Advertisement

Advertisement

เปิดสายการผลิต Mitsubishi TRITON ใหม่ ที่โรงงานแหลมฉบัง กำลังการผลิตกว่า 200,000 คันต่อปี

เปิดสายการผลิต Mitsubishi TRITON ใหม่ ที่โรงงานแหลมฉบัง กำลังการผลิตกว่า 200,000 คันต่อปี

Advertisement

Advertisement

กรุงเทพฯ – 7 สิงหาคม 2566 – บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งด้านการลงทุนและการเติบโตในประเทศไทย โดยเพิ่มการลงทุนในสายการผลิตใหม่สำหรับออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน หรือ แอล 200 (L200) ที่โรงงานแหลมฉบังเพื่อรองรับการส่งออกไปทั่วโลก สายการผลิตใหม่ของออล-นิว ไทรทัน ประกอบด้วยสายการผลิตเชื่อมประกอบตัวถังรถยนต์ที่ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ “สุดไฮเทค” เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยมีสัดส่วนกระบวนการอัตโนมัติถึงร้อยละ 95 จากการใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะมากกว่า 250 ตัว เพื่อทำงานในจุดที่มีความเสี่ยงสูงหรือต้องการความแม่นยำสูงเกินความสามารถของมนุษย์

มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ในฐานะผู้นำด้านการผลิตและส่งออกรถยนต์ของประเทศไทย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนให้ประเทศไทยเติบโตขึ้นเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์แห่งภูมิภาคมาอย่างยาวนาน เรามองว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ จึงดำเนินการผลิตรถยนต์รุ่นสำคัญๆ ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่นี่ เพื่อจำหน่ายส่งออกไปยังนานาประเทศทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ทุ่มงบลงทุนในหลากหลายภาคส่วนเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยี โดยหนึ่งในการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดนั่นก็คือการทุ่มงบประมาณ 3,000 ล้านบาท ในการก่อสร้างโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ในปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเป็นโรงงานพ่นสีที่มีคุณภาพสูง โดยผสานการทำงานที่แม่นยำของเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์อัตโนมัติเข้ากับความพิถีพิถันของบุคลากรที่บรรจงสร้างสรรค์ชิ้นงานด้วยความประณีต ทั้งยังมีระบบการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังได้ส่งเสริมการผลิตรถยนต์ด้วยพลังงานสะอาดโดยใช้ระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังผลิตไฟฟ้าที่ 7 เมกะวัตต์ และมีแผนที่จะลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง”

การเปิดตัว “ออล-นิว ไทรทัน” ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสายการผลิตรถกระบะอย่างเป็นรูปธรรมไปอีกขั้น โดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ยกระดับสายการผลิตใหม่ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการเชื่อมประกอบตัวถังรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมและมีความแม่นยำสูง โดยมีกำลังผลิตราว 200,000 คันต่อปี

“สายการผลิตอัตโนมัติที่ใช้หุ่นยนต์นี้ มีมาตรฐานสูงเทียบเท่าโรงงานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นหัวใจแห่งยุทธศาสตร์สู่การเติบโต ด้วยการลงทุนที่ล้ำสมัย โดยในวันข้างหน้า เราจะยังคงมุ่งมั่นสร้างความเติบโตในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงทุน การผลิต การส่งออก และส่งต่อความรู้และเทคโนโลยี โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญ” มร. โคอิโตะ กล่าวเสริม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตแบบอัตโนมัติสำหรับออล-นิว ไทรทัน ด้วยมุ่งหวังที่จะส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีและหุ่นยนต์ที่มีความแม่นยำสูงเข้ามาทำหน้าที่ที่หลากหลาย อาทิ หุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่สามารถยกวัตถุที่มีน้ำหนักมากได้ถึง 900 กิโลกรัม หุ่นยนต์เคลื่อนย้ายชิ้นงาน แขนกลที่มีความยืดหยุ่นซึ่งสามารถหยิบจับชิ้นงานได้อย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว หุ่นยนต์พร้อมระบบตรวจสอบหัวเชื่อมอัตโนมัติ กล้องตรวจคุณภาพแนวซีลตะเข็บรถยนต์แบบอัตโนมัติ อุปกรณ์ขันยึดแบบไฟฟ้าที่มีความแม่นยำสูง และระบบบันทึกข้อมูลการตรวจสอบแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดการใช้กระดาษ

มร. เออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ระบบควบคุมอัตโนมัติรุ่นใหม่ทั้งหมดถูกนำมาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัยให้กับพนักงานของเรา พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการควบคุมคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพการผลิตออล-นิว ไทรทัน เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่รถระดับโลกอย่างออล-นิว ไทรทัน มีต้นกำเนิดจากโรงงานแหลมฉบังของเราแห่งนี้ และตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับเสียงตอบรับจากลูกค้า เราหวังว่าเทคโนโลยีการผลิตใหม่ล่าสุดของเรานี้จะเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของเรามากยิ่งขึ้น”

ออล-นิว ไทรทัน ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งภายใต้ดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) เพื่อเติมเต็มและตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย พร้อมมอบความปลอดภัยและอุ่นใจได้ในทุกเส้นทาง ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นจากเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ความสงบเงียบและสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

Advertisement

Advertisement

“ด้วยเครื่องยนต์ไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power) รุ่นใหม่ เมกาเฟรมหรือโครงรถใหม่ ช่วงล่างใหม่ ที่มาพร้อมความสะดวกสบายสูงสุดของห้องโดยสารทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ทำให้ ออล-นิว ไทรทัน กลายเป็นสัญลักษณ์ระดับโลกที่สะท้อนถึงความทุ่มเทของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในการสร้างสรรค์รถกระบะที่ดีที่สุดในคลาส เพื่อให้ ออล-นิว ไทรทัน เติมเต็มความสนุกในการใช้ชีวิตและมอบอรรถประโยชน์ให้กับลูกค้าทั่วโลก ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการใช้รถกระบะในการประกอบอาชีพและใช้งานส่วนตัว เราภูมิใจที่จะได้นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้งานรถกระบะในรูปแบบที่หลากหลาย ในวันข้างหน้า เราจะยังคงมุ่งมั่นสร้างความเติบโตโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งต่อความสำเร็จและคุณค่าให้กับลูกค้าทั่วโลก” มร. โคอิโตะ กล่าวปิดท้าย

 

Mr. Takao Kato และ Mr. Eiichi Koito

ก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้นำเสนอแคมเปญพิเศษ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร !” (ALL-NEW TRITON REV UP & WIN) เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ต้องการเป็นเจ้าของออล-นิว ไทรทัน ก่อนเปิดตัว “แคมเปญนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศไทยด้วยยอดจองมากกว่า 10,000 คัน ภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และชื่อเสียงของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส” มร. โคอิโตะ กล่าวทิ้งท้าย

  • มิตซูบิชิ ประเทศไทย ไม่ได้ระบุจำนวนรุ่นที่จองแต่อย่างใด

All-NEW Mitsubishi TRITON ใหม่ เผยราคาอย่างเป็นทางการ ในประเทศไทย

รุ่น Single Cab ตอนเดียว

  • 2.4PRO 4WD ราคา 699,000 บาท
  • 2.4 PRO 4WD AT ราคา 749,000 บาท

รุ่น Double Cab 4 ประตู

  • Plus 2.4 PRO ราคา 820,000 บาท
  • Plus 2.4 Prime ราคา 893,000 บาท
  • Plus 2.4 Prime AT ราคา 938,000 บาท
  • Plush 2.4 Ultra ราคา 982,000 บาท
  • Plus 2.4 Ultra AT 1,027,000 บาท
  • 2.4 Prime 4WD ราคา 1,016,000 บาท

พร้อมรับประกันคุณภาพ

  • รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี / 100,000 km.
  • ฟรี ค่าแรงเช็คระยะนาน 5 ปี / 100,000 km.
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1 Diamond Protection
  • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

ขนาดตัวถัง NEW TRITON

  • ยาว 5,320 มม.
  • กว้าง 1,865 มม.
  • สูง 1,795 มม.
  • ฐานล้อ 3,130 มม.
  • ระยะห่างจากพื้น 222 มม.
  • ขนาดถังน้ำมัน 73 ลิตร

ขนาดตัวถัง ISUZU D-MAX V-CROSS

  • ยาว 5,265 มม.
  • กว้าง 1,870 มม.
  • สูง 1,810 มม.
  • ฐานล้อ 3,125 มม.

ขนาดตัวถัง HILUX REVO ROCCO

  • ยาว 5,325 มม.
  • กว้าง 1,900 มม.
  • สูง 1,815 มม.
  • ฐานล้อ 3,085 มม.

2.4 TURBO Hyper Power

  • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4N16 Hyper Power แบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.4 ลิตร 2,442 ซีซี. เทอร์โบแปรผัน VG-Turbo – Intercooler กระบอกสูบ x ช่วงชัก 86.0 x 105.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.2 : 1  ให้กำลัง 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง / ขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select Full-time 4WD II

เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบคู่ Bi-Turbo พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า 470 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select Full-time 4WD II ส่งกำลังเกียร์ธรรมดา 6MT และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีต (ขายไทยต้นปีหน้าในรุ่น Top สุด 4WD AT)

เทคโนโลยีการขับขี่

  • ปุ่มปรับโหมด Off-Road 7 โหมดการขับขี่
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time AWD (Super Select 4WD II) ปรับได้ 4 แบบ
    • ขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) ขับขี่บนสภาพถนนปกติ
    • ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ขับขี่บนสภาพถนนเปียกลื่น ที่ใช้ความเร็ว
    • ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4HLC) ขับขี่เส้นทางทุรกันดาร แต่ยังใช้ความเร็วได้
    • ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4LLC) ขับขี่เส้นทางทุรกันดารมาก มีโคลน เนินสลับ ลาดชันมาก
  • ระบบ Active Limited Slip แบบควบคุมด้วยระบบเบรก
  • เฟืองท้าย ระบบล็อคเพลาหลัง Diff-Lock
  • ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และ สมดุลขณะเข้าโค้ง Active Yaw Control
  • ระบบลดกำลังเครื่องยนต์ เพื่อช่วยเบรก Brake Override System

ช่วงล่าง

  • แพลตฟอร์ม MEGA Frame ฐานล้อกว่า 3,130 มม.
  • โครงสร้างเหล็กแรงดึงสูง High-Tensile Steel ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น น้ำหนักเบ
  • ช่วงล่างหน้าแบบ ปีกนกอิสระ 2 ชั้น Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ช่วงล่างหลัง แนบแผ่นซ้อน Elliptic Leaf Spring
  • ดิสก์เบรกหน้า พร้อมครีบระบายความร้อน
  • ดรัมเบรกหลัง
  • พวงมาลัยแบบ แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง

    

https://www.car250.com/all-new-mitsubishi-triton-2023-08.html

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้