เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน ดีเซล 2.8 ลิตร 201 PS / 500 Nm

แม้จะเป็นรุ่น WorkMate แต่สเปกเครื่องยนต์ถือว่า “เท่าตัวท็อป” เพราะ Toyota ให้อัตรากำลังมาครบ 150 kW พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 Nm (รุ่นเกียร์อัตโนมัติ) รองรับงานลาก–บรรทุก และการใช้งานหนักทั้งในเมืองและนอกเมือง

• เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV
• กำลังสูงสุด 201 PS
• แรงบิดสูงสุด 500 Nm (AT) / 420 Nm (MT)
• เกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือ อัตโนมัติ 6 สปีด
• ถังน้ำมันขนาด 80 ลิตร
• ระบบขับเคลื่อน: มีให้เลือกทั้ง 4×2 และ 4×4

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (L/100 km)

ผ่านมาตรฐาน ADR ออสเตรเลีย (ค่าทดลองในห้องทดสอบ)

• Combined: 13.6 กม./ลิตร (MT) / 13.5 กม./ลิตร (AT)
• Extra Urban:  14.0 กม./ลิตร (MT) / 14.4 กม./ลิตร (AT)
• Urban: 13.1 กม./ลิตร (MT) / 12.1 กม./ลิตร (AT)

มิติตัวรถและโครงสร้าง

WorkMate 2026 ทั้ง 4×2 และ 4×4 ตั้งอยู่บนโครงสร้าง Body-on-Frame อึดทนเป็นพิเศษ

• ความยาว: 5320–5380 มม. (ขึ้นกับตัวถัง)
• ความกว้าง: 1855–1875 มม.
• ความสูง: 1865–1880 มม.
• ระยะฐานล้อ: 3085 มม.

ความสามารถบรรทุก–ลากจูง

• ลากจูงสูงสุด 3500 กก. (4×4)
• งานลากแบบไม่มีเบรก 750 กก.
• GVM ความสามารถในการลากจูงแบบมีเบรกสูงสุด: 2950–2980 กก. (ขึ้นกับรุ่น)
• น้ำหนักรวมบรรทุก 2,950 กก.
• GCM สูงสุด: 5800–5880 กก.

น้ำหนักรถเปล่า

• 2WD AT 1,700 กก
• 2WD MT 2,105 กก.
• 4WD AT 1,830 กก.

ช่วงล่าง–ระบบเบรก–ล้อและยาง

• ด้านหน้า: ปีกนกอิสระ + คอยล์สปริง
• ด้านหลัง: แหนบ (Rigid Leaf) รองรับงานหนัก
• เบรกหน้า: จานดิสก์ระบายความร้อน
• เบรกหลัง: ดรัมเบรก
• ล้อเหล็กขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R17

อุปกรณ์ภายนอก (Exterior)

• ไฟหน้า LED มาตรฐานทุกรุ่นย่อย
• ไฟส่องสว่างกลางวัน LED (DRL)
• กระจังหน้า + กันชนหน้า “สีเดียวกับตัวรถ”
• เสาอากาศ Shark Fin
• กระจกหน้าแบบ Laminated ลดเสียงลม
• บังโคลน (Front Mud Guard)
• กันกระแทก Anti-Chipping รอบคัน
• รุ่น Pick-Up มาพร้อม Tailgate Damper + Tie-Down Hooks

อุปกรณ์ภายใน (Interior)

• เบาะผ้าทนทาน (Basic Fabric)
• พื้นห้องโดยสารแบบไวนิล Durable Vinyl Floor
• หน้าจอ MID สี 7 นิ้ว
• พวงมาลัยยูรีเทน
• เบรกมือแบบคันโยก
• กล่องเก็บของคอนโซลกลางมีฝาปิด
• ช่องเก็บของ Glovebox

เทคโนโลยีและความบันเทิง (Multimedia)

WorkMate 2026 คือครั้งแรกที่รุ่นพื้นฐานได้ฟีเจอร์เทียบชั้นรุ่นบนทันที

• หน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว (ใหม่ล่าสุด)
• รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Wireless Android Auto
• ระบบนำทาง Connected Navigation
• DAB+ Digital Radio
• USB-C 2 ช่อง
• Bluetooth
• ลำโพง:
  • Single-Cab: 2 ตัว
  • Double-Cab: 4 ตัว

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

WorkMate ได้ระบบความปลอดภัย “จัดเต็ม” แบบเดียวกับรุ่นสูง

• Pre-Collision System (AEB) เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ลดโอกาสชน
• Dynamic Radar Cruise Control ควบคุมความเร็วตามรถคันหน้าอัตโนมัติ
• Lane Trace Assist ช่วยประคองรถให้อยู่กลางเลน
• Lane Departure Alert เตือนเมื่อรถออกนอกเลน
• Road Sign Assist อ่านป้ายจราจรและแสดงบนหน้าจอ
• Automatic High Beam สลับไฟสูง–ต่ำอัตโนมัติ
• Blind Spot Monitor เตือนรถในมุมอับ
• Rear Cross Traffic Alert เตือนรถตัดหลังขณะถอย
• Parking Sensors เซนเซอร์กะระยะหน้า–หลัง
• Reversing Camera กล้องมองหลัง
• ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง ปกป้องรอบทิศทาง
• Vehicle Stability Control ควบคุมเสถียรภาพไม่ให้รถลื่นไถล
• ABS + EBD ป้องกันล้อล็อก + กระจายแรงเบรก
• TPMS ตรวจแรงดันลมยาง

ระบบความปลอดภัยด้านความมั่นคง (Security)

• ระบบกันขโมย Alarm + Immobiliser
• Remote Keyless Entry
• Cabin Detection Alert

สรุป ทำไม HiLux WorkMate 2026 จึงคุ้มค่าที่สุดในกลุ่ม?

สำหรับปี 2026 Toyota ปรับกลยุทธ์ใหม่ ให้รุ่นพื้นฐาน WorkMate มีฟีเจอร์เทียบเท่ารุ่นกลาง–สูงหลายรายการ โดยเฉพาะจอ 12.3 นิ้ว ไฟหน้า LED และระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ครบชุด ผสานกับโครงสร้างแกร่งแบบแชสซีส์ Body-on-Frame และเครื่องดีเซล 2.8 ลิตร 201 PS ทำให้เป็นตัวเลือกที่ “ลุยงานหนักได้จริง คุ้มราคา และทันสมัยกว่าเดิมหลายเท่า”