สั่งปิด! โรงงาน จีน ผลิตเม็ดพลาสติกจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ในไทย สุดเถื่อน! ขายให้บริษัทบรรจุภัณฑ์ บลาๆ

Advertisement
สรุปข่าว: ปิดโรงงานซีโนไทย มารีนฯ ลักลอบทำเม็ดพลาสติกจากขยะ
ประเด็นสำคัญ
- นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีอุตสาหกรรม สั่ง “ทีมสุดซอย” ลงพื้นที่ตรวจสอบและ สั่งปิดโรงงานซีโนไทย มารีน โปรดักส์ จ.สมุทรสาคร หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม
- ตรวจพบมีการประกอบกิจการแบบ ไม่ได้รับอนุญาต ได้แก่ บด ย่อย ล้าง พลาสติก และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่า โดยใช้ ขยะพลาสติกจากบ่อขยะ
- นายเฉิน จุ้นสง สัญชาติจีน ผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นเจ้าของทั้งโรงงานและที่ดิน ยังให้ นายลี ยงปิง (ชาวจีน) เช่าพื้นที่ประกอบกิจการผิดกฎหมายเพิ่มอีก
- รับสารภาพว่า รับซื้อขยะพลาสติกจากรถของเก่าวันละ 10 เที่ยว เพื่อนำมาทำเม็ดพลาสติก ส่งต่อให้บริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์
-
ถูกแจ้งข้อหา:
-
ประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต
-
ตั้งโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาต
-
-
กระทรวงอุตฯ จับมือ บก.ปทส. และ อบต. สั่ง:
- ระงับรับขยะ
- แก้ระบบบำบัดน้ำเสีย
- ยึดเครื่องจักร
- เสนอเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ
โรงงานเถื่อนกลางชุมชน: ขบวนการเม็ดพลาสติกจากขยะ กับคำสั่งปิดของ “ทีมสุดซอย”
เมื่อวันที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการฯ สั่งการด่วนให้ “ทีมสุดซอย” ซึ่งเป็นชุดตรวจการณ์พิเศษของกระทรวงฯ นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ บก.ปทส. ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานลักลอบประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการนำขยะพลาสติกจากบ่อขยะมาผลิตเม็ดพลาสติกอย่างผิดกฎหมาย
จากบ่อขยะ…สู่บรรจุภัณฑ์ที่เราใช้
ภายใต้ชื่อ “โรงงานซีโนไทย มารีน โปรดักส์ จำกัด” ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร เบื้องหลังคือธุรกิจที่อ้างว่าแปรรูปขยะพลาสติกเก่า แต่ข้อเท็จจริงที่ถูกเปิดโปงนั้นน่าตกใจยิ่งกว่า
ภายในพื้นที่เดียวกัน มีโกดังถึง 7 แห่ง ประกอบกิจการลักลอบบด ย่อย ล้าง และหลอมพลาสติกโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการบดย่อยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่า ซึ่งเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารพิษอย่างร้ายแรง
เจ้าของโรงงาน นายเฉิน จุ้นสง สัญชาติจีน ซึ่งพำนักในไทยกว่า 20 ปี ให้การว่า เขารับซื้อขยะพลาสติกจากรถของเก่าวันละกว่า 10 เที่ยว ก่อนจะนำมาทำความสะอาดและป้อนเข้าสู่เครื่องจักรผลิตเม็ดพลาสติก ส่งขายให้ บริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์ ซึ่งในที่สุดอาจจบลงที่มือของผู้บริโภคโดยไม่รู้ตัว
มากกว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม คือ “ความไร้ความรับผิดชอบ”
แม้จะมีใบอนุญาตบางประเภท แต่เจ้าหน้าที่พบว่า โรงงานกลับละเมิดเงื่อนไขอย่างร้ายแรง ทั้งการปล่อยน้ำเสียออกนอกพื้นที่ และการดำเนินกิจการที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง อีกทั้งยังมีการให้บุคคลอื่น (ชาวจีนอีกคนชื่อ นายลี ยงปิง) เช่าโกดังไปตั้งโรงงานเพิ่มเติมโดยไม่ผ่านกระบวนการอนุมัติ
พฤติกรรมนี้ไม่เพียงละเมิดกฎหมายอุตสาหกรรม (พรบ.โรงงาน พ.ศ. 2535) แต่ยังเป็นภัยร้ายต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพชุมชน และระบบเศรษฐกิจสีเขียวที่ประเทศไทยกำลังผลักดัน
“ทีมสุดซอย” ลงดาบ – ยึดเครื่องจักร ดำเนินคดีทันที
จากหลักฐานชัดเจน เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการ ยึดอายัดเครื่องจักรทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อหา “ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาต” และ “ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” กับนายเฉิน จุ้นสง โดยส่งตัวให้ บก.ปทส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ ประสาน อบต.บางหญ้าแพรก เพื่อเพิกถอนใบอนุญาตกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พร้อมสั่งการให้ หยุดรับขยะจากบ่อขยะทันที และ ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย อย่างเร่งด่วน
บทเรียนของสังคม: สิ่งแวดล้อมไม่ใช่ของฟรี และความมักง่ายคือภัยลึก
กรณีนี้สะท้อนภาพธุรกิจเถื่อนที่ “ใช้ขยะทำกำไร” โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการปนเปื้อนในน้ำ ดิน หรือแม้แต่บรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคใช้ในชีวิตประจำวัน สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ ขยะเหล่านี้อาจปนเปื้อนสารพิษหรือเชื้อโรค และไม่มีการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการลักลอบทำโรงงานเถื่อน แต่คือ ปัญหาสิ่งแวดล้อมเชิงโครงสร้าง ที่ต้องอาศัยทั้งกฎหมาย การบังคับใช้ที่เข้มงวด และจิตสำนึกของผู้ประกอบการ
ปัญหาหลักของเมล็ดพลาสติกจากขยะ (รีไซเคิลต่ำกว่ามาตรฐาน)
1. สารปนเปื้อนตกค้าง (Contamination)
-
เศษพลาสติกจากบ่อขยะมักปนเปื้อนสารเคมี เช่น น้ำมัน, สี, กาว, สารหนู, ตะกั่ว หรือโลหะหนักจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
-
เมื่อเข้าสู่กระบวนการทำเม็ด อาจ ไม่ถูกล้างหรือละลายหมด สารพิษเหล่านี้อาจตกค้างในเม็ดพลาสติก และ แพร่กระจายสู่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งาน
2. คุณสมบัติพลาสติกเสื่อม (Degraded Properties)
-
ขยะพลาสติกโดยเฉพาะที่สัมผัสแสงแดด/ความร้อนนาน จะเกิดกระบวนการ โฟโตออกซิเดชัน (photo-oxidation) ทำให้โครงสร้างพอลิเมอร์เสื่อมสภาพ
-
ส่งผลให้พลาสติกที่ผลิตจากเม็ดพวกนี้ เปราะ แตกง่าย ไม่ทนความร้อน หรือหลอมไม่ดี
3. ไม่สามารถควบคุมชนิดของพอลิเมอร์ได้
-
ขยะจากแหล่งต่าง ๆ ปะปนกันทั้ง PP, PE, PVC, PET, PS ฯลฯ ซึ่งแต่ละชนิด ต้องแยกก่อนรีไซเคิล
-
หากไม่แยกแล้วนำมาหลอมรวมกัน จะได้เม็ดพลาสติกที่ คุณภาพต่ำ ไม่สามารถใช้งานในอุตสาหกรรมจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ปัญหาเมื่อใช้ใน “บรรจุภัณฑ์อาหาร”
-
พลาสติกที่ผลิตจากเม็ดรีไซเคิลต่ำคุณภาพ หากนำไปผลิตถุงอาหาร กล่องอาหาร หรือของใช้ในครัว อาจปล่อยสารเคมีออกมาปนเปื้อนกับอาหาร
-
โดยเฉพาะถ้านำไปใช้กับความร้อน (เช่น กล่องไมโครเวฟ) จะยิ่งเสี่ยง แพร่สารก่อมะเร็ง เช่น ไดออกซิน หรือ BPA
5. สร้างภาพลักษณ์ลบต่อแบรนด์ผู้ผลิต
-
หากตรวจพบว่าบรรจุภัณฑ์ของบริษัทใช้เม็ดพลาสติกจากขยะคุณภาพต่ำ จะส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือ และอาจต้อง เรียกคืนสินค้า หรือ ถูกฟ้องร้องได้
เม็ดพลาสติกที่ทำจากขยะรีไซเคิล สามารถนำมาใช้ในการผลิตพลาสติก ABS ได้บางส่วน — แต่มี ข้อจำกัดและความเสี่ยงสูงมาก หากไม่ควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในกรณีของโรงงานเถื่อนหรือแหล่งขยะที่ไม่มีการคัดแยกอย่างเหมาะสม
- พลาสติกที่ได้ ไม่ใช่ ABS แท้ และอาจปะปนสารอื่นมากมาย