Advertisement

Advertisement

เผยข้อมูลก่อนเปิดขายไทยปีหน้า OMODA 5 EV 510 กม./ชาร์จ NEDC 204 แรงม้า

เผยข้อมูลก่อนเปิดขายไทยปีหน้า OMODA 5 EV 510 กม./ชาร์จ NEDC 204 แรงม้า

Advertisement

Advertisement

เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แบรนด์ OMODA ได้จัดงานประชุมสุดยิ่งใหญ่ Chery International User summit 2023 เพื่อรวบรวมกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม และโชว์ผลิตภัณฑ์ต่างๆนอกเหนือจากรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ OMODA และ JAECOO เพื่อเชื่อมโยงการใช้ชีวิตของผู้บริโภคให้เป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์ ทั้งนี้ในงานได้จัดให้สื่อมวลชนและกลุ่ม KOL ได้ทดลองขับและสัมผัสกับเทคโนโลยีของ OMODA 5 EV รถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่เตรียมเปิดตัวในปีหน้าที่ประเทศไทย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่แสดงความสนใจในรถยนต์เพิ่มมากขึ้น การเล็งเห็นถึงความชอบของตนเองจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแบรนด์ยานยนต์ที่มุ่งมั่นในการบุกตลาดในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงขึ้น สำหรับกลุ่มวัยรุ่น รถยนต์ไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงเอกลักษณ์และรสนิยมของพวกเขาอีกด้วย ในฐานะแบรนด์ยานยนต์ระดับโลกที่เกิดขึ้นใหม่ OMODA เน้นทัศนคติที่เปิดกว้างกับกลุ่มประชากรอายุน้อยตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง รุ่นเปิดตัว OMODA 5 EV ตอบสนองความต้องการของวัยรุ่นยุคใหม่อย่างชาญฉลาดผ่านสุนทรียภาพเหนือจริงและเทคโนโลยีล้ำหน้ามากมายที่ตอบสนองความต้องการในความเป็นเอกลักษณ์และความเป็นปัจเจกบุคคล OMODA 5 EV ยึดมั่นในปรัชญาการออกแบบสุดพิเศษ “Light of Movement” หรือการเคลื่อนไหวแห่งแสง โดดเด่นด้วยสไตล์ที่ล้ำสมัยและไร้ขอบเขต ปรากฏเป็นชิ้นงานศิลปะที่เกิดจากแสงและเงา ห้องนักบินที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีซึ่งเต็มไปด้วยหน้าจอแสดงผลที่สมจริง ช่วยสร้างความรู้สึกดื่มด่ำในการขับขี่มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ใช้และผู้วิจารณ์สื่อจำนวนมากในงานทดสอบการขับขี่ต่างยกย่อง OMODA 5 EV ในเรื่อง “การออกแบบที่ล้ำสมัยและเหมาะกับคนรุ่นใหม่” ในชื่อ “OMODA” ตัว “O” หมายถึงความประหลาดใจและความมีชีวิตชีวา และยังเป็นสัญลักษณ์ขององค์ประกอบสำคัญของชีวิตซึ่งก็คือออกซิเจน “MODA” มาจาก “Modern” หรือ “สมัยใหม่” ซึ่งหมายถึงเทรนด์แฟชั่นและเป็นตัวแทนของไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนของคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ซึ่งเป็นศูนย์รวมของความเขียวขจีในระบบนิเวศและสไตล์ที่ล้ำหน้า Richard ผู้ออกแบบ OMODA 5 EV กล่าวว่า “EV มีภาษาการออกแบบใหม่ล่าสุด – Light of Movement ซึ่งเป็นความต่อเนื่องของ Art in Motion รุ่นก่อนหน้า โดยได้รับแรงบันดาลใจจากแสงแบบไดนามิกและเงาของฟ้าผ่าในธรรมชาติ” นักออกแบบได้จับภาพความงามแบบไดนามิกของสายฟ้าที่ตัดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนในธรรมชาติ และรวมไว้เป็นแรงบันดาลใจในรูปทรงของรถใหม่ ซึ่งมีความคมชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกของแสงและเงา นำเสนอสุนทรียภาพที่ทันสมัยซึ่ง อยู่เหนือความสมจริงและเป็นปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ ในฐานะที่เป็นรุ่นไฟฟ้าล้วน OMODA 5 EV แสดงรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้ารูปตัว “X” แบบสปอร์ตและประสิทธิภาพการลดแรงเสียดทานลมได้ดี ในขณะเดียวกัน รูปทรงของไฟหน้าก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดจากรุ่นน้ำมันเช่นกัน ด้วยการรวมแถบไฟวิ่งกลางวันแบบ LED และแถบคิ้วชุบโครเมียมที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ไฟตัดหมอกรวมถึงสไตล์ของล้อและกันชนหน้าและหลังได้ทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อนำเสนอความสวยงามของเส้นสายในการไหลเวียนของอากาศ ทำให้โดยรวมแสดงถึงความรู้สึกพรีเมียมมากขึ้น สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตสอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งสามารถยกระดับความเร็วของรถไปสู่ระดับใหม่เพื่อสร้างแรงกระตุ้นทางสายตาและการแสดงออกทางสัญลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์ รองรับคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในการแข่งรถ เช่นเดียวกับประสบการณ์การดริฟท์ในการขับขี่

  • OMODA 5 EV นำเสนอภาษาการออกแบบใหม่ล่าสุด นั่นคือ Light of Movement ต่อยอดจาก Art in Motion ในรุ่นน้ำมัน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแสงและเงาแบบไดนามิกของสายฟ้าในธรรมชาติ”  มีไดนามิกของแสงและเงา เส้นสายของตัวรถ OMODA 5 EV มีความเฉียบคมและไดนามิก
  • ด้านหน้าทรงตัว “X” สไตล์สปอร์ต ช่วยต้านทานลมได้อย่างดี
  • แถบไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
  • แถบตกแต่งชุบโครเมียมที่กว้างขึ้น
  • สไตล์ของล้อและกันชนหน้าและหลัง ดีไซน์สปอร์ต
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
  • ไฟตัดหมอก
  • ด้านหลัง มีสปอยเลอร์แบบสปอร์ต
  • ไฟท้ายมาพร้อมแถบเส้นแนวตั้งบางๆ ฝังอยู่ ดูสปอร์ตและใส่ใจรายละเอียด

ขนาดตัวถัง OMODA 5

  • ยาว 4,400 มม.
  • กว้าง 1,824 มม.
  • สูง 1,588 มม.
  • ฐานล้อ 2,630 มม.

ภายในของ OMODA 5 EV มีหน้าจอ Duo Screen ขนาด 24.6 นิ้ว ที่ออกแบบอย่างไร้รอยต่อ เบาะนั่งแบบสปอร์ตพร้อมฟังก์ชันระบายอากาศ รวมถึงมีระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ระบบปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางแบบ Co-pilot และติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซนพร้อมแผ่นกรองฟอกอากาศ PM 2.5 ไปจนถึงเครื่องเสียงยี่ห้อ Sony และไม่ต้องกังวลเรื่องความบันเทิงภายในรถ เพราะสามารถเชื่อมต่อ Apple Carplay หรือ Android ได้อัตโนมัติ ร

  • หน้าจอขนาด 24.6 นิ้ว ที่ออกแบบอย่างไร้รอยต่อ เป็น Duo screen แบบ Curve
  • เบาะนั่งแบบสปอร์ตพร้อมฟังก์ชันระบายอากาศ มีระบบปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางแบบ Co-pilot
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผ่นกรองฟอกอากาศ PM 2.5
  • ระบบเครื่องเสียงจาก Sony
  • ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย 50W wireless charging
  • การโต้ตอบด้วยภาพ HMI5.0 มอบประสบการณ์ทางเทคโนโลยีที่ดื่มด่ำอย่างเต็มที่ ในขณะที่ฟังก์ชันการตรวจสอบความล้ารับประกันความปลอดภัยในการขับขี่
  • มีโหมดให้เลือกถึง 10 โหมด ได้แก่
    • camping
    • Save energy
    • Sobering
    • Warm up
    • Cooling
    • welcome
    • Karaoke
    • smog
    • Pets
    • Starting

ความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของ Omoda 5 EV ด้วยสถาปัตยกรรมตัวถังเหล็กที่มีความแข็งแรงสูง คุณสมบัติช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ 17 รายการ และการรับรองระดับห้าดาว ระดับโลก Omoda 5 EV รับประกันความปลอดภัยรอบด้านและความอุ่นใจขณะอยู่บนท้องถนน  นอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัย EURO NCAP ระดับ 5 ดาว ได้แก่

  • ระบบตรวจจับมุมอับสายตา Blind Spot Monitoring System
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
  • ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ ACC
  • ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ DMS
  • ถุงลมนิรภัยรอบด้าน
  • กล้องมองหลังและเซนเซอร์รอบคัน

ขุมกำลัง

  • มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้กำลัง 204 แรงม้า
  • แรงบิดที่ 340 นิวตันเมตร
  • ความเร็วสูงสุดของรถอยู่ที่ประมาณ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 7.8 วินาที
  • แบตเตอรี่ขนาด 61kWh สามารถวิ่งได้ 510 กม./ชาร์จ NEDC (วิ่งได้จริง 450 กม.)
  • อัตราการใช้พลังงาน 15kWh ต่อ 100 กม.
  • ชาร์จเร็ว (DC) กำลัง 80 kW 30 – 80% ใช้เวลา 35 นาที
  • เทคโนโลยี V2L ซึ่งทำให้มีพลังงานไฟฟ้าพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา และอำนวยความสะดวกต่อความต้องการพลังงานไฟฟ้าของผู้ใช้

 

                

   

         

 

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้