Advertisement

Advertisement

MG Cyberster เปิดตัวปี 2024 พร้อมฉลองครบรอบ 100 ปี MG

MG Cyberster เปิดตัวปี 2024 พร้อมฉลองครบรอบ 100 ปี MG

Advertisement

Advertisement

MG เตรียมเปิดตัวสปอร์ตไฟฟ้า ราคาประหยัดภายในปี 2024 และ นี้เป็นส่วนหนึ่งของการฉลองครบรอบ 100 ปี MG Motor

MG ซึ่งกำลังจะฉลองวันครบรอบ 100 ปีในปี 2024 และ MG Cyberster สปอร์ตไฟฟ้าระดับพรีเมียมราคาประหยัด จะตอกย้ำถึงรากเหง้าของแบรนด์ รวมทั้งดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆ อีกมากมาย

MG Cyberster ซึ่งเปิดตัวต้นแบบในงาน Shanghai Auto Show ปี 2021 ได้รับการจองกว่า 5,000 คันล่าสุดทาง Autocar รายงานว่ารุ่นการผลิตจริง จะเปิดตัวในปี 2024 MG แถลงการณ์อย่างเป็นทางการระบุว่ามีราคาที่เอื้อมถึงได้ ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่ได้ระบุวันเวลาเปิดตัวอย่างชัดเจน

MG ถูกซื้อกิจการโดย SAIC ของจีนเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่การแนะนำแบรนด์ MG ออกสู่ตลาดโลกแบบค่อยเป็นค่อยไป MG หวังว่าพวกเขาจะบรรลุยอดขายกว่า 1 ล้านคันภายในปี 2567 ใน 100 ตลาดทั่วโลก

Cyberster พัฒนาโดยทีมงานที่ MG Advanced Design Centre ในลอนดอนโดยนำสัญลักษณ์บางอย่างมาจาก MGB Roadster เช่ นไฟหน้าทรงกลม “Magic Eye” กระจังหน้าแบบบาง แถบ LED ด้านหน้า ไฟท้ายแบบ LED พร้อมกราฟิกคล้ายธงชาติอังกฤษ

ติดตั้งชุดไฟหน้าแบบ “Magic Eye” แบบอินเทอร์แอคทิฟเสมือนดวงตาของรถยนต์ที่สามารถกระพริบได้ ติดตั้งชุดไฟ LED แบบ “Laser Belt” ที่ด้านข้างของตัวรถ ล้อดีไซน์ใหม่แบบ “Hacker Blade” และไฟท้ายแบบ “Red Wing” โดยการออกแบบในองค์รวมได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความคลาสสิคและกลิ่นอายจากสุดยอดรถสปอร์ตในตำนานอย่าง MGB Roadster ไว้ได้อย่างเต็มขั้น

MG Cyberster มันจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Tesla Roadster สปอร์ต 2 ประตูไฟฟ้า

  • SAIC Motor Corporation Limited เป็น บริษัท ออกแบบและผลิตยานยนต์ของจีนที่มีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ด้วยการดำเนินงานข้ามชาติ บริษัท ฟอร์จูนโกลบอล 100 และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับ 4 ในจีน

MG Cyberster จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพสูง ที่สามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที และสามารถวิ่งได้ 800 กม./ชาร์จ แบตเตอรี่แบบไร้โมดูล (Moduleless Battery)

ภายในห้องโดยสารออกแบบในธัม ดิจิตอลไฟเบอร์ เน้นการตกแต่งที่เอนเอียงไปทางด้านคนขับ เพื่อนำเสนอความสปอร์จสองที่นั่งแบบคลาสสิก เน้นการออกแบบเรียบง่าย พวงมาลัยแบบแป้นเกม ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ด้วยพวงมาลัย

ออกแบบเบาะนั่งแบบ Zero-Gravity ทูโทน สีแดง-ขาว หัวเบาะทรงเหลี่ยมเพชน รองรับสรีระอย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ในด้านของเทคโนโลยียังสามารถรองรับระบบการเชื่อมต่อแบบ 5G และติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 3 (Autonomous Level 3 : Conditional Automation)

Autoevolution.com/

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้