Mahindra Thar ROXX ราคาเริ่ม 534,000 บาทในอินเดีย ดีเซลเทอร์โบ 2.2

Mahindra Thar ROXX ในประเทศอินเดียก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงเที่ยงวันนี้ รถใหม่มาพร้อมการออกแบบที่ทันสมัย สมรรถนะ รูปลักษณ์ ความปลอดภัย และเทคโนโลยีใหม่ๆ
- Thar Roxx รุ่นพื้นฐาน MX1 มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว
- ล้อขนาด 18 นิ้ว รุ่นเริ่มต้น
- มีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เกียร์ธรรมดามีเฉพาะรุ่นพื้นฐานเท่านั้น
Thar 3-door รุ่นพื้นฐานเบนซินมีราคา₹ 12.99 lakh หรือประมาณ 496,000 บาท และรุ่นพื้นฐานดีเซลมีราคา₹ 13.99 lakh หรือประมาณ 534,000 บาท
เครื่องยนต์ได้แก่
เครื่องยนต์ดีเซล mHawk (2.2 ลิตร)
- ประเภทเครื่องยนต์: 2.2 ลิตร (2184 ซีซี) 4 สูบ เทอร์โบชาร์จเจอร์ CRDe (Common Rail Direct Injection)
- กำลังสูงสุดและแรงบิดสูงสุด:
- สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา (Manual Transmission):
- กำลัง: ประมาณ 150 แรงม้า (bhp) ที่ 3750 รอบต่อนาที
- แรงบิด: ประมาณ 330 นิวตันเมตร (Nm) ที่ 1500-3000 รอบต่อนาที
- สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ (Automatic Transmission):
- กำลัง: ประมาณ 172 แรงม้า (bhp) ที่ 3500 รอบต่อนาที
- แรงบิด: ประมาณ 370 นิวตันเมตร (Nm) ที่ 1500-3000 รอบต่อนาที
- สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา (Manual Transmission):
- ระบบส่งกำลัง:
- เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
- เกียร์อัตโนมัติ Torque Converter 6 สปีด
- ระบบขับเคลื่อน: มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง (RWD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) โดยรุ่น 4WD มักจะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล
เครื่องยนต์เบนซิน: mStallion (2.0 ลิตร)
- ประเภทเครื่องยนต์: 2.0 ลิตร (1997 ซีซี) 4 สูบ เทอร์โบชาร์จเจอร์ TGDI (Turbo Gasoline Direct Injection)
- กำลังสูงสุดและแรงบิดสูงสุด:
- สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา (Manual Transmission):
- กำลัง: ประมาณ 160 แรงม้า (bhp) ที่ 5000 รอบต่อนาที
- แรงบิด: ประมาณ 330 นิวตันเมตร (Nm) ที่ 1750-3000 รอบต่อนาที
- สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ (Automatic Transmission):
- กำลัง: ประมาณ 174 แรงม้า (bhp) ที่ 5000 รอบต่อนาที
- แรงบิด: ประมาณ 380 นิวตันเมตร (Nm) ที่ 1750-3000 รอบต่อนาที
- สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา (Manual Transmission):
- ระบบส่งกำลัง:
- เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
- เกียร์อัตโนมัติ Torque Converter 6 สปีด
- ระบบขับเคลื่อน: ส่วนใหญ่เป็นแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง (RWD) สำหรับรุ่นเบนซิน
แพลตฟอร์ม (Platform)
- M_GLYDE Platform (4G): Thar ROXX สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มแบบ Body-on-frame (โครงสร้างแบบขั้นบันได) เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่เรียกว่า M_GLYDE Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับที่ใช้ใน Scorpio-N อันเป็นที่ยอมรับเรื่องความแข็งแกร่งและสมรรถนะ
- ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น: แพลตฟอร์มใหม่นี้ให้ความแข็งแกร่งของตัวถังต่อแรงบิด (Torsional Stiffness) และความแข็งแรงต่อแรงดัด (Bending Stiffness) ที่ดีขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้การควบคุมรถดีขึ้นและลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH levels) ในห้องโดยสาร
ระบบช่วงล่าง (Suspension System)
- ด้านหน้า (Front Suspension):
- Double Wishbone Suspension (อิสระปีกนกคู่): ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ ซึ่งเป็นระบบที่ให้ความสามารถในการควบคุมรถที่ดีเยี่ยมบนทางเรียบ และยังคงประสิทธิภาพในการลุย Off-road
- ด้านหลัง (Rear Suspension):
- Multi-link Suspension with Watts Linkage (มัลติลิงค์พร้อม Watts Linkage): นี่คือจุดเด่นที่สำคัญในการปรับปรุงช่วงล่างด้านหลัง จาก Thar 3 ประตูที่เป็น Rigid Axle with Coil Springs แบบดั้งเดิม Thar ROXX ได้เปลี่ยนมาใช้ระบบมัลติลิงค์ พร้อมกับกลไก Watts Linkage
- Watts Linkage: ช่วยลดการเคลื่อนที่ด้านข้าง (Lateral Movement) ของเพลาล้อหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ล้อหลังอยู่ในแนวตรงและให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูงและขณะเข้าโค้ง
เทคโนโลยีโช้คอัพและแดมเปอร์ (Dampers Technology)
- Frequency Dependent Damping (FDD): เป็นเทคโนโลยีโช้คอัพที่สามารถปรับการตอบสนองต่อแรงสั่นสะเทือนตามความถี่ของการกระแทกได้ ทำให้โช้คอัพนุ่มนวลขึ้นเมื่อเจอแรงกระแทกความถี่ต่ำ (เช่น การยุบตัวของช่วงล่างในทางขรุขระเล็กน้อย) และแข็งขึ้นเมื่อเจอแรงกระแทกความถี่สูง (เช่น การเข้าโค้งเร็ว หรือการกระแทกหนักๆ) ส่งผลให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้นแต่ยังคงการยึดเกาะถนนที่ดี
- Hydraulic Rebound Stop (HRS): เป็นระบบที่ช่วยลดการกระเด้งกลับของช่วงล่าง (rebound) หลังจากที่ล้อตกลงไปในหลุมหรือเจอเนินสูง ช่วยให้การควบคุมตัวถังรถดีขึ้น และลดอาการโยนตัว
- Multi-tuning Valve – Concentric Land (MTV-CL) Dampers: เป็นเทคโนโลยีวาล์วภายในโช้คอัพที่ช่วยให้สามารถปรับแต่งการหน่วงของโช้คอัพได้อย่างละเอียด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหมาะสมกับสภาพถนนต่างๆ
Mahindra Thar ROXX ขนาดตัวถัง
- ยาว 3,985 มม
- กว้าง 1,820 มม.
- สูง 1,844 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,450 มม.
การออกแบบภายนอก
- คงเอกลักษณ์ความบึกบึนของ Thar ยังคงดีไซน์ทรงกล่องและเส้นสายที่แข็งแกร่งอันเป็นเอกลักษณ์ของ Thar 3 ประตูไว้ได้อย่างครบถ้วน ให้ความรู้สึกพร้อมลุยและทนทาน
- ตัวถังกว้างขวาง 5 ประตู เพิ่มความยาวของฐานล้อและขยายตัวถังเป็น 5 ประตู ทำให้มีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสำหรับผู้โดยสารตอนหลังและการขนสัมภาระ
- กระจังหน้าและชุดไฟ LED ทันสมัย
- กระจังหน้าแบบ 6 ซี่ดีไซน์ใหม่ ที่ดูโฉบเฉี่ยวและทันสมัยยิ่งขึ้น
- ไฟ DRL (Daytime Running Lights) แบบ LED รูปทรงตัว C ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยมและความสวยงาม
- หลังคาโลหะแบบเต็มพร้อม Panoramic Sunroof มาพร้อมหลังคาโลหะที่แข็งแรง ให้ความเงียบในห้องโดยสาร และจุดเด่นที่สุดคือ หลังคาพาโนรามาซันรูฟขนาดใหญ่ ที่เพิ่มความโปร่ง โล่ง และความรู้สึกพรีเมียม
- ล้อและยางที่รองรับทุกสภาพพื้นผิว: ติดตั้งล้อขนาด 18 หรือ 19 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับรุ่น) พร้อมยางที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและบนเส้นทาง Off-road
- รายละเอียดที่เน้นความพรีเมียม แม้จะยังคงความบึกบึน แต่มีการเก็บรายละเอียดภายนอกให้ดูประณีตและพรีเมียมมากขึ้น รวมถึงตัวเลือกสีภายนอกที่หลากหลาย เช่น Everest White, Stealth Black, Nebula Blue, Deep Forest, Tango Red, Battleship Gray และ Burnt Sienna
การออกแบบภายในห้องโดยสาร
- ใช้วัสดุคุณภาพดีขึ้น เช่น วัสดุสัมผัสแบบนุ่ม (Soft-touch materials) และการตกแต่งด้วยสี Piano Black หรือโลหะปัดเงา
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้า 4 บาน
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
- พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถกว้างขวางขึ้นมาก (ประมาณ 644 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง)
- เบาะนั่งแถวหลังพับแบบ 60:40 ได้
- เข้า-ออกง่ายด้วยประตู 5 บาน
- มีพื้นที่วางขาและช่วงไหล่สำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
- เบาะนั่งแถวหลังสามารถปรับเอนได้ (Recline feature) เพื่อความสบาย
- พื้นห้องโดยสารตอนหลังค่อนข้างแบน ช่วยให้นั่ง 3 คนได้สบายขึ้น
- หน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ 10.25 นิ้ว: รองรับ Wireless Android Auto และ Apple CarPlay
- จอแสดงข้อมูลผู้ขับขี่แบบดิจิทัล 10.25 นิ้ว: แสดงข้อมูลครบถ้วนและสวยงาม
- ระบบเสียง Harman Kardon 9 ลำโพง: มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัด (รองรับ Dolby Atmos ในบางรุ่น)
- เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบระบายอากาศ: เพิ่มความสบายในการขับขี่ในสภาพอากาศร้อน
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า: ช่วยให้การหาตำแหน่งขับขี่ที่เหมาะสมเป็นเรื่องง่าย
- แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charging Pad) และ ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง: มาพร้อมถุงลมนิรภัยที่ครอบคลุมการป้องกันสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารด้านหน้า และด้านข้าง (ม่านถุงลมนิรภัย) ช่วยลดการบาดเจ็บรุนแรงเมื่อเกิดการชน
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย (Body-on-frame chassis): สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม M_GLYDE (4G) ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ Body-on-frame ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้ดีเยี่ยม
- เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pre-tensioners) และลดแรงกระแทก (Load Limiters): ช่วยรั้งและผ่อนแรงกระชากของเข็มขัดนิรภัยเมื่อเกิดการชน ทำให้ร่างกายของผู้โดยสารไม่ได้รับแรงกระแทกมากเกินไป
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX: สำหรับการติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กอย่างมั่นคงและปลอดภัย
- ระบบควบคุมการทรงตัว (Electronic Stability Program – ESP): ช่วยควบคุมรถให้ทรงตัวได้ดีในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก เช่น เข้าโค้งเร็วหรือถนนลื่น
- ระบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System – ABS): ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน ช่วยให้ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมทิศทางรถได้
- ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Brakeforce Distribution – EBD): กระจายแรงเบรกไปยังล้อแต่ละข้างอย่างเหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพการเบรกสูงสุด
- ระบบควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System – TCS): ป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัวหรือเร่งความเร็วบนพื้นผิวลื่น
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Hold Control – HHC): ช่วยหน่วงรถไม่ให้ไหลลงเมื่อปล่อยเบรกบนทางลาดชัน
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control – HDC): ช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะลงทางลาดชันให้คงที่ โดยไม่ต้องเหยียบเบรก
- ระบบควบคุมการพลิกคว่ำ (Roll Over Mitigation – ROM): ช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะพลิกคว่ำในสถานการณ์ฉุกเฉิน
- ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS Level 2):
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking – AEB): ระบบจะตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้าและทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อป้องกันการชนหรือลดความรุนแรงของการชน
- ฟีเจอร์ ADAS อื่นๆ ที่อาจรวมอยู่ด้วย เช่น ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning), ระบบเตือนการออกนอกเลน (Lane Departure Warning) เป็นต้น (อาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย)
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อม Blind-view Monitoring: ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบคันรถได้อย่างชัดเจน และมีระบบเตือนจุดอับสายตา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลนหรือถอยจอด
- เซ็นเซอร์กะระยะหน้า-หลัง: ช่วยในการจอดรถหรือขับขี่ในพื้นที่จำกัด
- ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tyre Pressure Monitoring System – TPMS): แจ้งเตือนเมื่อแรงดันลมยางผิดปกติ ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากยางแบนหรือยางระเบิด
- ไฟหน้าอัตโนมัติ (Automatic Headlights): เปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติเมื่อสภาพแสงเปลี่ยนไป
- ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain-sensing Wipers): ทำงานอัตโนมัติเมื่อฝนตก
คะแนนความปลอดภัย 5 ดาวจาก Bharat NCAP: Mahindra Thar ROXX ได้รับการรับรองความปลอดภัยระดับสูงสุดจากหน่วยงานทดสอบความปลอดภัยของอินเดีย (Bharat NCAP) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงมาตรฐานความปลอดภัยที่แข็งแกร่งของรถ