มัสก์ลั่น! TESLA จะรอดหรือร่วง “ผมจะอยู่ตรงนี้จนจบเกม! อยู่ต่ออีก 5 ปี ถ้าไม่ตายซะก่อน
สรุป Elon Musk ประกาศอยู่ Tesla ต่ออีก 5 ปี (ถ้าไม่ตายก่อน)
- มัสก์ยืนยันจะอยู่เป็น CEO Tesla ต่ออีกอย่างน้อย 5 ปี แต่มีเงื่อนไข “เว้นแต่จะตาย” พร้อมขอเสียงโหวตควบคุมบริษัทเพื่อกันไม่ให้นักลงทุนถอดเขาออก
- มัสก์ชี้ว่าการอยู่ต่อไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เพื่อควบคุมอนาคตของ Tesla โดยเฉพาะโปรเจกต์ AI และหุ่นยนต์ Optimus นับล้านตัวในอนาคต
- ตอบเรื่องยอดขายตก: มัสก์มองว่าปัญหาจบแล้ว บอกว่ายอดขายทั่วโลกฟื้น ยกเว้นยุโรป ส่วนราคาหุ้นที่กลับมาทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์คือสัญญาณบวก
- มัสก์ยอมรับว่าความคิดเห็นทางการเมืองทำให้เสียลูกค้าบางกลุ่ม แต่ก็ได้กลุ่มใหม่เพิ่มมาแทน โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบสไตล์ “บ้าๆ” ของเขา
- วิจารณ์หนักเรื่องถูกข่มขู่และทำลาย Tesla เพราะการเมือง บอกว่าไม่เคยใช้ความรุนแรง แต่บริษัทกลับถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม
- พักเรื่องการเมืองชั่วคราว มัสก์บอกว่า “พอแล้ว” กับการใช้เงินสนับสนุนการเมือง ณ ตอนนี้ แต่ไม่ปิดประตูถาวร
- ภาพลักษณ์เสียหายหนัก ผลสำรวจเผย 2 ใน 3 ของชาวอเมริกัน “ไม่ซื้อ Tesla เพราะไม่ชอบมัสก์”
อีลอน มัสก์ยังไม่ไปไหน—อย่างน้อยก็ในเร็วๆ นี้
ในงาน Qatar Economic Forum สัปดาห์นี้ อีลอน มัสก์ ซีอีโอแห่ง Tesla ประกาศแบบสบายๆ ว่า เขาตั้งใจจะนั่งเก้าอี้ผู้นำบริษัทต่อไปอย่างน้อยอีก 5 ปี
แน่นอนว่า… “ยกเว้นถ้าผมตาย” มัสก์เสริมติดตลกเหมือนมันคือปัญหาทางวิศวกรรมที่ยังแก้ไม่ตก
คำพูดนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ฟัง แต่บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นจริงจังทันที เพราะแม้มัสก์จะยังเป็นซีอีโอ Tesla อยู่ แต่สิ่งที่อยู่ในหัวเขา ไม่ใช่แค่ รถหุ่นยนต์ Robotaxi—แต่คือ “อำนาจ”
“อยู่ต่อได้ ถ้าผมยังควบคุมได้”
ในการโต้ตอบกับผู้สื่อข่าว Bloomberg อย่าง Mishal Husain ที่ถามเขาว่าจะยังเป็นซีอีโอ Tesla อีก 5 ปีหรือไม่ มัสก์ตอบสั้นๆ ว่า “ใช่” พร้อมข้อแม้สั้นๆ ที่กลายเป็นหัวข้อถกเถียง “[เว้นแต่ผมจะตาย] ให้ผมเช็กก่อนว่าผมยังไม่ตาย”
แต่ความจริงก็คือ มัสก์พูดชัดว่าเขาจะอยู่ต่อ ถ้าเขาได้รับ “อำนาจเสียงโหวต” ในบริษัทอย่างเด็ดขาด เพื่อกันไม่ให้นักลงทุนสายแอ็กติวิสต์โหวตถอดเขาออกจากบริษัทที่เขาสร้างมากับมือ
“มันไม่ใช่เรื่องเงิน มันคือเรื่องของการควบคุมอนาคตของบริษัทต่างหาก โดยเฉพาะตอนที่เรากำลังจะสร้างหุ่นยนต์นับล้านหรืออาจจะพันล้านตัวในอนาคต” – มัสก์กล่าว
เขาย้ำว่า เขาไม่ต้องการถูกถอดจากตำแหน่งเพราะเหตุผลทางการเมือง และบอกว่า “แค่นั้นแหละที่สำคัญ” — นั่นคือ เงื่อนไขแบบ “robot clause” ที่เขายื่นไว้
ถ้ามัสก์จะพา Tesla มุ่งหน้าสู่อนาคตแห่ง AI และหุ่นยนต์ Optimus เขาต้องการหลักประกันว่าเขาจะไม่ถูกเตะออกจากเกาะกลางทาง ไม่ว่าจะเป็นด้วยแรงกดดันจากผู้ถือหุ้น หน่วยงานรัฐ หรือดราม่าใดๆ ที่จะมาในวันหน้า
“ยอดขายตก? ไม่มีปัญหา” – มัสก์กล่าว
แม้จะมีเสียงวิจารณ์เรื่องยอดขาย Tesla ที่ตกต่ำในตลาดบ้านเกิดอย่างสหรัฐฯ โดยเฉพาะในไตรมาสแรกปี 2025 มัสก์กลับมองว่า “ปัญหานั้นจบไปแล้ว” และบอกว่าในตลาดอื่นๆ ยอดขาย “กลับมาแข็งแกร่งแล้ว”
“ยุโรปเป็นตลาดที่เราอ่อนสุด ส่วนที่เหลือเรากลับมาแข็งแรงแล้ว ตอนนี้เรามียอดขายดีมาก และเราไม่คาดว่าจะมีปัญหาการขายอีกเลย”
“ดูราคาหุ้นสิ ตอนนี้กลับมามีมูลค่าตลาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์อีกครั้ง แปลว่าตลาดรู้แล้วว่าเรากลับมาแล้ว” – มัสก์เสริม
เขายังพูดถึงผลกระทบจากความคิดเห็นทางการเมืองว่า ถึงแม้จะเสียลูกค้าบางกลุ่มฝั่งซ้ายไป ก็ได้ลูกค้าฝั่งขวามาแทน
“มีคนบางกลุ่มซื้อรถเราเพราะเขาชอบ ‘ความบ้า’ ของผม” เขาพูดติดตลก
โดนโจมตีเพราะการเมือง
มัสก์บอกว่าเขาโดนโจมตีและข่มขู่เพราะการมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าโดนทำร้ายโดยไม่เป็นธรรม
“ผมไม่เคยใช้ความรุนแรงเลย แต่บริษัทของผมกลับถูกทำร้ายอย่างหนัก มีคนข่มขู่จะฆ่าผม มีคนทำลายโชว์รูม Tesla ทำลายรถของลูกค้าที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ พวกเขาเป็นฝ่ายผิดของประวัติศาสตร์”
แม้เขาจะบอกว่า “พอแล้ว” กับการใช้เงินสนับสนุนการเมืองในช่วงนี้ แต่ก็ไม่ได้ปิดประตูถาวร
ภาพลักษณ์ที่เสียไป…และไม่รู้จะกู้คืนได้ไหม
แม้มัสก์จะยืนกรานในบทบาทของตน แต่ผลสำรวจล่าสุดพบว่า คนอเมริกัน 2 ใน 3 ระบุว่า “จะไม่ซื้อ Tesla เพราะมัสก์”
จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ไม่แน่ว่า Tesla จะสามารถฟื้นภาพลักษณ์ได้หรือไม่—แต่มัสก์ก็ย้ำว่า หากเรือจะล่มใน 5 ปีนี้ เขาจะอยู่จนถึงวินาทีสุดท้ายด้วยตัวเอง
