car250.com เว็บไซต์ของคนรักรถ ข่าวรถใหม่

วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2023
News ข่าวรถยนต์รถใหม่

เปิดราคา 1.37 – 2.05 ล้านบาทในสหรัฐฯ MAZDA CX-90 ปลั๊กอินไฮบริด 2.5L 4 สูบ 323 แรงม้า

Advertisement

Advertisement

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2023 MAZDA ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นที่ 40,970 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.37 ล้านบาท) ในรุ่น 3.3 Turbo และ ปลั๊กอินไฮบริด ราคาเริ่มต้นที่ 48,820 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.63 ล้านบาท) ในรุ่น 3.3 Turbo S ที่ทรงพลังที่สุดเปิดตัวที่ 53,125 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.77 ล้านบาท) โดย รุ่น Premium Plus สูงสุดมีราคา 61,325 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.05 ล้านบาท)

  • ราคารวมปลายทางและค่าธรรมเนียมการจัดการ $1,375
Package Starting MSRP
CX-90 3.3 Turbo Select $39,595
CX-90 3.3 Turbo Preferred $43,445
CX-90 3.3 Turbo Preferred Plus $45,900
CX-90 3.3 Turbo Premium $48,900
CX-90 3.3 Turbo Premium Plus $52,950
CX-90 PHEV Preferred $47,445
CX-90 PHEV Premium $52,900
CX-90 PHEV Premium Plus $56,950
CX-90 3.3 Turbo S $51,750
CX-90 3.3 Turbo S Premium $56,450
CX-90 3.3 Turbo S Premium Plus $59,950

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น Mazda Motor Corporation ในอเมริกาเหนือ ได้เปิดตัว Mazda CX-90 ซึ่งเป็นรถ SUV ขนาดกลางรุ่นใหม่ของบริษัท มาพร้อมขุมพลัง PHEV ที่ใช้เครื่องยนต์ e-Skyactiv 2.5 ลิตร 323 แรงม้า

  • จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้

CX-90 เป็นรถ SUV แบบครอสโอเวอร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดอเมริกาเหนือ ภายใต้แนวคิด “เพื่อการเดินทางในชีวิตของคุณ” เน้นการออกแบบตัวถังที่กว้างมอบความสะดวกสบาย ฟังก์ชั่นการทำงาน ความปลอดภัย และ การขับขี่ทีีสนุกสนาน

  • ตัวถังสีแดงใหม่ Artisan Red
  • ล้อไดมอนด์คัทขนาด 21 นิ้วที่มีผิวโลหะสีดำ

การออกแบบ CX-90 แสดงออกถึงความรู้สึกมีชีวิตชีวาซึ่งมีรากฐานมาจากธีมการออกแบบ KODO หรือ “Soul of Motion” ของ Mazd เน้นความสวยงามภายใต้ น้อยแต่ได้มาก ทำให้เกิดรูปลักษณ์ออกแบบเรียบง่าย ได้สัดส่วน สง่างาม การตกแต่งภายในเป็นการแสดงออกถึงสุนทรียภาพแบบญี่ปุ่นโดยผสมผสานความมีชีวิตชีวาของแสงและวัสดุธรรมชาติในพื้นที่หรูหราที่เป็นระเบียบ

  • ภายในห้องโดยสารจุได้ 7 – 8 ที่นั่ง
  • ภายในตกแต่งด้วย ไม้และโครเมียม
  • แผงหน้าปัดแบบ Full LCD
  • ระบบ Head-Up Display ติดตั้งอยู่เหนือแผงหน้าปัด
  • จอแสดงผลกลางขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รวมถึงจอภาพแบบ “See-Though View” เพื่อช่วยในการจอดรถ
  • จอแสดงผลควบคุมส่วนกลางจะมี 2 ขนาด 10.25 นิ้วและ 12.3 นิ้ว
  • ระบบ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย และวิทยุดาวเทียม SiriusXM
  • จอมองภาพ 360° พร้อมมุมมองแบบมองทะลุได้
  • ติดตั้งเครื่องเสียง Bose 12 ลำโพง
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติพร้อม Homelink
  • ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย
  • พอร์ต USB-C จะมีให้สำหรับผู้โดยสารทุกคน รวมถึงผู้โดยสารแถวที่สาม
  • เครื่องปรับอากาศแถวที่สาม
  • แถวที่สามได้รับการออกแบบให้นั่งได้ 3 คน
  • แถวหลังยังมีประตูท้ายแบบไฟฟ้า
  • เบาะนั่งหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะหนัง NAPPA
  • เบาะนั่งแถวที่สองแบบปรับความร้อนได้

เครื่องยนต์ได้แก่

  • เครื่องยนต์เบนซิน 3.3 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 6 สูบ ให้กำลัง 280 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีต
  • เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ 6 สูบแถวเรียง 3.3 ลิตร ไฮบริดที่ให้กำลัง 340 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีตแบบไม่มีทอร์คคอนเวอร์เตอร์เลส
  • เครื่องยนต์เบนซินปลั๊กอินไฮบริด 2.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง มีการปรับแต่งไอดีเพื่อเพิ่มแรงบิดสูงสุด ให้กำลัง 323 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ขนาด 17.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางไฟฟ้าทั้งหมด เวลาในการชาร์จ และรายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่ได้รับการเปิดเผย ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีต (คาดว่าสามารถวิ่งไฟฟ้าล้วน 62 กม.)
  • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD เป็นมาตรฐาน
  • ระบบการขับขี่ Mi Drive ประกอบด้วยโหมดปกติ โหมดสปอร์ต ออฟโรด และโหมดพ่วง
  • ติดตั้งระบบ Kinematic Posture Control ช่วยให้เข้าโค้งได้ดีขึ้น
  • ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ i-Activsense ของ Mazda

 

Caranddriver.com

Advertisement

Advertisement

News ข่าวรถยนต์รถใหม่ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด