Advertisement

Advertisement

NISSAN จดสิทธิบัตร I-POWER

NISSAN จดสิทธิบัตร I-POWER

Advertisement

Advertisement

NISSAN จดสิทธิบัตร ขุมพลัง I-POWER สิ่งนี้จะเป็นขุมพลังรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของแบรนด์หรูในเครือนิสสันอย่าง Infiniti

I-POWER ดูเหมือนว่าจะเป็น E-Power เวอร์ชั่นของรถยนต์ระดับหรูของ Nissan

หลังจากเลิกผลิต Q50 Hybrid ในปี 2018 Infiniti ก็ไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อีกต่อไป และความเปลี่ยนแปลงต่างๆทำให้ Infiniti ได้แสดงความสนใจในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จำนวนมาก พร้อมตัวเลือกปลั๊กอินไฮบริด

Infiniti คาดว่าจะยืมเทคโนโลยี e-power ของ Nissan ในรถยนต์ Ariya รวมถึงรถรุ่นใหม่ๆอย่าง Kicks e-Power และ Note e-Power

Nissan เพิ่งยื่นฟ้องชื่อ “I-Power” ซึ่งใกล้เคียงกับชื่อ E-Power อย่างน่าสงสัย “I” สามารถสอดคล้องกับแบรนด์ Infiniti ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ระดับหรูแยกความแตกต่างของเทคโนโลยีจากกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของ Nissan

ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลสำหรับเทคโนโลยีอย่าง I-Power แต่ระดับแบรนด์หรูอย่าง Infiniti น่าจะมีการอัพเกรดและรีดสมรรถนะของขุมพลัง e-POWER ออกมาได้ดีที่สุดในนาม I-Power

หลักการทำงานของ e-POWER

อี-พาวเวอร์ เทคโนโลยี

Advertisement

Advertisement
  • ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ อี-พาวเวอร์ ประกอบด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator), อินเวอร์เตอร์ (Inverter), และ มอเตอร์ไฟฟ้า โดยรถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่ถูกส่งมาให้กับมอเตอร์ไฟฟ้านั้น จะถูกเก็บอยู่ในแบตเตอรี่กำลังสูง โดยที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดกะทัดรัดในทำหน้าที่ในการสร้างกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บอยู่ตลอดเวลาเพื่อชดเชยกระแสไฟฟ้าที่ถูกใช้งานไป ด้วยแนวคิดและการออกแบบที่ล้ำหน้าของทีมวิจัยและพัฒนาของนิสสัน ภายใต้ ระบบอี-พาวเวอร์ เครื่องยนต์สันดาปภายในจะไม่เชื่อมต่อเข้ากับชุดส่งกำลังหรือเกียร์โดยตรง แต่จะทำงานร่วมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าและชาร์จเข้ามาเก็บในแบตเตอรี ก่อนที่กระแสไฟฟ้านี้จะถูกส่งไปสู่มอเตอร์ไฟฟ้าในการสร้างกำลังเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนตัวรถ ระบบ อี-พาวเวอร์ มีความโดดเด่นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระบบไฮบริดแบบดั้งเดิม ซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องยนต์สันดาปภายในเพื่อขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลัง เพราะในระบบไฮบริดทั่วไปมอเตอร์ไฟฟ้าจะไม่ทำงานในภาวะที่แบตเตอรีมีกำลังไฟฟ้าต่ำหรือขณะอยู่ในย่านความเร็วสูง และขณะเดียวกัน ระบบ อี-พาวเวอร์ยังแตกต่างกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับพลังงานไฟฟ้ามาจากชาร์จแบตเตอรีเพียงอย่างเดียวอีกด้วย
  • โดยทั่วไป โครงสร้างของระบบรถยนต์ไฟฟ้าแบบ นิสสัน ลีฟจำเป็นต้องมีมอเตอร์และแบตเตอรีขนาดใหญ่เป็นแหล่งกำลังหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งยากต่อการนำระบบไปประยุกต์ให้เข้ากับรถยนต์แบบคอมแพ็กต์ทั่วไปได้ แต่ทีมวิศวกรของนิสสันสามารถค้นพบวิธีการที่ลดได้ทั้งขนาดและน้ำหนักไปจนถึงพัฒนาวิธีการควบคุมมอเตอร์และจัดการพลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้น ซึ่งผลที่ได้ทำให้ขุมพลัง อี-พาวเวอร์ มีแบตเตอรีที่มีขนาดย่อมกว่านิสสัน ลีฟ แต่สามารถให้ความรู้สึกในการขับขี่เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า

ประโยชน์ของ อี-พาวเวอร์  (e-POWER)

  • ขุมพลังแบบ อี-พาวเวอร์ (e-POWER) ให้แรงบิดมหาศาลในทันทีและคงที่ตลอดเวลาทำให้มีอัตราเร่งที่รวดเร็วแต่นุ่มนวล นอกจากนี้ยังมีความเงียบในระหว่างการขับเคลื่อนเช่นเดียวกับนิสสัน ลีฟที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยในระบบ อี-พาวเวอร์ เครื่องยนต์สันดาปภายในจะไม่ได้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถ จึงทำให้มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ในรถยนต์ไฮบริดทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานในเมือง ซึ่งเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ยังให้ผู้ขับขี่ได้รับประโยชน์เฉกเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี (Battery Electric Vehicle – BEV) แต่สามารถลดความวิตกกังวลเมื่อต้องหาสถานีชาร์จไฟฟ้าได้อีกด้วย

Carbuzz.com/

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้