Advertisement

Advertisement

Bridgestone เตรียมเน้นผลิตยาง สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ภายในปี 2030

Bridgestone เตรียมเน้นผลิตยาง สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ภายในปี 2030

Advertisement

Advertisement

Bridgestone พร้อมสำหรับการเปลี่ยน ไปผลิตยางรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมการเปลี่ยนแปลงในอุสาหกรรมยานยนต์

Bridgestone ผู้ผลิตยางรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น รายใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมโฟกัสไปที่กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของตลาด

Bridgestone มีแผนที่จะให้ยางรถยนต์ที่ผลิตกว่า 90% เป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 ตามรายงานของ Nikkei Asia

บริดจสโตน จะหยุดแข่งขันกับแบรนด์ยางรถยนต์ราคาประหยัดจากจีน และ เกาหลีใต้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ทางแบรนด์มีแผนจะยุติการผลิตยางล้อราคาประหยัดสำหรับรถยนต์ เครื่องยนต์สันดาป ICE ในยุโรปภายในปีนี้

ยุโรปจะเป็นตลาดแรกที่มีการเปลี่ยนสายการประกอบเพื่อรองรับยางรถยนต์ EV หรือ จะเป็นต้นแบบโรงงานที่กำลังเปลี่ยนแปลงของ บริดจสโตน ทั่วโลกทั้งในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และอเมริกาใต้

บริดจสโตน ต้องการให้โรงงานผลิตยางรถยนต์ส่วนใหญ่ของบริษัท 50 แห่งทั่วโลก ถูกดัดแปลงเพื่อผลิตยางรถยนต์ไฟฟ้า

บริดจสโตน มีบริษัทรถยนต์ที่ต้องการยางอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเครือ Volkswagen ที่อุดหนุนยางรถยนต์ไฟฟ้า

บริดจสโตน ยังมีแผนที่จะจัดหายางล้อให้กับเอสยูวีไฟฟ้าของ Fisker ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การผลิตในปลายปีหน้า

นอกจากนี้ยังต้องการผลิตยางสำหรับรถกระบะไฟฟ้า Rivian R1T เป็นรถบรรทุกไฟฟ้าคันแรกที่เข้าสู่การผลิตเมื่อต้นเดือนนี้

Hummer EV และ F-150 Lightning มีกำหนดการผลิตในช่วงปลายปีและต้นปีหน้าตามลำดับ ซึ่งจะอุดหนุนยางรถยนต์ไฟฟ้าของ บริดจสโตน เช่น

ปัจจุบันยางรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป คิดเป็นร้อยละ 80 ของยอดขายบริดจสโตน ตามรายงาน ความนิยมของยางราคาถูกจากเกาหลีใต้ และ จีนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2020 จากเมื่อ 5 ปีก่อน

ความแตกต่างของรถยนต์ไฟฟ้า คือ ไม่มีเครื่องยนต์ และ ทำให้เกิดเสียงรบกวนน้อยขณะขับขี่ ดังนั้นยางรถยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ต้องออกแบบเพื่อลดเสียงจากถนนให้ได้มากที่สุด รวมทั้ง รถยนต์ไฟฟ้า EV มีแรงบิตสูง และ กำลังส่งสูง เพราะอัตราเร่งเริ่มต้นตั้งแต่เหยียบคันเร่ง ทำให้ยางเกิดการสึกหรอเร็วกว่า และ ยางรถยนต์ไฟฟ้าต้องมีคุณสมบัติการยึดเกาะได้มากกว่า รถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากขึ้นจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ส่งผลให้เกิดจุดศูนย์ถ่วงต่ำ แน่นอนส่งผลต่อยางจะสึกเร็ว

Source: Nikkei Asia

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้