้พลังงาน
- ช่องแอร์ออกแบบให้เอื้อมถึงง่าย และกระจายลมสม่ำเสมอ
พื้นที่ใช้สอยและความอเนกประสงค์
ภายในห้องโดยสารให้พื้นที่กว้างขวางทั้งแถวหน้าและแถวหลัง เหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวก
- เบาะหลังพับได้ เพิ่มพื้นที่เก็บของ
- ช่องเก็บของรอบคัน ออกแบบให้ใช้งานจริง
- ตำแหน่งอุปกรณ์และสวิตช์ต่าง ๆ จัดวางอย่างเป็นระเบียบ
ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีการขับขี่ Toyota RAV4 Hybrid E-Four – จัดเต็มระดับ SUV ยุคใหม่
Toyota RAV4 Hybrid E-Four มาพร้อมระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ที่ถือว่า “ให้มาเต็ม” ตามมาตรฐานรถยนต์ยุค Software-Defined Vehicle โดยใช้แพลตฟอร์ม Toyota Safety Sense รุ่นพัฒนา ผสานกับระบบช่วยขับขี่ขั้นสูงของ Toyota TeamMate เพื่อเพิ่มทั้งความปลอดภัย ความสบาย และความมั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่
ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Toyota Safety Sense)
- Pre-Collision Safety (PCS) ระบบป้องกันการชนล่วงหน้า ตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน (กลางวัน/กลางคืน) จักรยาน และรถจักรยานยนต์ (กลางวัน) พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อมีความเสี่ยงในการชน
- Emergency Steering Assist ระบบช่วยหักหลบฉุกเฉิน พร้อมฟังก์ชันควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ ช่วยหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางเมื่อผู้ขับมีการหลบหลีกกะทันหัน
- Front Cross Traffic Alert (FCTA) แจ้งเตือนรถที่ตัดผ่านด้านหน้าขณะเลี้ยวหรือออกจากทางแยก เพิ่มความปลอดภัยในจุดอับสายตา
- Lane Tracing Assist (LTA) ช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลนโดยอัตโนมัติ ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- Lane Departure Alert (LDA) แจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว พร้อมช่วยดึงพวงมาลัยกลับ
- Lane Change Assist (LCA) ช่วยตรวจสอบความปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน โดยทำงานร่วมกับเรดาร์และกล้องรอบคัน
- Road Sign Assist (RSA) อ่านและแสดงป้ายจราจร เช่น จำกัดความเร็ว หรือห้ามแซง บนหน้าจอมาตรวัด
ระบบควบคุมความเร็วและการขับขี่อัตโนมัติ
- Radar Cruise Control (All-Speed) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ทำงานได้ตั้งแต่ความเร็วต่ำจนถึงหยุดนิ่ง เหมาะกับทั้งทางหลวงและการจราจรติดขัด
- Proactive Driving Assist (PDA) ระบบช่วยชะลอความเร็วและควบคุมพวงมาลัยล่วงหน้า เมื่อเข้าโค้งหรือเข้าใกล้รถคันหน้า เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
ระบบช่วยผู้ขับในกรณีฉุกเฉิน
- Driver Emergency Response System เมื่อระบบตรวจพบว่าผู้ขับไม่ตอบสนอง รถจะส่งสัญญาณเตือน ลดความเร็ว เปิดไฟฉุกเฉิน และหยุดรถภายในเลนหรือชิดไหล่ทางโดยอัตโนมัติ
- Driver Monitor กล้องตรวจจับพฤติกรรมและอาการของผู้ขับ เช่น อาการง่วงหรือไม่ตอบสนอง
ระบบช่วยจอดและมองรอบคัน
- Panoramic View Monitor (3D View) กล้องรอบคันแสดงภาพมุมสูงแบบ 3 มิติ ช่วยให้มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบรถได้ชัดเจน
- Parking Support Brake ระบบเบรกอัตโนมัติขณะจอด ตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้า ด้านหลัง และคนเดินถนนด้านหลัง
- Toyota TeamMate Advanced Park ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชันควบคุมจากรีโมต ช่วยจอดรถในพื้นที่แคบได้ง่ายขึ้น
ระบบความปลอดภัยขณะขับขี่ปกติ
- Blind Spot Monitor (BSM) แจ้งเตือนรถในจุดอับสายตา
- Safe Exit Assist (SEA) แจ้งเตือนก่อนเปิดประตูเมื่อมีรถหรือจักรยานเข้าใกล้
- Rear Cross Traffic Alert แจ้งเตือนรถด้านหลังขณะถอย
- Secondary Collision Brake ช่วยเบรกหลังการชนเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ
ระบบช่วยการขับขี่และการทรงตัว
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD พร้อม ABS
- โหมดการขับขี่ NORMAL / ECO / SPORT / CUSTOM
- โหมด TRAIL สำหรับทางลุย
- โหมด SNOW สำหรับถนนลื่น
- Hill Start Assist และ Downhill Assist Control
ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน (คู่หน้า, เข่า, ด้านข้าง, ม่านถุงลม)
- เข็มขัดนิรภัยพร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติทุกตำแหน่ง
- จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX
- ระบบกันขโมย Immobilizer และสัญญาณเตือน



