Advertisement

Advertisement

เผยยอดขาย 15,617 คัน ในปี 2022 Ford F-150 Lightning กระบะไฟฟ้า 515 กม./ชาร์จ EPA สหรัฐฯ

เผยยอดขาย 15,617 คัน ในปี 2022 Ford F-150 Lightning กระบะไฟฟ้า 515 กม./ชาร์จ EPA สหรัฐฯ

Advertisement

Advertisement

วันที่ 6 มกราคม 2023 เรามาอัพเดทข้อมูลสำหรับยอดขาย กระบะไฟฟ้า FORD F-150 Lightning ในปี 2022 ในสหรัฐอเมริการวมกว่า 15,617 คัน รถใหม่พึ่งเปิดตัวเดือนพฤษภาคม 2022 และ เดินสายการผลิตก่อนเปิดตัวช่วงเมษายน 2022 Ford F-150 Lightning รุ่นปี 2022 ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันคำสั่งซื้อกระบะปิดลง ด้วยยอดจองสะสมกว่า 200,000 คัน

  • ฟอร์ดคาดการณ์ว่าความต้องการ F-150 Lightning ที่แข็งแกร่งเพียงพอสำหรับผู้ผลิต และ เพื่อไม่ให้ลูกค้ารอนาน พวกเขาเริ่มกำลังผลิต 150,000 คันต่อปี ภายในปี 2023

Ford F-150 Lightning มาพร้อมขุมพลังที่ทรงพลัง ให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อยได้แก่ Pro trim, XLT , Lariat , Platinum มีช่วงราคาจำหน่าย  $55,974 – 96,874 ดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือประมาณ 1.90 – 3.29 ล้านบาท (นับตั้งแต่การเปิดตัวมีการปรับเพิ่มราคา 3 ครั้งรวมๆ $15,000)

ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังมากถึง 563 แรงม้า แรงบิต 1050 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม.ชม.ภายใน 4 วินาที และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 426 แรงม้า แรงบิต 1050 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4X4

  • Standard Range 370 กม./ชาร์จ EPA

  • Extended Range 515 กม./ชาร์จ EPA

  • Platinum trim 483 กม./ชาร์จ EPA

  • อุปกรณ์ชาร์จ AC 48A ชาร์จไฟในบ้านจาก 15-100 % ภายใน 10 ชั่วโมง

  • รุ่นที่ติดตั้งชุดแบตเตอรี่ที่ขยายให้ใหญ่ขึ้นและเครื่องชาร์จคู่สามารถเสียบเข้ากับเครื่องชาร์จในบ้าน 80A 15-100 % ภายใน 8 ชั่วโมง

  • เครื่องชาร์จแบบเร็วสาธารณะ 150kW DC ชาร์จเร็ว 15-80 % ภายใน 41 นาที

  • ระบบ Intelligent Backup Power ใหม่ทำให้สามารถใช้พลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่เพื่อจ่ายไฟให้บ้าน ในยามที่ไฟดับ หรือต้องการใช้ไฟ

  • Pro Power Onboard ระบบจ่ายไฟภายนอก 120V 4 ช่อง รองรับ SUB-C และ SUB-A

การออกแบบ Ford F-150 Lightning EV เน้นความดุดันมากขึ้น พร้อมแถบไฟหน้า-ท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบปิดในแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว ยาง 275/50 R22

ภายในมาพร้อม พวงมาลัย – หุ้มหนังสีดำ เบาะนั่งคู่หน้าหุ้มหนัง Nirvana Leather Multicontour Premium ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ หน้าปัดแบบบดิจิตอล 12 นิ้ว หน้าจอสัมผัสขนาด 15.5 นิ้ว SYNC ® 4A พร้อม Enhanced Voice Recognition ลำโพง B&O ® Unleashed Sound System โดย Bang & Olufsen 18 ตัว กล้อง 360 องศา ระบบช่วยจอดรถแบบแอ็คทีฟ 2.0 แท่นชาร์จไร้สาย เป็นต้น

Lightning เป็นรถกระบะไฟฟ้าในซีรีย์ F-Series รุ่นแรกที่มีระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระ ช่วยให้นุ่มนวลมากขึ้นในการขับขี่ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 907 กก. ลากจูงได้ 4535 กก.

  • ติดตั้งซอฟต์แวร์ Intelligent Range ช่วยการลากจูง บรรทุกน้ำหนักให้แม่นยำมากขึ้น โดยใช้เซ็นเซอร์ของตัวรถ ประมวลผลกำลังลากให้เหมาะสม

ระบบความปลอดภัยที่ให้มามีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Ford Co-Pilot360 รวมทั้งระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ BlueCruise ใช้สำหรับในอเมริกา และ แคนนาดา เป็นระยะทางกว่า 160,000 กม.

Pro — $55,974 หรือประมาณ 1.94 ล้านบาท

Pro trim เป็นรุ่นพื้นฐาน หรือเร่มต้น ภายนอกได้รับ

  • กระจังหน้า Carbon Black

  • กันชนสีดำ

  • คิ้วกันชนสีดำ

  • กรอบประตู-ประตูท้ายสีดำ

  • ฝาครอบกระจกสีดำ

  • ตะขอลากจูงด้านหน้า 2 อัน

  • ประตูท้ายแบบถอดได้พร้อมกุญแจล็อค

  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

  • ระบบ Stereo AM/FM พร้อมลำโพง 6 ตัว

  • หน้าจอสัมผัสระบบ Infotainment ขนาด 12 นิ้ว

  • Sync4, Apple CarPlay และ Android Auto, ฮอตสปอต 4G LTE Wi-Fi, ระบบนำทางทดลองใช้ฟรี 3 ปี , ระบบจดจำเสียง

  • เบาะนั่งหุ้มไวนิลสีเทาเข้ม Slate

  • เบาะนั่งด้านหน้าปรับแบบแมนนวล 4 ทิศทาง

  • พวงมาลัยแบบปรับเอียง/เหลื่อมแบบแมนนวล

  • พวงมาลัยยูรีเทนสีดำ

  • พื้นไวนิลสีดำ

  • กระจกไฟฟ้าพร้อมกระจกหน้าขึ้น/ลงอัตโนมัติ อัตโนมัติ

  • กระจกมองหลังปรับลงแสงอัตโนมัติ

  • ระบบควบคุมการส่ายของรถพ่วง

  • เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ของ Ford Co-Pilot 2.0

  • ระบบ Pro Power Onboard 2.4 กิโลวัตต์พร้อมเต้ารับ 120 โวลต์แปดตัว

  • ตัวเลือกเสริม ได้แก่ Extended Range Battery, ระบบ Pro Power Onboard ขนาด 9.6 กิโลวัตต์, Tow Technology Package, Max Trailer Tow Package และขั้นตอนการพ่วง

XLT — $63,474 หรือประมาณ 2.20 ล้านบาท

  • กันชนสีเดียวกับตัวรถ

  • กระจังหน้า “Geometric Grey-ion fine Satin Metallic”

  • ไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบ LED

  • ไฟสปอร์ตไลท์ที่กระจกมองข้างแบบ LED

  • กระจกมองข้างพับแบบแมนนวล พร้อม ระบบทำความร้อน และ ไฟเลี้ยวในตัว

  • เพิ่ม สลีตล็อคบนกระบะท้าย

  • แป้นเหยียบปรับระดับด้วยไฟฟ้า

  • เบาะผ้าสีเทา Medium Dark Slate

  • เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อนได้

  • เบาะนั่งคนขับไฟฟ้า 8 ทิศทาง

  • พวงมาลัยหุ้มหนัง

  • เบาะภายในพับได้อย่างเรียบเนียน

  • ที่เก็บสัมภาระใต้เบาะด้านหลัง

  • วิทยุดาวเทียม SiriusXM

  • กล้อง 360 องศา

  • ไล่ฝ้าสำหรับกระจกด้านหลัง

  • พรมปูพื้น

  • ไฟส่องสว่างบริเวณประตูทางเข้า

  • ระบบช่วยรถพ่วง

ตัวเลือกต่างๆ ได้แก่ Extended Range Battery

  • ระบบ Pro Power Onboard ขนาด 9.6 กิโลวัตต์

  • Tow Technology Package, Max Trailer Tow Package

  • ล้ออลูมิเนียมเคลือบสีเทาเข้ม Dark Carbonized ขนาด 20 นิ้วพร้อมยางออฟโรต

  • วัสดุปูพื้นแบบถาด

  • เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อนได้

  • เบาะนั่งคนขับแบบไฟฟ้า 10 ทิศทาง

  • เบาะนั่งผู้โดยสารหน้าปรับไฟฟ้า

  • Ford Co-Pilot Assist 2.0 พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ stop-and-go, ระบบช่วยบังคับเลี้ยวแบบหลบหลีก และ ระบบช่วยเตือนวัตถุตรงทางแยก

  • ระบบ Keyless Entry พร้อมปุ่ม Push Start

  • ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ

  • พวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้

  • ประตูท้ายแบบเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

  • บันไดท้ายรถ

Lariat — $74,474 หรือประมาณ 2.58 ล้านบาท

  • หน้าจอสัมผัส Infotainment แบบแนวตั้งขนาด 15.5 นิ้ว

  • รองรับ Ford Sync4A

  • Pro Power Onboard ขนาด 9.6 กิโลวัตต์

  • ล้ออัลลอยเคลือบสีขนาด 20 นิ้ว

  • ระบบเสียง B&O

  • วิทยุ HD ฟังก์ชันหน่วยความจำ

  • แป้นเหยียบแบบปรับได้

  • เบาะหุ้มหนัง

  • เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อน และ ระบายอากาศ

  • ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย

  • กระจกข้างพับไฟฟ้าพร้อมระบบทำความร้อน และ ตัดแสงอัตโนมัติ

  • กระบะท้ายแบบไฟฟ้าพร้อมไฟลายเซ็นด้านหลัง

  • กล่องไฟแบบ LED สำหรับการชาร์จภายนอก

  • Ford Co-Pilot 360 Assist 2.0 มีระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ , ระบบช่วยบังคับเลี้ยวที่เลนกลาง และ ช่วยหลบหลีก ระบบจดจำป้ายจำกัดความเร็ว

ตัวเลือกเสริม

  • Ford Co-Pilot Active 2.0 เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งรวมถึงการขับบนทางหลวงแบบแฮนด์ฟรี BlueCruise ระบบช่วยจอดแบบ Active ตัวเลือกอื่นๆ ได้แก่ Max Trailer Tow Package

  • แบตเตอรี่ Extended Range

  • ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ

  • พวงมาลัยพาวเวอร์แบบปรับเอียง/เหลื่อมพร้อมหน่วยความจำ

  • เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับความร้อนได้

  • หลังคามูนรูฟแบบแผงคู่

Platinum — $96,874 หรือประมาณ 3.36 ล้านบาท

  • รุ่นนี้คือเรือธง หรือ เกรดสูงสุด Extended Range มาตรฐาน

  • กระจังหน้า Vador Black มันวาวพร้อมแถบโครเมียม

  • แผ่นกันกระแทกด้านหน้า Vador Black

  • แถบคาดเข็มขัดสีดำมันวาว

  • แถบตกแต่งกาบบันไดประตู

  • ล้อขนาด 22 นิ้ว

  • BlueCruise เทคโนโลยีการลากจูง

  • เทคโนโลยีกุญแจมืถือ

  • ระบบช่วยจอดแบบ Active

  • ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ลาย

  • เบาะหนัง Nirvana สุดหรูหราพร้อมระบบนวด

  • พวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้

  • พวงมาลัยปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ

  • เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับความร้อนได้

  • หลังคามูนรูฟแบบแผงคู่

  • หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง

  • ฝาปิดคอนโซลกลางหุ้มหนัง

  • ลำโพง 18 ตัว B&O Unleashed

  • ระบบเสียงพร้อมลำโพง 18 ตัวและ ซับวูฟเฟอร์

เพิ่มเติม

  • ตัวเลือกที่มีให้เลือก ได้แก่ แผ่นปิดพื้นแบบถาด และ เบาะนั่งด้านหน้าแบบ Max Recline

Advertisement

Advertisement

autoblog.com

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้