10 รถยนต์ประหยัดน้ำมันมากสุดแห่งปี 2025 ในสหรัฐฯ TOYOTA PRIUS อันดับ 1 24.23 กม./ลิตร EPA

จากการจัดอันดับอย่างเป็นทางการของ EPA (สำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา) นี่คือรายชื่อรถยนต์ไฮบริด (ที่ไม่ใช่ PHEV) ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดประจำปี 2025

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (EV) อาจเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม แต่ประโยชน์ใช้สอยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการที่คุณสามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้เมื่อไม่ใช้งาน ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีโรงจอดรถ หรือบางทีคุณอาจจะแค่ต้องการยึดติดกับวิถีเดิมๆ คือเติมน้ำมันแล้วปล่อยให้รถจัดการที่เหลือเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร!

จากการจัดอันดับอย่างเป็นทางการของ EPA (สำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา) นี่คือรายชื่อรถยนต์ไฮบริด (ที่ไม่ใช่ PHEV) ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดประจำปี 2025

10. 2025 Lexus UX300h – 43 MPG (ประมาณ 18.28 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 45 MPG ในเมือง / 41 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 19.13 กม./ลิตร / 17.43 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 456 ไมล์ (ประมาณ 734 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $37,515 (ประมาณ 1.22 ล้านบาท, ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

Lexus UX300h ที่ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อยสำหรับปี 2025 ใช้ระบบส่งกำลังเวอร์ชันเดียวกับ Prius และ Corolla Hybrid ทำให้ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 43 MPG และคว้าอันดับสุดท้ายในรายการนี้ไปครอง มันทรงพลังกว่า UX250h รุ่นปีที่แล้ว และตอนนี้ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแทนนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ นับเป็นรถครอสโอเวอร์ซับคอมแพกต์ที่ดีสำหรับผู้ที่มองหาแบรนด์หรูและความรู้สึกพรีเมียม แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือแบบโตโยต้าพื้นฐาน ในราคาที่ไม่ห่างจาก Prius รุ่นท็อปมากนัก

9. 2025 Lexus ES300h – 44 MPG (ประมาณ 18.71 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 43 MPG ในเมือง / 44 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 18.28 กม./ลิตร / 18.71 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 581 ไมล์ (ประมาณ 935 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $44,615 (ประมาณ 1.45 ล้านบาท, ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

ด้วยการใช้ระบบส่งกำลังที่โดยพื้นฐานแล้วเหมือนกับ Toyota Camry ที่กล่าวถึงข้างต้น Lexus ES300h ที่หนักกว่าและหรูกว่า กลับทำอัตราสิ้นเปลืองได้ถึง 44 MPG และคว้าตำแหน่งรถยนต์ไฮบริดหรูที่ประหยัดที่สุดที่คุณสามารถซื้อใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม มีดอกจันเล็กน้อยข้างคำว่า “ใหม่” เพราะ Lexus เพิ่งเปิดตัว ES เจเนอเรชันถัดไปสำหรับปี 2026 ซึ่งจะยังคงมีรุ่นไฮบริดปกติ ES350h ควบคู่ไปกับรุ่น BEV ใหม่ ตัวเลขประสิทธิภาพยังไม่เปิดเผย แต่ทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณอาจจะเป็นการรอรุ่นใหม่ หรืออย่างน้อยก็พยายามต่อรองส่วนลดงามๆ สำหรับรุ่นปี 2025

8. 2025 Hyundai Sonata Hybrid – 47 MPG (ประมาณ 19.98 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 44 MPG ในเมือง / 51 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 18.71 กม./ลิตร / 21.68 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 620 ไมล์ (ประมาณ 998 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $32,495 (ประมาณ 1.06 ล้านบาท, ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

เช่นเดียวกับรุ่นน้องอย่าง Elantra รถซีดานขนาดกลาง Sonata Hybrid ที่ทำได้ 47 MPG กลับประหยัดน้ำมันบนทางหลวงได้ดีกว่าในเมือง โดยทำได้ 51 MPG บนฟรีเวย์ แต่ได้ 44 MPG ในเมือง หากการเดินทางประจำวันของคุณส่วนใหญ่เป็นทางหลวงและต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ระบบไฮบริดของ Hyundai น่าจะเป็นทางเลือกที่ใช่

7. 2025 Toyota Corolla Hybrid – 47 MPG (ประมาณ 19.98 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 50 MPG ในเมือง / 43 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 21.26 กม./ลิตร / 18.28 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 531 ไมล์ (ประมาณ 855 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $24,960 (ประมาณ 815,000 บาท, ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

Toyota Corolla Hybrid อยู่อันดับที่ 7 ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 47 MPG ซึ่งตามหลังคู่แข่งโดยตรงเล็กน้อยในเรื่องการจิบน้ำมัน อาจเป็นเพราะมันเป็นหนึ่งในรถที่เก่าแก่ที่สุดในรายการนี้ แต่ข้อดีที่สำคัญคือมันเป็นรถที่ราคาถูกที่สุดในรายการนี้ด้วยราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายมากที่ $24,960

6. 2025 Honda Accord Hybrid – 48 MPG (ประมาณ 20.41 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 51 MPG ในเมือง / 44 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 21.68 กม./ลิตร / 18.71 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 614 ไมล์ (ประมาณ 988 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $34,805 (ประมาณ 1.13 ล้านบาท, ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

ต้องการความประหยัดและความยอดเยี่ยมส่วนใหญ่ของ Civic ในแพ็กเกจที่กว้างขวางยิ่งขึ้นใช่ไหม? Honda Accord Hybrid เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่ทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ถึง 48 MPG จากประสบการณ์ของผม Accord รุ่นใหม่นี้ขับไม่สนุกเท่า Civic (หรืออาจจะรวมถึง Toyota Camry) แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่า Accord Hybrid นั้นประหยัดกว่า Camry เมื่อเทียบรุ่นที่ใกล้เคียงกัน เพราะ Accord จะมีเฉพาะระบบไฟฟ้าในรุ่นสูงๆ อย่าง Sport, EX-L และ Touring ในขณะที่ Camry จะประหยัดกว่า Honda ก็ต่อเมื่อคุณเลือกรุ่นพื้นฐาน

5. 2025 Honda Civic Hybrid – 49 MPG (ประมาณ 20.83 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 50 MPG ในเมือง / 47 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 21.26 กม./ลิตร / 19.98 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 519 ไมล์ (ประมาณ 835 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $30,100 (ประมาณ 984,000 บาท, ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

Honda Civic Hybrid ซึ่งได้รับรางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2024” จาก Motor1 อยู่ในอันดับที่ 5 อย่างสบายๆ ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่น่าประทับใจถึง 49 MPG เช่นเดียวกับคู่แข่งจาก Toyota Civic จะประหยัดน้ำมันในเมืองมากกว่าบนทางหลวงเล็กน้อย แต่เสน่ห์ที่แท้จริงของมันอาจจะอยู่เหนือกว่าแค่ความประหยัด Civic Hybrid มีพื้นที่กว้างขวาง ประกอบดีเยี่ยม ขับขี่ได้ยอดเยี่ยม และอย่างที่ Chris Rosales บรรณาธิการฝั่งเวสต์โคสต์เขียนไว้ว่า “มันคือรถซีดานขนาดเล็กที่ดีที่สุดเท่าที่เงินจะซื้อได้”

4. 2025 Toyota Camry LE – 51 MPG (ประมาณ 21.68 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 53 MPG ในเมือง / 50 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 22.53 กม./ลิตร / 21.26 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 663 ไมล์ (ประมาณ 1,067 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $29,835 (ประมาณ 978,000 บาท , ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

Toyota Camry โฉมใหม่สำหรับปี 2025 จะมีจำหน่ายเฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น แม้ว่าจะมีรูปทรงเป็นซีดานขนาดกลางที่ใหญ่กว่า แต่ Camry LE รุ่นพื้นฐานกลับทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ถึง 51 MPG เอาชนะทั้งคู่แข่งอย่าง Honda Accord Hybrid และรุ่นน้องอย่าง Corolla Hybrid รถคันนี้ประหยัดน้ำมันในเมืองมากกว่าบนทางหลวงเล็กน้อย และตัวเลข MPG อย่างเป็นทางการจะลดลงหากคุณเลือกรุ่น AWD (50 MPG) หรือรุ่นที่สูงขึ้นอย่าง SE, XLE หรือ XSE (47 MPG สำหรับ FWD, 46 MPG สำหรับ AWD) Camry LE ยังได้คะแนนพิเศษจากการมีระยะทางขับขี่รวมไกลที่สุดในรายการนี้ โดยสามารถเดินทางได้ถึง 663 ไมล์ต่อน้ำมันหนึ่งถัง

3. 2025 Kia Niro – 53 MPG (ประมาณ 22.53 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 53 MPG ในเมือง / 54 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 22.53 กม./ลิตร / 22.96 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 588 ไมล์ (ประมาณ 946 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $28,385 (ประมาณ 924,000 บาท, ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

Kia Niro อาจไม่ใช่รถประหยัดน้ำมันที่คนนึกถึงเป็นอันดับแรก แต่ก็เกือบจะขึ้นสู่จุดสูงสุดในแง่ของรถไฮบริดที่ประหยัดที่สุดในปัจจุบัน แม้จะมีรูปทรงแบบครอสโอเวอร์กึ่งแฮทช์แบ็กขนาดเล็กที่ค่อนข้างสูง แต่ Niro Hybrid (Kia ยังขายรถรุ่นนี้ในแบบปลั๊กอินและ EV) ก็ทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ถึง 53 MPG เช่นเดียวกับ Prius มันสามารถรักษาระดับการประหยัดได้ทั้งในเมืองและบนทางหลวง โดยการขับขี่บนทางหลวงจริง ๆ แล้วยังประหยัดกว่าในเมือง 1 MPG

2. 2025 Hyundai Elantra Hybrid Blue – 54 MPG (ประมาณ 22.96 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 51 MPG ในเมือง / 58 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 21.68 กม./ลิตร / 24.66 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 584 ไมล์ (ประมาณ 940 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $26,695 (ประมาณ 872,000 บาท, ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

อันดับสองตกเป็นของ Hyundai Elantra Hybrid โดยเฉพาะรุ่นพื้นฐานที่ชื่อว่า “Blue” (ไม่ใช่รุ่น Limited ที่เห็นในภาพ) — นี่คือชื่อรุ่น ไม่ใช่ว่า Elantra Hybrid สีน้ำเงินจะประหยัดกว่าสีอื่น มันทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้สูงถึง 54 MPG โดยมีความแตกต่างระหว่างการขับขี่ในเมืองและบนทางหลวงอยู่บ้าง มันจะทำได้ 51 MPG ในเมือง แต่กลับเอาชนะแม้กระทั่ง Prius บนถนนหลวงด้วยอัตราสิ้นเปลือง 58 MPG ที่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นตัวเลข MPG ที่สูงที่สุดในรายการนี้ ไม่ว่าจะในสภาพการขับขี่แบบใดก็ตาม

1. 2025 Toyota Prius – 57 MPG (ประมาณ 24.23 กม./ลิตร)

• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 57 MPG ในเมือง / 56 MPG บนทางหลวง (ประมาณ 24.23 กม./ลิตร / 23.81 กม./ลิตร)
• ระยะทางขับขี่สูงสุด: 644 ไมล์ (ประมาณ 1,036 กิโลเมตร)
• ราคาเริ่มต้น: $29,485 (ประมาณ 963,000 บาท , ยังไม่รวมภาษีนำเข้าและอื่นๆ)

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Toyota Prius คือรถยนต์ที่ทำให้รถไฮบริดเป็นที่นิยมเมื่อเกือบสามทศวรรษที่แล้ว และยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์รถยนต์ไฮบริดใหม่ที่ประหยัดที่สุดในตลาดปัจจุบัน ในรุ่นพื้นฐานขับเคลื่อนล้อหน้า มันทำสถิติสูงสุดที่ 57 MPG โดยเฉลี่ย ซึ่งเป็นตัวเลขที่แทบไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะขับในเมืองหรือบนทางหลวง ตัวเลขนี้จะลดลงเหลือ 54 MPG หากคุณเลือกรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ และเหลือ 52 MPG ในรุ่นที่หรูหรากว่าอย่าง XLE หรือ Limited

---

สรุปรถยนต์ไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันที่สุดแห่งปี 2025 (Best MPG Hybrids of 2025)

1. Toyota Prius – 57 MPG (ประมาณ 24.23 กม./ลิตร)
2. Hyundai Elantra Hybrid Blue – 54 MPG (ประมาณ 22.96 กม./ลิตร)
3. Kia Niro – 53 MPG (ประมาณ 22.53 กม./ลิตร)
4. Toyota Camry LE – 51 MPG (ประมาณ 21.68 กม./ลิตร)
5. Honda Civic Hybrid – 49 MPG (ประมาณ 20.83 กม./ลิตร)
6. Honda Accord Hybrid – 48 MPG (ประมาณ 20.41 กม./ลิตร)
7. Toyota Corolla Hybrid – 47 MPG (ประมาณ 19.98 กม./ลิตร)
8. Hyundai Sonata Hybrid – 47 MPG (ประมาณ 19.98 กม./ลิตร)
9. Lexus ES300h – 44 MPG (ประมาณ 18.71 กม./ลิตร)
10. Lexus UX300h – 43 MPG (ประมาณ 18.28 กม./ลิตร)

Motor1