เปิดราคาเริ่ม 364,000 บาท NIO Firefly รุ่นเช่าแบตเดือนละ 1,800 บาทในจีน พร้อมโปร จ่าย 3 งวดฟรี 1 งวดเป็นเวลา 3 ปี

เปิดราคาเริ่ม 364,000 บาท NIO Firefly รุ่นเช่าแบตเดือนละ 1,800 บาทในจีน พร้อมโปร จ่าย 3 งวดฟรี 1 งวดเป็นเวลา 3 ปี
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

  

[ข่าว] Firefly เปิดตัวแผนเช่าใช้แบตเตอรี่ BaaS ราคาเริ่มต้น 79,800 หยวน

วันที่ 24 มิถุนายน – รถยนต์ไฟฟ้า Firefly ได้เปิดตัวแผนการซื้อรถยนต์พร้อมเช่าใช้แบตเตอรี่ (BaaS – Battery as a Service) อย่างเป็นทางการ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • รุ่น Zizai: ราคาปกติเริ่มต้นที่ 119,800 หยวน หรือ 546,000 บาท
  • รุ่น Faguang: ราคาปกติเริ่มต้นที่ 125,800 หยวน หรือ 574,000 บาท

หากเลือกใช้บริการเช่าแบตเตอรี่ BaaS จะได้รับส่วนลดค่าตัวรถทันที 40,000 หยวน หรือ 182,000 บาท ทำให้ราคาเริ่มต้นของแต่ละรุ่นลดลงเหลือ:

  • รุ่น Zizai: ราคาเริ่มต้น 79,800 หยวน (ประมาณ 364,000 บาท)
  • รุ่น Faguang: ราคาเริ่มต้น 85,800 หยวน (ประมาณ 391,000 บาท)

สำหรับค่าบริการเช่าใช้แบตเตอรี่รายเดือนจะอยู่ที่ 399 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 1,821 บาท)

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับเดือนมิถุนายน:

เจ้าของรถคนแรกที่เลือกซื้อรถด้วยแผนเช่าแบตเตอรี่ BaaS จะได้รับสิทธิพิเศษ “จ่าย 4 ฟรี 1” เป็นเวลา 3 ปี กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่รับรถ ภายในระยะเวลา 3 ปี ทุกครั้งที่ชำระค่าบริการเช่าแบตเตอรี่ครบ 4 งวด จะได้รับการยกเว้นค่าบริการในงวดถัดไป

แผน BaaS (Battery as a Service) ที่กล่าวถึง เป็นแผนการ “เช่าใช้แบตเตอรี่” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดราคาซื้อรถยนต์ในตอนแรกให้ถูกลง ไม่ใช่แพ็กเกจสำหรับการสลับแบตเตอรี่ฟรี

อธิบายเพิ่มเติม

  • ค่าบริการรายเดือน 399 หยวน ที่จ่ายไปนั้น คือ ค่าเช่าแบตเตอรี่ เท่านั้น เพื่อให้คุณไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อแบตเตอรี่พร้อมกับตัวรถ
  • การสลับแบตเตอรี่ ที่สถานีสลับ (Swapping Station) โดยทั่วไปจะถือเป็นบริการเสริม และมี ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่อครั้งที่เข้าไปใช้บริการ ซึ่งค่าบริการนี้จะแยกต่างหากจากค่าเช่ารายเดือน

สมรรถนะและระบบขับเคลื่อน

  • มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยววางที่ล้อหลัง กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ หรือ 142 แรงม้า PS
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.2 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด: 150 กม./ชม.
  • แบตเตอรี่ 42.1 kWh / วิ่งได้ 420 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
  • รองรับการเปลี่ยนแบตผ่านเครือข่าย NIO Power Swap
  • ระบบเบรกอัจฉริยะ CST, ระบบเบรกพลังงานกลับอัตโนมัติปรับตามระยะรถข้างหน้า

การออกแบบและฟีเจอร์เด่น

  • สัดส่วนตัวรถ
    • ขนาดตัวถัง: ยาว 4003 มม. / กว้าง 1781 มม. / สูง 1557 มม.
    • ระยะฐานล้อ: 2615 มม.
    • ดีไซน์หลังคาลอยตัว, ตัวถังสองสี, คิ้วดำที่เสา A ถึง C
  • ดีไซน์ภายนอก:
    • ไฟหน้ารูปวงกลม 3 ดวงที่เป็นเอกลักษณ์
    • ไฟท้ายรูปวงกลม 3 ดวง สอดรับกับไฟหน้าด้านหน้า
    • ฝากระโปรงหน้าสั้นและเสา C-Pillar ที่เชื่อมต่อกับหลังคาอย่างลงตัว
    • แถบกลางหน้ารถใช้ดีไซน์ “胶囊环” หรือ “วงแคปซูล” สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว
    • ฝาหน้ารถมีพื้นที่เก็บของ 92 ลิตร พร้อมฟังก์ชันแยกชั้นและระบบระบายน้ำ
    • สีตัวถังมีให้เลือก 5 สี: ม่วงอินสไปร์, เขียวเกิดใหม่, เบจสบายใจ, ขาวบริสุทธิ์, เท่าสำรวจ
    • รัศมีวงเลี้ยวเพียง 4.7 เมตร เหมาะสำหรับการใช้งานในถนนแคบของยุโรป
    • รองรับระบบจอดรถแบบครบวงจร (All-Scenario Parking)
  • ภายในห้องโดยสาร
    • พวงมาลัย 2 ก้านทรงสปอร์ต พร้อมปุ่มควบคุมฟังก์ชันครบครัน
    • หน้าจอกลาง 13.2 นิ้ว (ลอยตัว), หน้าปัดดิจิทัล 6 นิ้ว
    • ระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพง 14 ตัว
    • แถบไฟบรรยากาศ 256 สี
    • กลิ่นหอมพิเศษ “ป่าเช้าตรู่” (กลิ่นเฉพาะของแบรนด์)
  • พื้นที่จัดเก็บสัมภาระ:
    • พื้นที่เก็บของท้ายรถ 92 ลิตร
    • สามารถขยายความจุได้สูงสุดถึง 1,250 ลิตร
    • ออกแบบพื้นห้องโดยสารแบบ “ผ่านถึงกัน” (ไร้คอนโซลกลาง)
    • มีจุดเก็บของรวมถึง 27 จุด เช่น ลิ้นชัก, ถ้วยแบบแม่เหล็ก, ช่องลับใต้เบาะ
    • เพิ่มความสะดวกในพื้นที่แคบ เมื่อต้องขึ้น-ลงรถจากทั้งสองฝั่ง
  • โครงสร้างและความปลอดภัย:
    • โครงสร้างตัวถังผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงถึง 83.4%
    • ค่า Torsional Rigidity สูงถึง 35,700 Nm/degree ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรถยนต์ประเภทเดียวกัน
    • ได้รับคะแนนความปลอดภัย C-NCAP ระดับ 5 ดาว (มาตรฐานปี 2024)
    • มาพร้อม ถุงลมนิรภัย 9 จุด และระบบช่วยขับขี่ ADAS (ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม)
  • ระบบช่วยขับขี่

    • ฟีเจอร์มาตรฐาน: ระบบความปลอดภัยเชิงรุก 15 รายการ
    • ระบบช่วยขับ 11 รายการ + ระบบช่วยจอด 7 รายการ
    • รองรับ การขับขี่อัตโนมัติระดับสูง ทั้งทางด่วนและเมือง
      เช่น ขึ้นลงทางลาด, แซงรถอัตโนมัติ, เปลี่ยนเลนอัตโนมัติ, จอดอัตโนมัติแบบ “เห็นที่จอดตรงไหน จอดได้เลย”

กลยุทธ์ทางการตลาด

  • เดิมที Nio มีแผนเปิดตัว Firefly ในยุโรปเป็นตลาดแรก แต่หลังจากยอดขายในยุโรปไม่เป็นไปตามคาดและต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าที่สูง Nio จึงตัดสินใจเปิดตัวใน จีน ก่อน
  • การเปิดตัวในยุโรปคาดว่าจะเกิดขึ้นใน ไตรมาสที่ 2 ปี 2025 และอาจตามด้วยตลาด ละตินอเมริกา และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เครือข่ายการขาย

  • Firefly จะใช้เครือข่ายการขายของ Nio ต่างจากแบรนด์ Onvo ที่มีช่องทางการขายแยกเป็นของตัวเอง

บทบาทและเป้าหมายของ Firefly

  • Firefly จะวางตำแหน่งเป็นแบรนด์ที่คล้ายกับบทบาทของ Mini สำหรับ BMW
  • รถรุ่นนี้มุ่งเน้นการใช้งานในเมือง ขนาดกะทัดรัด และสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วโลก โดย Nio ยืนยันว่า Firefly คือ “รถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก” ที่จะขยายสู่ตลาดหลากหลายภูมิภาคในอนาคต

Autohome

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้