โตโยต้าจัดใหญ่! เสนอแผนแลก “รถอเมริกา” กับ “ตลาดญี่ปุ่น” แก้ศึกภาษีนำเข้าระหว่างประเทศ!

โตโยต้าจัดใหญ่! เสนอแผนแลก “รถอเมริกา” กับ “ตลาดญี่ปุ่น” แก้ศึกภาษีนำเข้าระหว่างประเทศ!
Spread the love

Advertisement

Advertisement

สรุปข่าว: โตโยต้าเสนอแผนแลกเปลี่ยนรถข้ามชาติ แก้ปัญหาภาษีรถยนต์ระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ

  • วันที่ 1 พฤษภาคม 2025 นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานโตโยต้า พบกับนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ เพื่อหารือเรื่องปัญหาภาษีนำเข้ารถยนต์ระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ
  • โทโยดะอธิบายถึงความแตกต่างเชิงโครงสร้างระหว่างตลาดรถญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เช่น ขนาดถนน มาตรฐานรถ กฎหมาย และภาษี ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการขายรถอเมริกันในญี่ปุ่น
  • มีข้อเสนอ 2 ข้อจากฝั่งโตโยต้า

    • นำเข้ารถโตโยต้าที่ผลิตในอเมริกา (เช่น Sienna, Camry, Highlander) มาขายในญี่ปุ่น
    • ให้โชว์รูมโตโยต้าในญี่ปุ่นช่วยขายรถอเมริกันที่ผลิตในสหรัฐฯ
  • นักวิเคราะห์มองว่า ข้อเสนอข้อแรกมีความเป็นไปได้สูงและอาจประสบความสำเร็จมากกว่า เพราะรถโตโยต้าจากอเมริกายังมีโอกาสเข้ากับตลาดญี่ปุ่นได้
  • แม้ยังเป็นเพียงการเสนอแนวคิด แต่ถือเป็นแนวทางสร้างสรรค์ที่อาจช่วยให้การเจรจาภาษีรถยนต์ระหว่างสองประเทศเดินหน้าต่อได้

วันที่ 1 พฤษภาคม 2025 ในช่วงค่ำ มีรายงานว่า นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า และ นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ได้พบปะหารือกันเป็นเวลา 45 นาที ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว

น่าสนใจว่า นายโตโยดะนั้นสนิทกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา โดยถึงกับเรียกชื่อกันว่า “อากิโอะ” และยังเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมกับนายกรัฐมนตรีอิชิบะอีกด้วย (ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน!)

การพบปะในครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับ ปัญหาภาษีนำเข้ารถยนต์ระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนในเวลานี้ โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของโทโยดะที่มีต่อทั้งสองผู้นำมาเป็นจุดเชื่อมโยง (แม้ รองประธานฯ นากาชิมะ จะกล่าวในวิดีโอว่า “แค่บังเอิญอยู่ใกล้ๆ” แต่ก็ยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ)

ประเด็นหลักในการหารือ ตามคำให้สัมภาษณ์ของรองประธานนากาชิมะ คือ การอธิบาย “ความแตกต่างระหว่างอุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นและสหรัฐฯ”

รถยนต์ที่ผลิตโดยผู้ผลิตญี่ปุ่นขายดีมากในสหรัฐฯ แต่รถยนต์จากผู้ผลิตอเมริกันกลับขายไม่ดีในญี่ปุ่น ซึ่งมีหลายสาเหตุ เช่น

    • ขนาดถนนและโรงจอดรถที่ต่างกันอย่างมาก
    • แนวคิดของผู้คนต่อการใช้รถยนต์ที่ต่างกัน
    • ระบบรับรองรถยนต์, กฎหมายจราจร, และมาตรฐานความปลอดภัยที่ไม่เหมือนกัน

ความแตกต่างเหล่านี้ทำให้การเจาะตลาดของรถอเมริกันในญี่ปุ่นเป็นเรื่องยาก

นอกจากนี้ ถนนในญี่ปุ่นถึง 70% ถูกประเมินว่าเหมาะสมกับรถยนต์ขนาด “เคคาร์” (รถเล็ก) ซึ่งก็ยิ่งทำให้รถยนต์อเมริกันที่มีขนาดใหญ่ไม่เหมาะกับสภาพพื้นที่

และที่สำคัญคือ โครงสร้างภาษีในญี่ปุ่น เช่น ภาษีตามน้ำหนักรถ, ภาษีสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ล้วนไม่เป็นธรรมต่อรถอเมริกันที่มักมีน้ำหนักและขนาดมากกว่า

ถ้าเอารถอเมริกันเข้ามาขายญี่ปุ่นแบบ “บังคับซื้อ” ก็อาจไม่มีใครซื้ออยู่ดี

ความคิดเห็นจากกองบรรณาธิการ คือ ถ้าผู้ผลิตรถอเมริกันอยากขายในญี่ปุ่นอย่างจริงจัง คงต้อง ศึกษาตลาดญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งและออกแบบรถให้เข้ากับคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะ แต่การทำเช่นนั้นต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก และอาจไม่คุ้มเลย


แล้วโตโยต้าเกี่ยวอะไร?

โตโยต้ามียอดขายรถในอเมริกาเหนือ (รวมแคนาดาและเม็กซิโก) ปี 2024 อยู่ที่ ประมาณ 2.73 ล้านคัน
ในจำนวนนั้นผลิตในอเมริกาเหนือประมาณ 2.074 ล้านคัน หรือคิดเป็นประมาณ 3/4 ของยอดขายทั้งหมด อีก 1/4 มาจากการนำเข้าจากญี่ปุ่น

ถึงแม้จะไม่สามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่าการนำเข้าทำให้ขาดทุนหรือไม่ เพราะยังมีปัจจัยเรื่องการจ้างงาน การส่งออกชิ้นส่วน และต้นทุนโรงงานร่วมด้วย แต่อเมริกาก็อาจมองว่า:

“ทำไมยังต้องนำเข้ารถญี่ปุ่นมาตั้ง 7 แสนคัน? ทำไมไม่ผลิตในประเทศให้หมด?”

นายโทโยดะจึงได้อธิบายสถานการณ์เหล่านี้ให้นายกรัฐมนตรีอิชิบะฟัง พร้อมเสนอไอเดีย 2 ข้อ:

  • โตโยต้านำเข้ารถที่ผลิตในอเมริกากลับมาขายในญี่ปุ่น
  • ให้โตโยต้าช่วยขายรถอเมริกันที่ผลิตโดยผู้ผลิตในสหรัฐฯ ผ่านโชว์รูมของโตโยต้าในญี่ปุ่น

ทั้งสองข้อเป็นไอเดียที่ “แรง” มาก และหากทำได้จริงจะถือเป็นข่าวใหญ่

แม้สื่อจะรายงานไอเดียข้อ 2 เป็นหลัก (โตโยต้าช่วยขายรถอเมริกันในญี่ปุ่น) ซึ่งคล้ายกรณีที่โตโยต้าเคยขายรถ GM ในอดีต
แต่ทางบรรณาธิการกลับมองว่า ข้อเสนอแรก (นำเข้ารถโตโยต้าจากอเมริกา) นั้น ใหญ่และมีแนวโน้มเกิดขึ้นได้มากกว่า

เพราะถึงแม้รถอย่าง Sienna (มินิแวน), Camry (ซีดาน), Highlander (SUV) จะออกแบบมาสำหรับตลาดอเมริกา แต่ก็ยังมี เสน่ห์และความน่าสนใจสำหรับตลาดญี่ปุ่น อยู่ไม่น้อย

พูดตรงๆ รถ GM หรือ Ford คงขายยากในญี่ปุ่น
แต่ “รถโตโยต้าที่ผลิตในอเมริกา” นั้น ยังพอมีโอกาส ที่จะได้รับความนิยม

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ยังอยู่ในขั้นของ “ข้อเสนอ” จากฝั่งญี่ปุ่น ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะยื่นเรื่องนี้ต่อสหรัฐฯ หรือไม่ และยังไม่รู้ว่ารัฐบาลอเมริกาจะยอมรับหรือไม่

แต่โดยรวมแล้ว เป็นไอเดียที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นมาก สำหรับคนรักรถ และอาจกลายเป็น “ทางออก” ของการเจรจาภาษีรถยนต์ที่กำลังอึมครึมอยู่ในตอนนี้

หากญี่ปุ่นเสนอแผนนี้ให้ประธานาธิบดีทรัมป์แล้วได้ผลลัพธ์ดีจริง คงเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับทั้งสองฝ่าย

https://www.youtube.com/watch?v=7QjDty6De-Y

bestcarweb

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้