Buick Electra Encasa 2025 มินิแวนพลังงานใหม่สุดหรู 620 แรงม้า พร้อมเบาะ Zero-Gravity ในจีน

Buick Electra Encasa 2025 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มินิแวนพลังงานใหม่สุดหรู 620 แรงม้า พร้อมเบาะ Zero-Gravity
หลังจากมีการพรีวิวในช่วงต้นปี Buick Electra Encasa 2025 ก็เปิดตัวในประเทศจีนอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมนิยามใหม่ของ “Villa-Class Flagship MPV” หรือรถครอบครัวระดับ “วิลล่าเคลื่อนที่” ที่ยกระดับความหรูหราเทียบชั้นกับรถซีดานเรือธงอย่าง BMW 7-Series ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มาพร้อมดีไซน์ล้ำยุค ห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยจอขนาดใหญ่ เทคโนโลยีจัดเต็ม และเบาะ Zero-Gravity สุดหรูที่ตั้งใจออกแบบเพื่อให้การเดินทางทุกระยะเป็นประสบการณ์ระดับเฟิร์สคลาสบน 4 ล้อ
ดีไซน์ภายนอก แรงบันดาลใจจากเครื่องบินเจ็ต Gulfstream + ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านลม 0.258
ภายนอกของ Buick Electra Encasa ถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวระดับหรูอย่าง Gulfstream เน้นเส้นสายโฟลว์ลื่นไหลและอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง จนได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านลมเพียง 0.258 ซึ่งถือว่าต่ำมากสำหรับรถในกลุ่มมินิแวนตัวถังใหญ่
- กระจังหน้าแบบปิด พร้อมเส้นสายด้านหน้าออกแบบให้ต่อเนื่องแบบ Airflow
- ไฟหน้า Adaptive Crystal LED ดีไซน์คมชัดทันสมัย
- ตัวถังด้านข้างเรียบลื่น ใช้ มือจับประตูแบบซ่อน (Flush Door Handles)
- ล้ออัลลอยขนาด 18 หรือ 19 นิ้ว
- ประตูสไลด์ไฟฟ้าพร้อมระบบ Gesture Control เปิด–ปิดได้ด้วยท่าทาง
- หลังคาดำแบบทูโทน ลาดลงบริเวณท้ายรถ เสริมลุคคล้ายคูเป้
ด้านท้ายเน้นดีไซน์เรียบหรูแต่ซ่อนรายละเอียดไว้ด้วยไฟท้ายดีไซน์ “Feather Flowing Flame” ที่ใช้หลอด LED ถึง 257 ดวง พร้อมประตูท้ายไฟฟ้าที่รองรับระบบเปิดฝาท้ายแบบเตะ (Kick Sensor)
ขนาดตัวถังใหญ่สะใจ ใหญ่กว่า Chrysler Pacifica ทั้งความยาวและฐานล้อ
- ยาว 5,260 มม.
- กว้าง 2,023 มม.
- สูง 1,820 มม.
- ฐานล้อ 3,160 มม.
| มิติ | Buick Electra Encasa | Chrysler Pacifica |
|---|---|---|
| ความยาว | 5,260 มม. | 5,189 มม. |
| ฐานล้อ | 3,160 มม. | 3,089 มม. |
จากตัวเลขจะเห็นได้ว่า Electra Encasa ยาวกว่า Pacifica ประมาณ 71 มม.
และมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่าอีก 71 มม. ช่วยเพิ่มทั้งพื้นที่ช่วงขาและความนั่งสบายให้กับผู้โดยสารทุกแถว
ห้องโดยสารสุดล้ำ หนึ่งใน MPV ที่เทคโนโลยีเยอะที่สุดในตลาดตอนนี้
Buick วางคอนเซ็ปต์ภายในของ Electra Encasa ให้เป็นเสมือน “Digital Luxury Living Room” หรือห้องนั่งเล่นดิจิทัลสุดหรู ที่รวมทั้งจอขนาดใหญ่ ระบบเสียงระดับพรีเมียม และไฟตกแต่งรอบคัน
จอใหญ่ล้นคอนโซลรวมกว่า 42.8 นิ้ว + AR HUD 50 นิ้ว
- มาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว
- หน้าจอกลางระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 16.3 นิ้ว
- หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าอีก 16.3 นิ้ว แยกการแสดงผลอิสระ
- จอ Head-Up Display แบบ Augmented Reality ขนาด 50 นิ้ว
- ระบบความบันเทิงผู้โดยสารด้านหลังด้วยจอ 21 นิ้ว ความละเอียด 4K
- รีโมตควบคุมสำหรับผู้โดยสารแถวสองขนาด 5.5 นิ้ว ดีไซน์คล้ายสมาร์ทโฟน ถอดได้
การจัดวางหน้าจอและระบบควบคุมต่าง ๆ ทำให้ Electra Encasa มีความล้ำสมัยในระดับเดียวกับ รถซีดานเรือธงอย่าง BMW 7-Series ที่มาพร้อมจอ Theater Screen เช่นกัน
วัสดุพรีเมียม + งานตกแต่งแบบเรือธง
- พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมระบบทำความร้อน
- เบาะหุ้มหนังแท้ Nappa
- ระบบไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light รอบห้องโดยสาร
- เครื่องเสียงพรีเมียม Bose 16 ลำโพง
- พรมขนแกะออสเตรเลีย เพิ่มสัมผัสความหรูหรา
- แท่นยึดอุปกรณ์เสริมในห้องโดยสาร เช่น แจกัน ที่วางแก้ว ที่วางมือถือ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมี AI Voice Assistant ที่สามารถจดจำตำแหน่งเสียงได้ 4 โซนในห้องโดยสาร รองรับคำสั่งเสียงมากกว่า 700 คำสั่ง ช่วยให้ควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ในรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เบาะ Zero-Gravity สุดหรู ไฮไลต์ที่ทำให้ Electra Encasa เป็น “บ้านเคลื่อนที่”
แถวที่สองคือโซนไฮไลต์ของรถรุ่นนี้ เพราะ Buick ออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อนแบบส่วนตัว เหมือนห้องนั่งเล่นขนาดย่อมบนล้อ
- เบาะแถวสองแบบ Multi-Posture Zero-Gravity
- ปรับตำแหน่งได้หลายทิศทางด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
- มีที่วางขา (Leg Rest) แบบปรับไฟฟ้า
- รองรับการปรับร่วมกับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าให้กลายเป็นโหมด “Chaise Longue” คล้ายเก้าอี้เอนนอน
- ฟังก์ชันอุ่นเบาะ ระบายอากาศ และนวด 10 จุด 8 โหมด
- โต๊ะพับสำหรับวางโน้ตบุ๊กหรืออาหาร
- แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายสำหรับแถวหน้าและแถวสอง
ด้วยชุดอ็อปชันทั้งหมดนี้ ทำให้ Electra Encasa กลายเป็นหนึ่งในมินิแวนที่ให้ความสบายในแถวสอง
ใกล้เคียงกับเลาจ์ส่วนตัวบนเครื่องบินเจ็ต
ระบบดูแลสุขภาพภายในห้องโดยสาร (Cabin Wellness System)
ไม่ใช่แค่ความหรูหรา แต่ Buick ยังให้ความสำคัญกับ “คุณภาพอากาศ” และ “ความสบายของผู้โดยสาร” เป็นพิเศษ
- ระบบควบคุมความชื้นให้อยู่ในช่วง 40–60% ช่วยให้หายใจสบายขึ้น
- ระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูง กรองฝุ่นและมลภาวะในอากาศ
- ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (Active Noise Cancellation – ANC)
- ระบบปรับอากาศแบบหลายโซน (Multi-zone Climate Control)
ขุมพลังใหม่ 620 แรงม้า อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. เพียง 5.8 วินาที
Buick Electra Encasa ใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานใหม่ที่ผสมผสานเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าหลายตัว โดยทางผู้ผลิตเรียกว่าระบบ Plug-in Hybrid แต่รูปแบบการทำงานมีลักษณะคล้าย Range-Extended EV
| เครื่องยนต์ | เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร |
| มอเตอร์ไฟฟ้า | 2 ตัว |
| กำลังรวมสูงสุด | 620 แรงม้า (462 kW / 628 PS) |
| แรงบิดรวม | 775 นิวตันเมตร |
| ระบบขับเคลื่อน | ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) |
| ความจุแบตเตอรี่ | 40.9 kWh |
| อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. | 5.8 วินาที |
| ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้า (CLTC) | 224 กม. |
| ระยะทางวิ่งรวม | 1,320 กม. |
| การชาร์จเร็ว | ชาร์จจาก 30% เป็น 80% ภายในประมาณ 20 นาที |
ตัวเลขทั้งหมดทำให้ Electra Encasa กลายเป็นหนึ่งในมินิแวนพลังงานใหม่ที่ทั้งแรงและวิ่งได้ไกลมากอีกรุ่นหนึ่งของตลาดจีน
ระบบช่วยขับอัจฉริยะขั้นสูงที่สุดของ Buick
Buick ระบุว่า Electra Encasa ใช้ระบบช่วยขับที่ล้ำสมัยที่สุดของแบรนด์ในปัจจุบัน รองรับทั้งการช่วยขับในเมืองและบนทางด่วน
- เซ็นเซอร์ Lidar 1 ตัว
- เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว
- เซ็นเซอร์ Ultrasonic 12 ตัว
- กล้อง 7 ตัว
- กล้องรอบคัน 360 องศา 4 ตัว
ฟังก์ชันที่รองรับ ได้แก่
- City Navigation Assist ระบบช่วยขับพร้อมนำทางในเขตเมือง
- High-Speed Navigation Assist ระบบช่วยขับบนทางด่วน
- การช่วยควบคุมรถแบบกึ่งอัตโนมัติทั้งในเมืองและนอกเมือง คล้ายระบบ Super Cruise
- ฟังก์ชันจอดรถอัตโนมัติแบบ One-Touch Valet Parking
ราคาในจีน (ประมาณการเป็นเงินไทย)
| รุ่น | ราคา (หยวน) | ราคาโดยประมาณ (บาท) |
|---|---|---|
| Standard | ¥439,900 | 1.98 ล้านบาท |
| Luxury Edition | ¥469,900 | 2.11 ล้านบาท |
สรุป Buick Electra Encasa คือมินิแวนที่นิยามคำว่า “บ้านหรูเคลื่อนที่” ได้ชัดเจนที่สุดรุ่นหนึ่ง
เมื่อรวมทุกองค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ระดับเครื่องบินเจ็ต ห้องโดยสารแนว Digital Living Room เบาะ Zero-Gravity สุดหรู สมรรถนะ 620 แรงม้า พร้อมวิ่งไฟฟ้าล้วนได้กว่า 200 กม.= และระบบช่วยขับอัจฉริยะรอบคัน ทำให้ Buick Electra Encasa กลายเป็นมินิแวนพลังงานใหม่ที่นิยามคำว่า “บ้านหรูเคลื่อนที่” ได้อย่างแท้จริง
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:
- ครอบครัวระดับพรีเมียมที่ต้องการรถสำหรับเดินทางไกลอย่างหรูหรา
- ผู้บริหารที่มองหาทางเลือกใหม่เหนือกว่ารถตู้หรือมินิแวนทั่วไป
- ผู้ใช้ที่ต้องการเทคโนโลยีล้ำสมัย ผสานทั้งความแรงและความประหยัดในคันเดียว

