GWM ส่งสัญญาณแรง เปิดตัว “แบรนด์ที่ 6” รถคันแรกดีไซน์คลาสสิกระดับซูเปอร์ลักชัวรี เขย่าวงการยานยนต์จีน

Great Wall Motor (GWM) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์จีนอีกครั้ง หลังผู้บริหารระดับสูงออกมา “อุ่นเครื่อง” แบรนด์ใหม่อย่างเป็นทางการ ผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมเผยภาพทีเซอร์รถรุ่นแรกที่มาในดีไซน์ รถคลาสสิกสไตล์ Oldtimer ซึ่งแตกต่างจากรถ GWM ทุกแบรนด์ที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

ผู้บริหาร GWM ส่งสัญญาณชัด: “ไม่ใช่แค่รถใหม่ แต่คือแบรนด์ใหม่ทั้งระบบ”

ต้นเรื่องมาจากโพสต์ของ หลี่ เฟย (Li Fei) หัวหน้าวิศวกรระบบแชสซีแบบสั่งการด้วยไฟฟ้า (Line-Control Chassis) ของ GWM ซึ่งตั้งคำถามตรงไปตรงมาว่า

“แบรนด์ที่ 6 ของ Great Wall Motor กำลังจะมาหรือไม่?”

พร้อมให้ข้อมูลสำคัญว่า รถรุ่นใหม่นี้ ไม่สามารถจัดอยู่ภายใต้แบรนด์ใดของ GWM ที่มีอยู่เดิมได้เลย ไม่ว่าจะเป็น

• Haval – SUV ตลาดมวลชน
• Tank – ออฟโรดฮาร์ดคอร์
• WEY – หรูเชิงเทคโนโลยี
• ORA – รถไฟฟ้าดีไซน์แฟชั่น
• GWM Poer – พิกอัพ

คำอธิบายนี้สะท้อนชัดว่า GWM กำลังเตรียมเปิดตัว “Product Line ใหม่ทั้งหมด” ไม่ใช่แค่การแตกไลน์ย่อยของแบรนด์เดิม

ดีไซน์ย้อนยุคแบบเต็มระบบ รถผู้ดี-รถคลาสสิก ที่สวนกระแสรถจีนยุคใหม่

จากภาพทีเซอร์ที่ปล่อยออกมา รถรุ่นปฐมบทของแบรนด์ใหม่นี้เลือกเดินคนละทางกับตลาดรถจีนยุคดิจิทัลอย่างชัดเจน โดยมีจุดเด่นสำคัญ ได้แก่

• ไฟหน้าทรงกลมแบบคลาสสิก
• กระจังหน้าแนวตั้งโครเมียม
• กันชนหลังโครเมียมขนาดใหญ่
• ตัวถังทรงยาว โค้งมน ให้สัดส่วนแบบรถผู้ดีอังกฤษ

ภาพรวมให้อารมณ์ใกล้เคียง Rolls-Royce รุ่นคลาสสิก, Bentley ยุคต้น หรือรถยุโรประดับ Coachbuilt ซึ่งแทบไม่เคยปรากฏในตลาดรถจีนมาก่อน

ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ แต่คือ “แบรนด์ซูเปอร์ลักชัวรี” ที่วางโครงสร้างไว้แล้ว

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า GWM ได้จัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ในชื่อ “Super Luxury Car BG (Business Group)” อย่างเป็นทางการ โดยมีโครงสร้างผู้บริหารระดับสูงครบถ้วน

• เว่ย เจี้ยนจวิน – ประธาน GWM ดำรงตำแหน่งประธานแบรนด์ใหม่
• ซ่ง ตงเซียน – CEO (อดีตรองประธานฝ่ายเทคโนโลยี)
• จาง เสี่ยวป๋อ – CTO

การแต่งตั้งดังกล่าวถูกระบุว่าเป็น คำสั่งลำดับที่ 001 ของ GWM ในปี 2025 สะท้อนระดับความสำคัญของโครงการนี้อย่างชัดเจน

เว่ย เจี้ยนจวิน ลงมือเอง เจาะลึกตั้งแต่แนวคิดจนถึงวิศวกรรม

ข้อมูลสำคัญที่น่าสนใจคือ เว่ย เจี้ยนจวิน จะไม่ได้ทำหน้าที่เชิงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่จะมีส่วนร่วมโดยตรงใน

• การกำหนดคาแรกเตอร์ของตัวรถ
• การวางตำแหน่งแบรนด์ระดับโลก
• การเทียบมาตรฐานกับแบรนด์หรูตะวันตก
• รายละเอียดเชิงวิศวกรรมในจุดสำคัญ

นี่เป็นแนวทางเดียวกับผู้ก่อตั้งแบรนด์หรูระดับโลก ที่มักควบคุม DNA ของแบรนด์ด้วยตนเอง

วิเคราะห์เชิงลึก ทำไม GWM ต้องสร้างแบรนด์ “รถคลาสสิกหรู” ตอนนี้

ในช่วง 3–5 ปีที่ผ่านมา ตลาดรถจีนแข่งขันกันหนักในด้าน EV, ซอฟต์แวร์, ชิป และระบบอัจฉริยะ จนเกิดภาวะสินค้า “หน้าตาคล้ายกัน” จำนวนมาก

การเลือกเดินเกมด้วย ดีไซน์ย้อนยุค + ซูเปอร์ลักชัวรี อาจเป็นกลยุทธ์ที่

• หลีกเลี่ยงสงครามราคา EV
• สร้างมูลค่าแบรนด์ระยะยาว
• เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ไม่สนใจสเปกแต่สนใจ “เรื่องราว”
• ปูทางสู่ตลาดโลกในกลุ่ม Ultra Luxury

มีโอกาสขายนอกจีนหรือไม่?

แม้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันเรื่องตลาดส่งออก แต่ด้วยระดับการลงทุนและโครงสร้างแบรนด์ มีความเป็นไปได้สูงว่า

• จะเป็นรถพรีเมียมจำกัดจำนวน
• อาจทำตลาดในตะวันออกกลาง ยุโรป หรือเอเชียระดับบน
• อาจไม่เน้นปริมาณ แต่เน้นภาพลักษณ์และกำไรต่อคัน

สรุป แบรนด์ที่ 6 ของ GWM อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดในรอบทศวรรษ

การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ของ GWM ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่รถรุ่นใหม่ แต่คือการท้าทายกรอบความคิดเดิมของอุตสาหกรรมรถจีน ที่เคยถูกมองว่า “เก่งเทคโนโลยี แต่ยังขาดจิตวิญญาณ”

หาก GWM ทำสำเร็จ นี่อาจเป็น แบรนด์รถคลาสสิกหรูจากจีนรายแรก ที่สามารถยืนบนเวทีเดียวกับแบรนด์ระดับโลกได้อย่างแท้จริง