เจาะลึก ANCAP 1 ดาว : Suzuki Fronx ทำไมรถ SUV เล็กยุคใหม่ ถึงถูกเตือน “ห้ามนั่งเบาะหลัง”

เจาะลึก ANCAP 1 ดาว : Suzuki Fronx ทำไมรถ SUV เล็กยุคใหม่ ถึงถูกเตือน “ห้ามนั่งเบาะหลัง”
Spread the love
Advertisement Advertisement
เจาะลึก ANCAP 1 ดาว : Suzuki Fronx ทำไมรถ SUV เล็กยุคใหม่ ถึงถูกเตือน “ห้ามนั่งเบาะหลัง”

 

 

 

 

เจาะลึก ANCAP 1 ดาว : Suzuki Fronx ทำไมรถ SUV เล็กยุคใหม่ ถึงถูกเตือน “ห้ามนั่งเบาะหลัง”

ในยุคที่รถยนต์รุ่นใหม่แทบทุกคันติดตั้งระบบช่วยขับขั้นสูง (ADAS) และโฆษณาความปลอดภัยเป็นจุดขายหลัก การที่ ANCAP ออกคำเตือนโดยตรงต่อผู้บริโภค ถือเป็นเรื่องที่พบได้ไม่บ่อยนัก และยิ่งน่าจับตามองมากขึ้นเมื่อคำเตือนนั้นเกิดขึ้นกับรถ SUV รุ่นใหม่อย่าง Suzuki Fronx

รายงานการทดสอบความปลอดภัย ANCAP ที่เผยแพร่ในเดือนธันวาคม 2025 ไม่เพียงให้คะแนนในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม แต่ยังระบุชัดเจนว่า ไม่ควรให้ผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง จนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นทางการ

ความผิดพลาดของเข็มขัดนิรภัยทำให้หน่วยงานชั้นนำของออสเตรเลียด้านการทดสอบการชนของยานยนต์ออกคำเตือนผู้ขับขี่ไม่ให้เดินทางในที่นั่งด้านหลังของ รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก Suzuki Fronx

ซึ่งเปิดตัวในประเทศเมื่อต้นปีนี้ โดยผู้ผลิตรถยนต์ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

รถยนต์ Suzuki Fronx รุ่นปี 2026 ได้รับคะแนนความปลอดภัยจากการชนเพียงหนึ่งดาวจากโครงการประเมินความปลอดภัยรถยนต์ใหม่แห่งออสเตรเลีย (ANCAP) ซึ่งเป็นหนึ่งในคะแนนที่ต่ำที่สุดที่เคยบันทึกไว้สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก และเป็นคะแนนที่ต่ำที่สุดในบรรดารถยนต์ทุกรุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ในออสเตรเลียในปัจจุบัน

ANCAP กล่าวว่าการทดสอบล่าสุดของรถยนต์รุ่น Fronx พบว่าเข็มขัดนิรภัยที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังข้างหนึ่งชำรุด ทำให้หุ่นจำลองการชนหลุดออกจากที่นั่งโดยสิ้นเชิงระหว่างการทดสอบ

ก่อนที่เข็มขัดนิรภัยจะชำรุด รถคันดังกล่าวได้คะแนนศูนย์ในการทดสอบการชนด้านหน้าแบบเต็มความกว้างไปแล้ว รวมถึงคะแนนศูนย์สำหรับหุ่นจำลองผู้โดยสารเด็กอายุ 6 ขวบและ 10 ขวบด้วย

ANCAP ระบุว่าคะแนนศูนย์นั้นเกิดจาก “อัตราเร่งของศีรษะสูง” และ “ความตึงเครียดของคอมากเกินไป” ที่ตรวจพบในหุ่นจำลองขนาดเด็ก ซึ่งส่งผลให้หุ่นจำลอง Fronx ได้รับคะแนนโดยรวมเพียงหนึ่งดาว

“ความเสียหายของชิ้นส่วนเข็มขัดนิรภัยนั้นเกิดขึ้นได้ยากและร้ายแรง ANCAP มีอยู่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และเมื่อการทดสอบของเราเปิดเผยผลลัพธ์ในลักษณะนี้ เราจะดำเนินการเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของพวกเขาโดยการสื่อสารผลการค้นพบของเราอย่างรวดเร็วและโปร่งใส” คาร์ลา ฮูร์เวก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ANCAP กล่าวในแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน

“สิ่งที่ทำให้เรากังวลคือ รถคันนี้อาจถูกซื้อโดยผู้บริโภคทั่วไป และหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ความบกพร่องนี้อาจส่งผลร้ายแรงต่อผู้ที่นั่งอยู่เบาะหลังได้”

“ANCAP มีความเห็นว่า ผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่และเด็กไม่ควรเดินทางในที่นั่งด้านหลังของ Suzuki Fronx จนกว่าจะมีการระบุสาเหตุของความขัดข้องและดำเนินการแก้ไขที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ”


Suzuki Fronx คือรถแบบไหนในตลาด?

Suzuki Fronx ถูกวางตำแหน่งเป็น Light SUV / B-SUV เน้นกลุ่มผู้ใช้ในเมือง ดีไซน์สปอร์ต ยกสูงเล็กน้อย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้า และมาพร้อมระบบช่วยขับพื้นฐานตามมาตรฐานรถยุคใหม่

ในเชิงการตลาด Fronx ถูกนำเสนอในฐานะรถที่ “ครบเครื่องในราคาจับต้องได้” และเหมาะกับการใช้งานหลากหลาย ตั้งแต่ขับคนเดียว ไปจนถึงเป็นรถครอบครัวขนาดเล็ก

แต่ผลการทดสอบ ANCAP กลับสะท้อนภาพอีกด้านหนึ่งที่ผู้บริโภคควรรู้ก่อนตัดสินใจ


สรุปคะแนน ANCAP: ต่ำกว่าที่คาดจากรถยุคใหม่

  • การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่: 48%
  • การคุ้มครองผู้โดยสารที่เป็นเด็ก: 40%
  • การคุ้มครองผู้ใช้ถนนกลุ่มเสี่ยง: 65%
  • ระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย: 55%

เมื่อเทียบกับรถ B-SUV รุ่นใหม่ในตลาดเดียวกัน คะแนนระดับต่ำกว่า 50% ในหมวดผู้ใหญ่และเด็ก ถือว่า ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่รถหลายรุ่นทำคะแนนได้เกิน 70–80%


จุดเปลี่ยนสำคัญ เข็มขัดนิรภัยเบาะหลังล้มเหลว

ประเด็นที่ร้ายแรงที่สุด และเป็นเหตุผลหลักของคำเตือนจาก ANCAP คือ ความล้มเหลวของกลไกเข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ในการทดสอบชนด้านหน้าแบบ Full Width Frontal ที่ความเร็ว 50 กม./ชม.

ANCAP ระบุว่า ในระหว่างการทดสอบ:

  • กลไกดึงกลับเข็มขัด (Seatbelt Retractor) ของผู้โดยสารตอนหลังเกิดความผิดปกติ
  • เข็มขัดปล่อยสายออกอย่างควบคุมไม่ได้
  • หุ่นทดสอบหลุดจากการยึดรั้งและพุ่งชนพนักพิงเบาะหน้า

ผลลัพธ์คือการปกป้องศีรษะและหน้าอกของผู้โดยสารตอนหลังถูกประเมินอยู่ในระดับ POOR และคะแนนการทดสอบนี้ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน ทันที

ANCAP ระบุชัด: ความล้มเหลวของเข็มขัดนิรภัยเป็นเหตุการณ์ที่พบได้น้อย แต่มีความรุนแรงสูง และได้แจ้งหน่วยงานกำกับดูแลของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แล้ว


ผลกระทบต่อคะแนน Adult Occupant Protection

แม้โครงสร้างห้องโดยสารของ Suzuki Fronx จะยังคงรูปได้ดีในการชนเยื้อง (MPDB) แต่ผลกระทบต่อร่างกายผู้โดยสารยังสูงกว่าที่ควรจะเป็น

  • หน้าอกผู้ขับ: ระดับ WEAK
  • เท้าและข้อเท้า: ระดับ MARGINAL จากการถอยหลังของแป้นเหยียบ
  • ต้นขาผู้ขับและผู้โดยสารหน้า: MARGINAL

นอกจากนี้ Suzuki Fronx ยัง ไม่มีถุงลมนิรภัยกลาง (Centre Airbag) ทำให้ไม่ได้รับการประเมินการชนด้านไกล (Far Side Impact) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำคัญของรถยุคใหม่


เด็กโดยสาร จุดอ่อนที่ชัดเจนยิ่งกว่า

ANCAP ชี้ชัดว่า Suzuki Fronx ไม่มีเข็มขัดนิรภัยแบบ Pre-tensioner สำหรับเบาะหลังทุกตำแหน่ง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการยึดรั้งเด็ก

ผลการทดสอบหุ่นเด็กอายุ 6 และ 10 ปี:

  • การชนด้านหน้า: ศีรษะและคออยู่ในระดับ POOR (คะแนนถูกตัดเป็นศูนย์)
  • การชนด้านข้าง: เด็กอายุ 6 ปีศีรษะกระแทกกับเบาะข้างเคียง
  • ไม่มีระบบ Child Presence Detection

แม้จะมี ISOFIX และ Top Tether ครบตามมาตรฐาน แต่เมื่อโครงสร้างการยึดรั้งหลักยังไม่เพียงพอ คะแนน Child Occupant Protection จึงเหลือเพียง 40%


ADAS และระบบช่วยขับ มี แต่ยังไม่ครบ

Suzuki Fronx มาพร้อมระบบช่วยขับหลายรายการ เช่น

  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
  • ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน
  • ระบบตรวจสอบจุดบอด
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดสำคัญ ได้แก่

  • ไม่มี AEB Head-On
  • AEB ขณะถอยหลัง (Backover) ทำผลงานได้แย่
  • ระบบเฝ้าระวังผู้ขับเป็นแบบอ้อม และไม่ได้รับคะแนน

บทสรุป รถใหม่ ≠ ปลอดภัยเสมอไป

กรณีของ Suzuki Fronx เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า การมี ADAS ไม่ได้การันตีความปลอดภัยเชิงโครงสร้าง และองค์ประกอบพื้นฐานอย่างเข็มขัดนิรภัยยังคงเป็นหัวใจสำคัญ

ข้อแนะนำจากมุมมองผู้บริโภค:

  • หลีกเลี่ยงการให้ผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง
  • ไม่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
  • ติดตามประกาศการแก้ไขจาก Suzuki อย่างเป็นทางการก่อนตัดสินใจซื้อ

ในยุคที่รถยนต์แข่งขันกันด้วยเทคโนโลยี ความปลอดภัยเชิงโครงสร้างยังคงเป็นพื้นฐานที่ละเลยไม่ได้ และกรณีนี้อาจเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค

Advertisement Advertisement

ANCAP 2025 TEST คืออะไร? วิธีอ่านผลทดสอบความปลอดภัยให้เข้าใจ ก่อนตัดสินใจซื้อรถใหม่

ANCAP (Australasian New Car Assessment Program) คือโปรแกรมประเมินความปลอดภัยรถยนต์อิสระของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่ให้คะแนนเป็น “ดาว” เพื่อบอกระดับความปลอดภัยของรถรุ่นนั้น ๆ ทั้งด้านการปกป้องผู้โดยสาร, ความปลอดภัยต่อคนเดินถนน และระบบช่วยขับขี่เชิงป้องกันอุบัติเหตุ

ในปี 2025 เกณฑ์ทดสอบของ ANCAP ยังคงอยู่ภายใต้ชุดมาตรฐาน 2023–2025 ซึ่งมีความเข้มงวดสูง และทำให้ “5 ดาว” ไม่ได้ได้มาง่าย ๆ เหมือนในยุคก่อน โดยเฉพาะรถที่อุปกรณ์ความปลอดภัยไม่ครบ หรือระบบช่วยขับทำงานได้ไม่ดีพอในสถานการณ์ทดสอบ

ทำไม ANCAP 2025 ถึงสำคัญกับคนไทย

  • รถหลายรุ่นเป็นสเปก Global โครงสร้างและระบบความปลอดภัยใกล้เคียงกันในหลายประเทศ (แม้รายละเอียดออปชันอาจต่างกันตามตลาด)
  • ช่วย “กรองรุ่น” ก่อนซื้อ โดยเฉพาะช่วงที่รถใหม่มีระบบช่วยขับเยอะ แต่คุณภาพการทำงานจริงแตกต่างกันมาก
  • ดูแค่ดาวไม่พอ ต้องดู “ปีและวันที่ทดสอบ” เพราะ ANCAP แนะนำให้เปรียบเทียบรถที่ทดสอบในเกณฑ์ใกล้เคียงกัน และควรเลือกผลที่มี “datestamp” ใหม่

ANCAP 2025 ทดสอบอะไรบ้าง? (4 หมวดคะแนนหลัก)

ภายใต้เกณฑ์ 2023–2025 การให้ดาวของ ANCAP ใช้ 4 หมวดหลัก (ถ้าหมวดใดหมวดหนึ่งต่ำมาก ดาวรวมอาจถูกจำกัด)

หมวดคะแนน ANCAP วัดอะไร ตัวอย่างประเด็นที่ทำให้ “เสียคะแนน”
Adult Occupant Protection
ความปลอดภัยผู้ใหญ่
การปกป้องผู้โดยสารเมื่อเกิดการชน (หน้า/ข้าง/ชนเสา) + ความเสี่ยงบาดเจ็บส่วนสำคัญ ปกป้องหน้าอก/ศีรษะไม่ดีพอ, การชนแบบ far-side เสี่ยงกระแทกกันระหว่างผู้โดยสาร, โครงสร้างรับแรงไม่ดี
Child Occupant Protection
ความปลอดภัยเด็ก
การปกป้องเด็กในเบาะนิรภัย + ความเหมาะสมของจุดยึด/การติดตั้ง + ระบบเตือน จุดยึดเบาะเด็กไม่ครบ/ใช้งานยาก, คะแนนการปกป้องต่ำในบางรูปแบบการชน
Vulnerable Road User Protection
คนเดินถนน/จักรยาน
ความปลอดภัยต่อผู้ใช้ถนนที่เปราะบาง ทั้งเชิงโครงสร้างหน้ารถและระบบ AEB ตรวจจับคน/จักรยาน หน้ารถแข็ง/ทรงหน้าทื่อทำให้คะแนนชนคนเดินถนนต่ำ, AEB ตรวจจับคน/จักรยานทำงานไม่ดีในสถานการณ์ทดสอบ
Safety Assist
ระบบช่วยเหลือความปลอดภัย
คุณภาพระบบช่วยขับ เช่น AEB, LKA/ELK, ระบบช่วยจำกัดความเร็ว, การเฝ้าระวังผู้ขับ ระบบมีแต่ตั้งค่าไม่ครอบคลุม/ไม่เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย, ทำงานได้ผลไม่ดีในฉากทดสอบ (junction/crossing/head-on ฯลฯ)
ภาพรวม 4 หมวดคะแนนหลักของ ANCAP ในเกณฑ์ 2023–2025 (ใช้งานต่อเนื่องในปี 2025)

อ่าน “ดาว” ให้ถูก: อย่าดูแค่ 5 ดาว ให้ดู “TESTED datestamp” ด้วย

ANCAP มีคำแนะนำชัดเจนว่าเวลาเปรียบเทียบรถ ควรดู “datestamp” (ปี/ช่วงที่รถถูกทดสอบตามเกณฑ์นั้น ๆ) เพราะเกณฑ์ยากขึ้นเป็นรอบ ๆ และ ANCAP แนะนำให้เลือกผลที่มี datestamp ใหม่ (โดยทั่วไปไม่เก่ามาก) เพื่อให้เทียบกันแฟร์และสะท้อนความปลอดภัยยุคปัจจุบันมากกว่า

เช็กลิงก์ผลทดสอบอย่างเป็นทางการ ทำได้ 2 วิธี

  1. ค้นหาจากฐานข้อมูล “Safety Ratings” ของ ANCAP แล้วกรองตามยี่ห้อ/รุ่น
  2. อ่านรายงานฉบับเต็ม (Technical Report) ในหน้ารุ่นนั้น ๆ เพื่อดูรายละเอียดการทดสอบ จุดแข็ง-จุดอ่อน และเงื่อนไขรุ่นย่อย (variant)

ตัวอย่างประเด็นที่พบจริงในปี 2025 ทำไมบางรุ่นได้ 4 ดาว

ในยุคเกณฑ์ปัจจุบัน รถบางรุ่น “พลาด 5 ดาว” ไม่ใช่เพราะโครงสร้างแย่เสมอไป แต่เกิดจาก อุปกรณ์ความปลอดภัยเชิงรับ/เชิงรุกไม่ครบ หรือคะแนนด้านใดด้านหนึ่งต่ำจนถูกจำกัดดาวรวม

เคสที่เจอบ่อย ไม่มี “ถุงลมนิรภัยกลาง (Centre Airbag)”

ANCAP ระบุในผลทดสอบของบางรุ่น (เช่น Mitsubishi ASX) ว่าการไม่มี centre airbag เป็นหนึ่งในปัจจัยจำกัดผลรวม และอาจทำให้คะแนน/ดาวลดลง เมื่อเทียบกับรถที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน

ข้อคิดสำหรับผู้ซื้อ: หากรถรุ่นที่เล็งไว้ได้ 4 ดาว ให้เปิดรายงานดูว่า “ขาดอะไร” แล้วเทียบกับรถคู่แข่งในกลุ่มราคาเดียวกัน บางครั้งต่างกันแค่การมี/ไม่มีระบบสำคัญบางชิ้น

แนวโน้มสำคัญ 2026 จะเปลี่ยนโครงสร้างการประเมิน (Stages of Safety)

ANCAP ประกาศแล้วว่าตั้งแต่ปี 2026 จะปรับกรอบการให้คะแนนเป็นแนวคิด “Stages of Safety” โดยจัดกลุ่มการประเมินตามช่วงเวลา ก่อนชน–ระหว่างชน–หลังชน เพื่อสะท้อนความปลอดภัยแบบองค์รวมมากขึ้น

  • Safe Driving (ความปลอดภัยขณะขับขี่/การโต้ตอบระบบกับผู้ขับ)
  • Crash Avoidance (การหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ)
  • Crash Protection (การปกป้องเมื่อเกิดการชน)
  • Post-Crash (ความปลอดภัยหลังชน/การช่วยเหลือหลังอุบัติเหตุ)

นั่นหมายความว่า “รถที่ผ่านได้ในปี 2025” ไม่ได้การันตีว่าจะทำคะแนนสวยในเกณฑ์ใหม่เสมอไป โดยเฉพาะหมวดที่เกี่ยวกับการใช้งานระบบจริงและความปลอดภัยหลังเกิดเหตุ

สรุป ถ้าจะใช้ ANCAP 2025 ช่วยเลือกซื้อรถ ควรทำอย่างไร

  • เริ่มจากดูดาว เพื่อกรองรุ่นที่ควรพิจารณา (แนะนำโฟกัส 5 ดาวเป็นหลัก)
  • เช็ก TESTED datestamp เลือกผลที่ใหม่ เพื่อให้เทียบกันยุติธรรมและสะท้อนเกณฑ์ล่าสุด
  • อ่านรายงานฉบับเต็ม เพื่อรู้ว่าเสียคะแนนเพราะอะไร (เช่น ไม่มี centre airbag หรือระบบ AEB ทำงานได้ไม่ครอบคลุม)
  • ดูเงื่อนไขรุ่นย่อย บางรุ่นได้ดาวสูงเพราะระบบความปลอดภัยเป็น “มาตรฐานทุกรุ่นย่อย” แต่บางรุ่นอาจได้คะแนนจากรุ่นท็อปเท่านั้น

FAQ คำถามที่คนค้นหาบ่อยเกี่ยวกับ ANCAP 2025

Q1: 5 ดาว ANCAP ปี 2025 เทียบกับ 5 ดาวเมื่อหลายปีก่อนเหมือนกันไหม?

ไม่เหมือนกันทั้งหมด เพราะเกณฑ์ของ ANCAP ถูกปรับให้ยากขึ้นเป็นรอบ ๆ ดังนั้นควรดู “datestamp” เพื่อให้รู้ว่าดาวนั้นได้จากเกณฑ์ช่วงไหน

Q2: รถที่ได้ 4 ดาว แปลว่าไม่ปลอดภัยใช่ไหม?

ไม่จำเป็นเสมอไป แต่หมายถึง “ยังมีจุดอ่อน” เมื่อเทียบมาตรฐานระดับสูงสุดของยุคนั้น ควรเปิดรายงานดูสาเหตุ เช่น ขาดอุปกรณ์สำคัญ หรือคะแนนบางหมวดต่ำ

Q3: จะเช็กผล ANCAP รุ่นที่สนใจได้จากที่ไหน?

ให้ค้นหาจากฐานข้อมูล Safety Ratings ของ ANCAP และเปิดอ่านรายงาน Technical Report ของรุ่นนั้น ๆ เพื่อดูรายละเอียดการทดสอบและเงื่อนไขรุ่นย่อย


คะแนน 1 ดาวไม่แปลก — แต่ “ผิดปกติและควรระวังมาก”

1 ดาว ANCAP แปลว่าอะไร “จริง ๆ”

การได้ 1 ดาว ANCAP ไม่ได้หมายความว่า “รถคันนั้นอันตรายจนขับไม่ได้” แต่หมายถึงว่า

รถคันนั้น ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยขั้นต่ำของยุคปัจจุบัน
เมื่อประเมินทั้งโครงสร้าง + ระบบช่วยเหลือความปลอดภัย

ในภาษาของ ANCAP คือ ระดับการปกป้องต่ำมาก (Very Low Safety Performance) เมื่อเทียบกับรถใหม่ในตลาด

ทำไม 1 ดาว ถึง “ไม่ควรเกิด” กับรถยุคนี้

ในช่วง 10–15 ปีที่ผ่านมา รถใหม่ส่วนใหญ่:

  • ได้อย่างน้อย 4–5 ดาว

  • แม้เป็นรถราคาประหยัด ก็ยังผ่านเกณฑ์พื้นฐาน

ดังนั้น 1 ดาวในปี 2024–2025 มักเกิดจากกรณีต่อไปนี้เท่านั้น

สาเหตุหลักที่ทำให้รถได้ 1 ดาว ANCAP

1. ขาดระบบความปลอดภัยสำคัญ “เกือบทั้งหมด”

เช่น

  • ไม่มี AEB (เบรกอัตโนมัติ)

  • ไม่มี Lane Assist

  • ไม่มีระบบเตือนคาดเข็มขัดครบทุกตำแหน่ง

  • ไม่มีถุงลมนิรภัยครบตามมาตรฐานปัจจุบัน

ANCAP ไม่ได้ดูแค่ว่า “มีถุงลมกี่ใบ” แต่ดูว่า รถช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้หรือไม่

2. โครงสร้างตัวถังล้าสมัย

  • แพลตฟอร์มเก่า

  • การดูดซับแรงกระแทกต่ำ

  • คะแนนการปกป้องหน้าอก/ศีรษะต่ำมาก

รถบางรุ่นยังขายอยู่ แต่พื้นฐานออกแบบตั้งแต่ 10–15 ปีก่อน เมื่อเอามาทดสอบด้วยเกณฑ์ใหม่ → คะแนนตกฮวบ

3. ได้คะแนนบางหมวด “ต่ำจนจำกัดดาว”

ANCAP ใช้ระบบ Minimum Threshold

  • ต่อให้บางหมวดทำได้ดี

  • แต่ถ้าหมวดใดหมวดหนึ่งต่ำเกิน → ดาวรวมจะถูก “ล็อก” ไว้

เช่น

  • Safety Assist ต่ำมาก → ต่อให้โครงสร้างโอเค ก็อาจจบที่ 1–2 ดาว

เปิดขายไทย 689,000 – 799,000 บาท SUZUKI FRONX 1.5NA และ MILD HYBRID

ราคา 590,000 บาทในญี่ปุ่น SUZUKI FRONX MHEV 1.5L 4WD 17.8 กม./ลิตร WLTC

แอนซีเอพี

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้