car250.com เว็บไซต์ของคนรักรถ ข่าวรถใหม่

วันพุธที่ 7 มิถุนายน 2023
News ข่าวรถยนต์รถใหม่

เปิดตัวไทยต้นปีหน้า Chery OMODA 5 EV และ Tiggo 8 PLUS e+ ปลั๊กอินไฮบริด

Advertisement

Advertisement

 

Chery Auto ประเทศจีน เตรียมส่งรถยนต์ในประเทศไทย สำหรับ Chery OMODA 5 EV ช่วงต้นปีหน้า หรือปี 2024 พร้อม Tiggo 8 Pro PHEV

  • ก่อนหน้านี้ Chery Atuo ประเทศเผยการเปิดตัวระดับโลกของ OMODA & JAECOO รถใหม่เปิดตัวในงาน Shanghai Auto Show 2023 นับเป็นการเผยโฉมครั้งแรก

วันที่ 18 เมษายน OMODA และ JAECOO เปิดตัวในฐานะแบรนด์อิสระ ณ งาน Shanghai International Automobile Industry Exhibition ครั้งที่ 20 (“Auto Shanghai 2023”), ซึ่งสร้างความสนใจอย่างกว้างขวางจากสื่อมวลชนระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ OMODA รุ่นไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก OMODA5 EQA ได้เปิดตัวให้ทั่วโลกได้ยลโฉม ในขณะที่แบรนด์ JAECOO เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ด้วยโมเดล JAECOO 7 และ JAECOO 9

uto Shanghai 2023 ซึ่งเป็นงานแสดงรถยนต์ระดับนานาชาติงานแรกในรอบ 3 ปี หลังจากเกิดโรคระบาด ดึงดูดให้บริษัทมากกว่า 1,000 แห่งทั่วโลกเข้าร่วมงานอย่างแข็งขัน บรรยากาศภายในงานถูกขับเคลื่อนโดยสถานการณ์อุตสาหกรรมใหม่และผู้บริโภคยุคใหม่ แบรนด์เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างหนาแน่นในงานครั้งนี้ ซึ่งต่างเน้นไปที่เป็นพลังงานใหม่สำหรับตลาดรถยนต์ทั่วโลก สำหรับค่ายรถยนต์​ Chery ได้มีการก่อตั้งแบรนด์ใหม่สองแบรนด์ ได้แก่ OMODA และ JAECOO แสดงให้เห็นถึงแนวคิดในการโอบกอดผู้ใช้ที่มีใจรักและอุตสาหกรรม

OMODA ได้สร้างยานยนต์ระดับโลกคันแรก OMODA 5 โดยคำนึงถึงคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นชีวิตที่ทันสมัยและมีความเท่ สปอร์ต ในปีที่ผ่านมา OMODA ได้รับการตอบรับจากสื่อมากกว่า 3 ล้าน Interaction บนโลกออนไลน์

และได้รับการมองเห็นบนโลกออนไลน์มากกว่า 3 พันล้านวิว และมีผู้ใช้ กว่า 10,000 ราย ส่งผ่านรูปภาพ 1200 รูป และการสตรีมมิงแบบสด โดยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ OMODA นี้ เป็นการเปิดตลาด Segment ใหม่เพื่อรองรับผู้ใช้สมัยใหม่และคนรุ่นใหม่ที่มีความกระตือรือร้น และทันสมัย ที่งาน Auto Shanghai 2023 OMODA เริ่มต้นความเป็นแบรนด์ระดับโลกด้วยรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก OMODA 5 e-QUA

นอกจากนี้ JAECOO แบรนด์น้องใหม่อีกหนึ่งแบรนด์ ซึ่งเป็นแบรนด์รถ SUV ออฟโรดในเมืองที่ออกแบบสำหรับผู้คนระดับผู้บริหารในเมืองที่มีรสนิยมหัวสมัยใหม่ ก็เปิดตัวพร้อมกันเช่นกัน

ด้วยความพยายามที่จะตอบสนองความต้องการด้านการเดินทางของกลุ่มเป้าหมายการสำรวจที่ผ่านมา JAECOO สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราและหรูหรา แบรนด์ JAECOO ได้นำรถใหม่สองคันมาที่งานแสดงรถยนต์นี้ และคันแรกได้รับความสนใจอย่างมากจากสาธารณชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงแรก

JAECOO ได้รับแรงบันดาลใจจากปรัชญาของธรรมชาติ โดยนักออกแบบนำแรงบันดาลใจจากธรรมชาติมาสู่แบบจำลองของรถยนต์รุ่นใหม่ของ JAECOO

และร่างโครงร่างด้วยเส้นตรงที่มั่นคงจำนวนมาก ซึ่งเรียบง่ายและไม่มีการตกแต่งที่ฟุ่มเฟือย ทำให้มีความสงบสือถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่สุขุม ไฟวิ่งกลางวันแบบเมทริกซ์เน้นความรู้สึกของเทคโนโลยี ในขณะที่กระจังหน้าแบบน้ำตกเป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวาของธรรมชาติ

การออกแบบภายในแสดงให้เห็นถึงความประณีตและความซับซ้อนที่มองเห็นได้รอบทิศทาง แผงด้านหน้ามีลักษณะเป็นเส้นตรงเป็นหลัก พร้อมวัสดุโลหะและกระบวนการตัดแต่งหลายเหลี่ยมเพื่อสัมผัสถึงพลัง ซึ่งสะท้อนถึงการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ JAECOO อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับรถ SUV ออฟโรดขนาดเล็ก

นอกจากนี้ ลวดลายบนแผงประตูและเบาะนั่งยังได้รับแรงบันดาลใจจากตะแกรงหน้าต่างตัดกระดาษในสถาปัตยกรรมจีนโบราณและประดับประดาด้วยสีเหลืองของดอกมะลิฤดูหนาว ไม่เพียงแต่นำความมีชีวิตชีวามาสู่การเกิดใหม่ของแบรนด์ JAECOO เท่านั้น แต่ยังรวมถึง ตลาดรถยนต์ทั้งหมดของ Chery อีกด้วย

หลังจากเปิดตัวที่งานแสดงรถยนต์แล้ว OMODA & JAECOO จะจัดงาน Brand Day ในวันที่ 20 เมษายนที่เมือง Wuhu มณฑล Anhui ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของพวกเขาในประเทศจีน ในเวลานั้นจะมีการเผยแพร่เทคโนโลยีพลังงานใหม่และกลยุทธ์การพัฒนาในอนาคต ด้วยตัวแทนจำหน่ายและตัวแทนสื่อมากกว่า 400 รายจากทั่วโลก มาร่วมเป็นสักขีพยานในการถือกำเนิดของแบรนด์ที่มีสไตล์และซับซ้อนทั้งสองแบรนด์นี้

ข้อมูลเกี่ยวกับรถเบื้องต้น ให้กำลัง 221 แรงม้า แรงบิต 323 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่61kwh สามารถวิ่งได้ 450 กม./ชาร์จ NEDC ชาร์จช้า AC 5 ชั่วโมง ชาร์จเร็ว DC 30 – 80% SOC ภายใน 35 นาที

สำหรับตลาดไทย Chery จะเปิดตัวรถรุ่นนี้ในเวอร์ชันรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่พวงมาลัยขวา โดยวิ่งได้ไกลกว่า 450 กม. พร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ L2+ และระบบช่วยผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เพื่อยกระดับความปลอดภัย

OMODA 5 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ศิลปะขับเคลื่อน (Art in Motion) เป็นรถยนต์ B-SUV รุ่นแรกของค่ายที่ใช้การออกแบบ Art in Motion ที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบน้ำมันเบนซินและพลังงานไฟฟ้าพร้อมโหมดการขับขี่แบบ 2WD และ 4WD ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุดระดับห้าดาวจากการทดสอบในหลากหลายประเทศ

โอโมด้า 5 แฝงด้วยยีนที่มีความเป็นสากล 5 ข้อด้วยกัน ได้แก่ การวิจัยและพัฒนาระดับสากล มาตรฐานระดับสากล คุณภาพระดับสากล ชื่อเสียงระดับสากล และการเปิดตัวในระดับสากล ซึ่งได้มาตรฐานระดับ 5 ดาวซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของโครงการประเมินรถใหม่ของยุโรป (E-NCAP) ออสเตรเลีย (A-NCAP) จีน (C-NCAP) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN-NCAP) ไปจนถึงอเมริกากลางและอเมริกาใต้ (L-NCAP) ส่วนในแง่ของขนาดตัวรถนั้น

ขนาดตัวถัง OMODA 5

  • ยาว 4400 มม.
  • กว้าง 1824 มม.
  • สูง 1588 มม.
  • ฐานล้อ 2630 มม.

โดย Chery คาดว่า จะเปิดตัวรถรุ่นนี้ในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลกภายในปี 2565 ทั้งในเอเชีย อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย และยุโรป ในช่วงแรก ๆ ของการพัฒนารถรุ่นนี้ OMODA 5 ถูกออกแบบมาให้ตรงตามมาตรฐานการชนระดับสากลรวม 5 รายการ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนและรูปแบบการขับขี่หลากหลายประเภท ซึ่งรวมถึงพลังงานรูปแบบใหม่ ๆ นอกจากนี้ Chery ยังได้วางระบบบริหารจัดการการผลิตรวมที่เป็นมาตรฐานในระดับสากลอย่าง CPS (Chery Production System) และได้กระชับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับบรรดาซัพพลายเออร์ระดับโลก เพื่อยกระดับสมรรถนะยานยนต์ทั้งกระบวนการให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ปัจจุบัน Chery เปิดตัว โชว์รูมแห่งแรกในไทย โดย บริษัท ไทยเฌอรี่ยานยนตร์ จำกัด ในเครือไทยยานยนตร์กรุพ เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ เชอรี ระดับมาตรฐานพรีเมียมแห่งแรกของประเทศไทย ณ ถนนสุขุมวิท ซอย 87 โดยตั้งเป้าเปิดศูนย์บริการและโชว์รูมในปีแรกกว่า 20 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด

โชว์รูมและศูนย์บริการ เชอรี แห่งแรก ประกอบด้วย ส่วนการขาย การให้บริการหลังการขาย สตอคอะไหล่ รวมทั้งศูนย์ซ่อมตัวรถ และศูนย์ซ่อมสี พร้อมบริการแบบ “PERSONALIZED SERVICE” ให้บริการตลอด 24 ชม. พร้อมการรับประกันอะไหล่ และตัวรถ 3 ปี หรือ 100,000 กม. ศูนย์บริการสามารถรองรับรถได้เดือนละ 200 คัน ทั้งรถยนต์ในเครือและนอกเครือ ด้วยทีมช่างกว่า 30 คน

OMODA 5  ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ตอกย้ำความทันสมัยด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบใหม่ล่าสุด ช่วยลดแรงต้านของรถบนถนน ทำให้ความเร็วสูงสุดของรถและประสิทธภาพในการขับขี่เพิ่มขึ้น

คอนเซ็ปต์การออกแบบ Art in Motion ของ Chery ได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัยผสานเข้ากับการเปลี่ยนรูปลักษณ์ที่ทำให้คล่องตัวและทรงพลังมากขึ้น โดยอาศัยการสร้างสรรค์จากความสมดุลของแสงและเงาเป็นหลัก

ด้านหน้าของตัวรถยนต์ OMODA 5 ถูกออกแบบด้วยโครงสร้างไร้ขอบที่ผสานลงตัวกับกระจังหน้าทรงเพชร เพิ่มการมองเห็นที่เด่นชัดมากขึ้น นับเป็นดีไซน์ที่ลงตัวอย่างชาญฉลาด ขอบโครงรถเชื่อมระหว่างตัวถังส่วนหน้าและหลังคารถเข้าด้วยกันอย่างไร้ที่ติ นอกจากนี้ สปอยเลอร์ปีกหลังของรถถูกออกแบบสองชั้นอย่างล้ำยุคเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขับขี่และช่วยในการระบายอากาศของรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ

การออกแบบคัลเลอร์บล็อกกิ้ง (color-blocking) หรือการเลือกสีที่ตัดกันอย่างสุดขั้วมาแมชกันเกิดลุคใหม่ที่แปลกตาทั้งภายนอกและภายใน ไฟหน้าแบบแยกกัน โดยใช้ไฟ LED ทรงตัว T สำหรับวิ่งกลางวัน ส่วนไฟท้ายรถใช้หลอดไฟ LED แบบ urban ที่จะช่วยเสริมความโดดเด่นและแตกต่างจากไฟหน้า นอกจากนี้ ยังใช้ล้อแม็กซ์สีตัดกันขนาด 18 นิ้ว

ภายในประกอบด้วยหน้าจอ HD ขนาด 10.25 นิ้วและเบาะแบบสปอร์ตที่โดดเด่นและเพิ่มสัมผัสแห่งเทคโนโลยีโลกอนาคต

Chery Tiggo 8 PLUS e+ ปลั๊กอินไฮบริด วิ่งไฟฟ้าล้วน 100 กม./ชาร์จ

Chery Tiggo 8 PLUS e+ เวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริด เปิดราคา 3 รุ่นย่อยในจีน เริ่ม 155,800 – 171,800 หยวน หรือประมาณ 818,000 – 902,000 บาท

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด DHT 1.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง ให้กำลัง 326 แรงม้า แรงบิต 510 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.9 วินาที อัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 25 กม./ลิตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีต พร้อมโหมดการขับขี่ 11 แบบ

  • ชุดแบตเตอรี่ขนาด 19.27kWh สามารถวิ่งไฟฟ้าล้วน 100 กม./ชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC

  • ติดตั้ง APP พิเศษแบบไฮบริดไฟฟ้าสามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของพลังงานได้แบบเรียลไทม์

  • ผู้ใช้สามารถจอง หรือ ตั้งเวลาชาร์จได้อย่างอิสระผ่านระบบรถยนต์ และ ระบบโทรศัพท์มือถือ

Chery Tiggo 8 PLUS e+ ภายนอกออกแบบไม่ได้แตกต่างจาก Tiggo 8 Plus โฉมปกติ กระจังหน้าออกแบบ Dot-Matrix ไฟหน้าไฮเทคแบบ Full-LED 4D รวมไฟหน้าแบบคริสตัล LED, ไฟวิ่งกลางวันที่มีความสว่างสูง ไฟเลี้ยวหยดน้ำ มีฟังก์ชั่นการสลับไฟส่องสว่างทั้งไกลและต่ำอัจฉริยะ IHC ไฟตัดหมอก LED พร้อมกรอบโครเมี่ยม กันชนหน้าใหม่ กรอบหน้าต่างโครเมี่ยม ขอบกันชนข้างโครเมี่ยม

  • ซันรูฟแบบพาโนรามาด้านนอก 1.17 ม.

  • ล้อขนาด 19 นิ้วจับคู่กับยางสมรรถนะสูงของ Continental

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4,722 มม.

  • กว้าง 1,860 มม.

  • สูง 1,745 มม.

  • ระยะฐานล้อ 2,710 มม.

  • พื้นที่สัมภาระท้าย 1,930 ลิตร

ภายในห้องโดยสาร ติดตั้งเบาะหนังแบบปิดพิเศษ สีน้ำตาลอ่อน ได้รับการออกแบบด้วยกระบวนการควิลท์แบบแฟนซีเพื่อเพิ่มความรู้สึกแบบสามมิติ เพิ่มกระบวนการฟองความแข็งคู่และการออกแบบชั้นโฟมที่นุ่มสบายเพื่อเพิ่มผลในการรองรับสรีระ

คอนโซลหน้าติดตั้งหน้าจอคู่อัจฉริยะขนาดรวม 24.6 นิ้ว รองรับ Xiaoqi Smart Car Manager 4.0 และรองรับ CarLife, CarPlay และ การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง ระบบนำทาง แบบสองโหมดของ Beidou + GPS สัญญาณที่แรงกว่าและความแม่นยำสูงกว่า

พร้อมเครื่องปรับอากาศ LCD 8 นิ้ว / หน้าจอสัมผัสที่นั่งและร่วมมือกับ “Xiaoqi “น่าสังเกตว่า Tiggo 8 PLUS เป็นรายแรกที่ติดตั้งหน้าจอควบคุมพิเศษเฉพาะเครื่องปรับอากาศแถวที่สองและผู้ใช้แถวที่สองยังสามารถควบคุมได้อย่างอิสระ ผ่านหน้าจอขนาด 8 นิ้ว

  • เครื่องเสียง SONY ลำโพง 8 ตำแหน่ง

  • กล้องพาโนรามา 360 องศา

MYDRIVE

vietnam.postsen

Advertisement

Advertisement

News ข่าวรถยนต์รถใหม่ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด