Advertisement

Advertisement

Subaru ปิดโรงงานเดือนเดียว ยอดผลิตหาย 150,000 คัน

Subaru ปิดโรงงานเดือนเดียว ยอดผลิตหาย 150,000 คัน

Advertisement

Advertisement

การปิดโรงงานรถยนต์ของ Subaru Corp. ในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาในเดือนเมษายน เนื่องจากไวรัส COVID-19 ที่ระบาดอย่างรุนแรง ทำให้ยอดผลิตรถยนต์ของ Subaru ทั่วโลกลดลง 15% หรือ 150,000 คัน และนี้จะส่งผลต่อยอดขายทั่วโลกเช่นกัน

ผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ของอุสาหกรรมรถยนต์ค่อนข้างจะหนัก โดยเฉพาะค่ายรถในญี่ปุ่น ผู้ผลิตรถยนต์คาดว่าผลกระทบจะแย่ลงเนื่องจากมีแผนที่จะขยายการหยุดกะกลางคืนที่โรงงานในประเทศ เริ่ม 19 มิถุนายน จากเดิม 31 พฤษภาคม (ลดกะกลางคืน นั่นคือลดการผลิต)

“ แนวโน้มการเปิดเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ชัดเจน เราคาดว่าจะได้รับผลกระทบ จนถึงมีนาคม 2564 ” นาย ซูมิโทโมะนามูระ ประธาน Subaru กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์ในวันจันทร์ถึงผลประกอบการล่าสุด

Subaru กล่าวเมื่อวันจันที่ 18 พฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมาว่า มีกำไรสุทธิสำหรับปีธุรกิจที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคมเพิ่มขึ้น 7.9% จากปีที่แล้วมาอยู่ที่ 152.59 พันล้านเยน (ประมาณ 45,200 ล้านบาท) กำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มเพิ่มขึ้น 15.7% สู่ระดับ 210.32 พันล้านเยน (ประมาณ 62,000 ล้านบาท) จากยอดขายที่ 3.34 ล้านล้านเยนเพิ่มขึ้น 6.0% (ประมาณ 991,500 ล้านบาท)

ยอดขายรถยนต์ Subaru ในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 6.3% หรือจำนวน 762,000 คัน คิดเป็นยอดขายทั้งหมด 75% ของบริษัท โดยสามารถทำยอดขายรุ่น Forester และ Ascent

Subaru ระงับการผลิตในจังหวัดกันมะของญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. ถึง 1 พ.ค. เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้อุปสงค์ลดลง รวมถึงกระทบจากการจัดหาอะไหล่ และยังคงสภาพพนักงานกว่า 10,000 คนที่โรงงานดังกล่าว

โรงงานในจังหวัดกันมะทำหน้าที่ผลิตรถยนต์รุ่น Impreza และ Forester สำหรับส่งขายในญี่ปุ่นและอเมริกาเหนือ ซึ่งตลาดดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของยอดขายทั่วโลก

Japantimes.co.jp

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้