Daimler Truck และ Toyota Motor บรรลุข้อตกลงรวมกิจการ Mitsubishi Fuso และ Hino

สรุปประเด็นสำคัญ
- เป้าหมาย: เพื่อสร้างบริษัทรถบรรทุกญี่ปุ่นแห่งใหม่ที่แข็งแกร่ง (Japanese truck powerhouse)
- การรวมกิจการ: Mitsubishi Fuso และ Hino จะรวมกันอย่างเท่าเทียม และจะร่วมมือกันในด้านการพัฒนา การจัดซื้อ และการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์
- บริษัทโฮลดิ้งใหม่:
- คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานใน เดือนเมษายน 2569
- Daimler Truck และ Toyota จะถือหุ้นฝ่ายละ 25% ในบริษัทโฮลดิ้งนี้
- บริษัทโฮลดิ้งจะถือหุ้น 100% ใน Mitsubishi Fuso และ Hino
- มีแผนจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Prime Market)
- Karl Deppen (ปัจจุบันเป็น CEO ของ Mitsubishi Fuso) จะเป็น CEO ของบริษัทโฮลดิ้ง
- สำนักงานใหญ่จะตั้งอยู่ที่ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
- จะมีพนักงานมากกว่า 40,000 คน
- วัตถุประสงค์:
- เพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ ลดต้นทุน (การพัฒนา, จัดซื้อ, ผลิต)
- เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของญี่ปุ่นและเอเชีย
- แก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เช่น การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) และการเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์
- พัฒนาเทคโนโลยี CASE (Connected, Autonomous, Shared, Electric) รวมถึงเทคโนโลยีไฮโดรเจน เพื่อสร้างสังคมแห่งการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน
วันที่ 10 มิถุนายน 2025 ข่าวดีจาก Daimler Truck และ Toyota Motor Corporation! ทั้งสองบริษัทได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อ รวมกิจการของ Mitsubishi Fuso และ Hino เข้าด้วยกันอย่างเท่าเทียม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “ขุมกำลังรถบรรทุกญี่ปุ่นแห่งใหม่” ที่แข็งแกร่ง เพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
รายละเอียดความร่วมมือที่สำคัญ
- การรวมกิจการอย่างเท่าเทียม: Mitsubishi Fuso และ Hino จะรวมกิจการและร่วมมือกันในด้านการพัฒนา การจัดซื้อ และการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์
- บริษัทโฮลดิ้งใหม่: มีเป้าหมายให้บริษัทโฮลดิ้งแห่งใหม่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เริ่มดำเนินงานใน เดือนเมษายน 2569
- สัดส่วนการถือหุ้น: Daimler Truck และ Toyota จะถือหุ้นฝ่ายละ 25% ในบริษัทโฮลดิ้ง (ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์) ซึ่งบริษัทโฮลดิ้งนี้จะถือหุ้น 100% ใน Mitsubishi Fuso และ Hino
- การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์: บริษัทโฮลดิ้งมีแผนจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Prime Market of the Tokyo Stock Exchange)
- ผู้บริหารและสำนักงานใหญ่: Karl Deppen จะเป็น CEO ของบริษัทโฮลดิ้ง และสำนักงานใหญ่จะตั้งอยู่ที่ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
- พนักงาน: บริษัทใหม่นี้จะมีพนักงานมากกว่า 40,000 คน
เป้าหมายและวิสัยทัศน์
การรวมกิจการครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ ในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนา การจัดซื้อ และการผลิต ซึ่งจะช่วย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ของผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของญี่ปุ่น และเสริมสร้างรากฐานของอุตสาหกรรมยานยนต์ในญี่ปุ่นและเอเชีย
บริษัทโฮลดิ้งแห่งใหม่นี้จะมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เช่น ความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) และ ประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยี CASE (Connected, Autonomous, Shared, Electric) รวมถึงเทคโนโลยีไฮโดรเจน เพื่อสร้างสรรค์สังคมแห่งการขับเคลื่อนที่ยั่งยืนและมั่งคั่ง
ความเห็นจากผู้บริหาร
- Karl Deppen, CEO ของ Mitsubishi Fuso และ CEO ที่ได้รับการเสนอชื่อของบริษัทโฮลดิ้งใหม่ กล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน เรากำลังกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมด้วยการรวมจุดแข็งของเราเข้าด้วยกัน ด้วยบริษัทใหม่ที่แข็งแกร่ง เราจะรวมแบรนด์ที่เชื่อถือได้ทั้งสองของเรา ทรัพยากร ความสามารถ และความเชี่ยวชาญ เพื่อสนับสนุนลูกค้าของเราในการตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น”
- Satoshi Ogiso, CEO ของ Hino เน้นย้ำว่า “การร่วมมือของสี่บริษัทนี้เป็น ‘โอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต’ นอกเหนือจากผลประโยชน์ทางธุรกิจแล้ว ผลกระทบจากการทำงานร่วมกันที่เกิดจากการพบปะและผสมผสานวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันนั้นประเมินค่าไม่ได้”
- Karin Rådström, CEO ของ Daimler Truck กล่าวว่า “การตัดสินใจรวม Mitsubishi Fuso และ Hino Motors ในครั้งนี้เป็นประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง เรากำลังนำพันธมิตรที่แข็งแกร่งสองรายมารวมกันเพื่อสร้างบริษัทที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และขับเคลื่อนการลดการปล่อยคาร์บอนในการขนส่งให้ประสบความสำเร็จ”
- Koji Sato, CEO ของ Toyota แสดงความเชื่อมั่นว่า “เราเชื่อว่าอนาคตเป็นสิ่งที่เราจะสร้างร่วมกัน ข้อตกลงขั้นสุดท้ายในวันนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้น สี่บริษัทของเราโดยมีเป้าหมายในการสร้างสังคมแห่งการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน จะยังคงสร้างสรรค์อนาคตของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ร่วมกันต่อไป”
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอบเขตและลักษณะของความร่วมมือ รวมถึงชื่อของบริษัทโฮลดิ้งแห่งใหม่ จะมีการประกาศในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยข้อตกลงนี้จะดำเนินการต่อไปจนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ผู้ถือหุ้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง