Advertisement
Advertisement
Ford Motor Company ประกาศเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2022 โดยระบุว่าได้เพิ่มกะครั้งที่ 3 ที่โรงงาน Rouge ในเมืองเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน โดยอ้างว่าพวกเขาต้องการผลิตกระบะไฟฟ้า F-150 Lightning จำนวนมาก โดยเพิ่ม 250 ตำแหน่ง ทำให้ปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้มีลูกจ้างกว่า 750 คนในการผลิตกระบะไฟฟ้าดังกล่าว เบื้องต้นฟอร์ด จะผลิต F-150 Lightning ปีละ 150,000 คันภายในกลางปีหน้า
ในระหว่างการเยี่ยมชมโรงงาน Corey Williams ผู้จัดการโรงงานของ Dearborn Truck Plant และ Rouge Electric Vehicle Center กล่าวว่า ฟอร์ดกำลังดำเนินการตามขั้นตอนการผลิตที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ เขาเสริมว่าขณะนี้โรงงานมีพนักงานหมุนเวียนกัน 3 คนที่ทำงานกะละ 10 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ เพื่อรักษาระดับการผลิตให้อยู่ในระดับสูง ควบคู่กับการก่อสร้างเพื่อขยายกำลังการผลิตในอนาคต
เดิมที Ford วางแผนที่จะสร้าง Lightnings ประมาณ 40,000 คันต่อปีในโรงงานแห่งใหม่ถัดจากโรงงานปิกอัพเก่าแก่ในเมืองดีทรอยต์ แต่ได้ตัดสินใจขยายโรงงานเพื่อกระตุ้นการผลิตหลังจากความต้องการเบื้องต้นสำหรับรถกระบะไฟฟ้าเกินความคาดหมาย
รถกระบะ F-150 Lightning Pro และ รถตู้ E-Transit ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่เริ่มการผลิต F-150 Lightning จนถึงเดือนพฤศจิกายน Ford ได้นำส่งรถกระบะไฟฟ้ากว่า 13,258 คัน ปัจจุบันคำสั่งซื้อกระบะปิดลง ด้วยยอดจองสะสมกว่า 200,000 คัน
Reuters
Ford ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สัญชาติอเมริกัน ได้เผยว่าพวกเขาต้องเพิ่มราคาของกระบะไฟฟ้า F-150 Lightning เป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน เนื่องจากต้นทุนของวัตถุดิบในการสร้างกระบะไฟฟ้า พุ่งสูงเกินกว่าบริษัทจะรับไหว
ฟอร์ด ได้เพิ่มราคาใหม่ ตั้งแต่รุ่นระดับเริ่มต้นของปิ๊กอัพไฟฟ้า F-150 Lightning + เพิ่มไปอีก 5,000 ดอลลาร์ หรือ 172,000 บาท ทำให้ราคารุ่นเริ่มต้นจะอยู่ที่ 51,974 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.79 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบ 11% และเพิ่มขึ้น 30% จากราคาเปิดตัวพฤษภาคม 2021 ฟอร์ด ระบุว่า สำหรับผู้ถือคำสั่งซื้อปัจจุบันและลูกค้าเชิงพาณิชย์และ ภาครัฐที่มีคำสั่งซื้อตามกำหนดเวลาก่อนหน้านี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคา บริษัท กล่าว ทำให้ปัจจุบันกระบะไฟฟ้าของฟอร์ดอย่าง F-150 Lightning มีราคาไม่ต่ำกว่า 52,000 ดอลลาร์อย่างไม่ต้องสงสัย
ต้นทุนวัตถุดิบที่สำคัญ เช่น โคบอลต์ นิกเกิล และลิเธียม เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัส ตามรายงานจาก AlixPartners ช่วงฤดูร้อนนี้ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและปัญหาซัพพลายเชนอื่นๆ ซึ่ง Ford ประเมินว่าจะส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สาม ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องเพิ่มราคา EV เพื่อรักษาผลกำไร ฟอร์ดประกาศว่า พวกเขาขึ้นราคาระหว่าง 6,000 ถึง 8,500 ดอลลาร์สำหรับ F-150 Lightning กระบะไฟฟ้า ซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่น
ปัจจุบันราคาเริ่มต้นสำหรับ 2023 F-150 Lightning จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 52,000 ถึง 97,000 ดอลลาร์ ประมาณ 1.79 – 3.35 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากประมาณ 40,000 ดอลลาร์ เป็น 92,000 ดอลลาร์ ประมาณ 1.38 – 3.17 ล้านบาท สำหรับรุ่นปี 2022 ราคาไม่รวมภาษีและค่าขนส่งและค่าขนส่ง)
ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังมากถึง 563 แรงม้า แรงบิต 1050 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม.ชม.ภายใน 4 วินาที และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 426 แรงม้า แรงบิต 1050 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4X4
Standard Range แบตเตอรี่ 98kWh วิ่งได้ 370 กม./ชาร์จ EPA
Extended Range แบตเตอรี่ 131kWh วิ่งได้ 515 กม./ชาร์จ EPA
Platinum trim แบตเตอรี่ 131kWh 483 กม./ชาร์จ EPA
อุปกรณ์ชาร์จ AC 48A ชาร์จไฟในบ้านจาก 15-100 % ภายใน 10 ชั่วโมง
รุ่นที่ติดตั้งชุดแบตเตอรี่ที่ขยายให้ใหญ่ขึ้นและเครื่องชาร์จคู่สามารถเสียบเข้ากับเครื่องชาร์จในบ้าน 80A 15-100 % ภายใน 8 ชั่วโมง
เครื่องชาร์จแบบเร็วสาธารณะ 150kW DC ชาร์จเร็ว 15-80 % ภายใน 41 นาที
ระบบ Intelligent Backup Power ใหม่ทำให้สามารถใช้พลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่เพื่อจ่ายไฟให้บ้าน ในยามที่ไฟดับ หรือต้องการใช้ไฟ
Pro Power Onboard ระบบจ่ายไฟภายนอก 120V 4 ช่อง รองรับ SUB-C และ SUB-A
การออกแบบ Ford F-150 Lightning EV เน้นความดุดันมากขึ้น พร้อมแถบไฟหน้า-ท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบปิดในแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว ยาง 275/50 R22
ภายในมาพร้อม พวงมาลัย – หุ้มหนังสีดำ เบาะนั่งคู่หน้าหุ้มหนัง Nirvana Leather Multicontour Premium ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ หน้าปัดแบบบดิจิตอล 12 นิ้ว หน้าจอสัมผัสขนาด 15.5 นิ้ว SYNC ® 4A พร้อม Enhanced Voice Recognition ลำโพง B&O ® Unleashed Sound System โดย Bang & Olufsen 18 ตัว กล้อง 360 องศา ระบบช่วยจอดรถแบบแอ็คทีฟ 2.0 แท่นชาร์จไร้สาย เป็นต้น
Lightning เป็นรถกระบะไฟฟ้าในซีรีย์ F-Series รุ่นแรกที่มีระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระ ช่วยให้นุ่มนวลมากขึ้นในการขับขี่ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 907 กก. ลากจูงได้ 4535 กก.
ติดตั้งซอฟต์แวร์ Intelligent Range ช่วยการลากจูง บรรทุกน้ำหนักให้แม่นยำมากขึ้น โดยใช้เซ็นเซอร์ของตัวรถ ประมวลผลกำลังลากให้เหมาะสม
ระบบความปลอดภัยที่ให้มามีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Ford Co-Pilot360 รวมทั้งระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ BlueCruise ใช้สำหรับในอเมริกา และ แคนนาดา เป็นระยะทางกว่า 160,000 กม.
รุ่นพื้นฐาน
กระจังหน้า Carbon Black
กันชนสีดำ
คิ้วกันชนสีดำ
กรอบประตู-ประตูท้ายสีดำ
ฝาครอบกระจกสีดำ
ตะขอลากจูงด้านหน้า 2 อัน
ประตูท้ายแบบถอดได้พร้อมกุญแจล็อค
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ระบบ Stereo AM/FM พร้อมลำโพง 6 ตัว
หน้าจอสัมผัสระบบ Infotainment ขนาด 12 นิ้ว
Sync4, Apple CarPlay และ Android Auto, ฮอตสปอต 4G LTE Wi-Fi, ระบบนำทางทดลองใช้ฟรี 3 ปี , ระบบจดจำเสียง
เบาะนั่งหุ้มไวนิลสีเทาเข้ม Slate
เบาะนั่งด้านหน้าปรับแบบแมนนวล 4 ทิศทาง
พวงมาลัยแบบปรับเอียง/เหลื่อมแบบแมนนวล
พวงมาลัยยูรีเทนสีดำ
พื้นไวนิลสีดำ
กระจกไฟฟ้าพร้อมกระจกหน้าขึ้น/ลงอัตโนมัติ อัตโนมัติ
กระจกมองหลังปรับลงแสงอัตโนมัติ
ระบบควบคุมการส่ายของรถพ่วง
เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ของ Ford Co-Pilot 2.0
ระบบ Pro Power Onboard 2.4 กิโลวัตต์พร้อมเต้ารับ 120 โวลต์แปดตัว
ตัวเลือกเสริม ได้แก่ Extended Range Battery, ระบบ Pro Power Onboard ขนาด 9.6 กิโลวัตต์, Tow Technology Package, Max Trailer Tow Package และขั้นตอนการพ่วง
XLT
กันชนสีเดียวกับตัวรถ
กระจังหน้า “Geometric Grey-ion fine Satin Metallic”
ไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบ LED
ไฟสปอร์ตไลท์ที่กระจกมองข้างแบบ LED
กระจกมองข้างพับแบบแมนนวล พร้อม ระบบทำความร้อน และ ไฟเลี้ยวในตัว
เพิ่ม สลีตล็อคบนกระบะท้าย
แป้นเหยียบปรับระดับด้วยไฟฟ้า
เบาะผ้าสีเทา Medium Dark Slate
เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อนได้
เบาะนั่งคนขับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
พวงมาลัยหุ้มหนัง
เบาะภายในพับได้อย่างเรียบเนียน
ที่เก็บสัมภาระใต้เบาะด้านหลัง
วิทยุดาวเทียม SiriusXM
กล้อง 360 องศา
ไล่ฝ้าสำหรับกระจกด้านหลัง
พรมปูพื้น
ไฟส่องสว่างบริเวณประตูทางเข้า
ระบบช่วยรถพ่วง
ตัวเลือกต่างๆ ได้แก่ Extended Range Battery
ระบบ Pro Power Onboard ขนาด 9.6 กิโลวัตต์
Tow Technology Package, Max Trailer Tow Package
ล้ออลูมิเนียมเคลือบสีเทาเข้ม Dark Carbonized ขนาด 20 นิ้วพร้อมยางออฟโรต
วัสดุปูพื้นแบบถาด
เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อนได้
เบาะนั่งคนขับแบบไฟฟ้า 10 ทิศทาง
เบาะนั่งผู้โดยสารหน้าปรับไฟฟ้า
Ford Co-Pilot Assist 2.0 พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ stop-and-go, ระบบช่วยบังคับเลี้ยวแบบหลบหลีก และ ระบบช่วยเตือนวัตถุตรงทางแยก
ระบบ Keyless Entry พร้อมปุ่ม Push Start
ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
พวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้
ประตูท้ายแบบเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
บันไดท้ายรถ
Lariat
หน้าจอสัมผัส Infotainment แบบแนวตั้งขนาด 15.5 นิ้ว
รองรับ Ford Sync4A
Pro Power Onboard ขนาด 9.6 กิโลวัตต์
ล้ออัลลอยเคลือบสีขนาด 20 นิ้ว
ระบบเสียง B&O
วิทยุ HD ฟังก์ชันหน่วยความจำ
แป้นเหยียบแบบปรับได้
เบาะหุ้มหนัง
เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อน และ ระบายอากาศ
ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย
กระจกข้างพับไฟฟ้าพร้อมระบบทำความร้อน และ ตัดแสงอัตโนมัติ
กระบะท้ายแบบไฟฟ้าพร้อมไฟลายเซ็นด้านหลัง
กล่องไฟแบบ LED สำหรับการชาร์จภายนอก
Ford Co-Pilot 360 Assist 2.0 มีระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ , ระบบช่วยบังคับเลี้ยวที่เลนกลาง และ ช่วยหลบหลีก ระบบจดจำป้ายจำกัดความเร็ว
ตัวเลือกเสริม
Ford Co-Pilot Active 2.0 เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งรวมถึงการขับบนทางหลวงแบบแฮนด์ฟรี BlueCruise ระบบช่วยจอดแบบ Active ตัวเลือกอื่นๆ ได้แก่ Max Trailer Tow Package
แบตเตอรี่ Extended Range
ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
พวงมาลัยพาวเวอร์แบบปรับเอียง/เหลื่อมพร้อมหน่วยความจำ
เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับความร้อนได้
หลังคามูนรูฟแบบแผงคู่
Platinum
รุ่นนี้คือเรือธง หรือ เกรดสูงสุด Extended Range มาตรฐาน
กระจังหน้า Vador Black มันวาวพร้อมแถบโครเมียม
แผ่นกันกระแทกด้านหน้า Vador Black
แถบคาดเข็มขัดสีดำมันวาว
แถบตกแต่งกาบบันไดประตู
ล้อขนาด 22 นิ้ว
BlueCruise เทคโนโลยีการลากจูง
เทคโนโลยีกุญแจมืถือ
ระบบช่วยจอดแบบ Active
ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ลาย
เบาะหนัง Nirvana สุดหรูหราพร้อมระบบนวด
พวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้
พวงมาลัยปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ
เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับความร้อนได้
หลังคามูนรูฟแบบแผงคู่
หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง
ฝาปิดคอนโซลกลางหุ้มหนัง
ลำโพง 18 ตัว B&O Unleashed
ระบบเสียงพร้อมลำโพง 18 ตัวและ ซับวูฟเฟอร์
เพิ่มเติม
ตัวเลือกที่มีให้เลือก ได้แก่ แผ่นปิดพื้นแบบถาด และ เบาะนั่งด้านหน้าแบบ Max Recline
Carscoop
Advertisement
Advertisement