อากิโอะ โตโยดะ เผยว่า รถสปอร์ต TOYOTA จะไม่เป็นไฟฟ้า BEV ต้องมีกลิ่นน้ำมันและเสียงคำราม

สรุปข่าว: Toyota ยังไม่ทำรถสปอร์ตไฟฟ้าเต็มตัวในเร็วๆ นี้
- อากิโอะ โตโยดะ ประธานโตโยต้า ยืนยันนิยามรถสปอร์ตต้อง “มีกลิ่นน้ำมันและเสียงเครื่องยนต์”
- ปัจจุบัน GR (Gazoo Racing) ยังโฟกัสรถสันดาป เช่น GR Yaris, GR Corolla
- แนวคิดรถไฟฟ้า FT-Se ยังไม่มีแผนผลิตจริง
- ยอมรับว่าอนาคต อาจมี BEV สปอร์ต หากทำราคาได้ “จับต้องได้”
- ไม่สนแข่งรถไฟฟ้าตอนนี้ เพราะ “ยังไม่น่าตื่นเต้น” และแบตหมดไว
- มอบภารกิจพัฒนา EV ให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะลูกชาย Daisuke Toyoda
โตโยต้า GR ยังไม่เปิดไฟเขียว EV สปอร์ต – อากิโอะ โตโยดะ: รถสปอร์ตต้องมีกลิ่นน้ำมันและเสียงคำราม
Toyota GR กำลังเดินหน้าสร้างไลน์อัปรถสปอร์ตที่น่าตื่นเต้นที่สุดในบรรดาค่ายรถยนต์กระแสหลัก แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีรุ่นใดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) ในเร็วๆ นี้
อากิโอะ โตโยดะ ประธานกรรมการของโตโยต้า ซึ่งเป็นหลานชายของผู้ก่อตั้ง Toyota Motor Corp. ยืนยันชัดว่า “รถสปอร์ตในนิยามของผม ต้องมีกลิ่นน้ำมันเบนซินและเสียงเครื่องยนต์คำราม” ซึ่งเท่ากับปิดประตูใส่พาวเวอร์เทรนไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิงในนามของ Gazoo Racing (GR) อย่างน้อยในช่วงนี้
โตโยดะได้รับสมญานามว่าเป็น “มาสเตอร์ไดรเวอร์” และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดเอกลักษณ์ของ Lexus และ Toyota ภายใต้การนำของเขา โตโยต้าได้เปลี่ยนภาพลักษณ์จากแบรนด์อนุรักษ์นิยม มาเป็นแบรนด์ที่เอาใจคนรักการขับขี่มากขึ้น พร้อมฟื้นคืนสู่จุดสูงสุดของวงการมอเตอร์สปอร์ต และเพิ่มกลิ่นอายแรลลี่เข้าไปในรถโปรดักชัน เช่น GR Yaris และ GR Corolla
รถสปอร์ตไฟฟ้า? “ยังไม่ใช่ตอนนี้”
เมื่อถูกถามโดย Auto News ว่าเขาเห็นอนาคตของรถแข่งหรือรถสปอร์ตไฟฟ้าไหม โตโยดะตอบสไตล์คลาสสิกว่า:
“ที่โตโยต้า มีคนจำนวนมากที่อยากพัฒนารถสปอร์ตไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่สำหรับผม รถสปอร์ตต้องมีกลิ่นน้ำมันและเสียงเครื่องยนต์”
คำตอบนี้เหมือนเป็นการสยบความหวังของแฟนๆ ที่เคยจินตนาการว่า FT-Se Concept ซึ่งเปิดตัวในปี 2023 จะเป็นต้นแบบของ MR2 ยุคใหม่แบบไฟฟ้า โดยปัจจุบัน โตโยต้ายังทดลอง GR Yaris เวอร์ชันเครื่องวางกลาง ซึ่งคาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร แทนที่จะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า
EV ต้อง “เข้าถึงได้” ถึงจะมีวันเกิด
แม้เขาจะชอบเครื่องยนต์สันดาป โตโยดะก็ไม่ได้ปิดประตูใส่ BEV แบบถาวร เขายอมรับว่าหาก “เงื่อนไขเหมาะสม” ก็อาจมี EV สปอร์ตเกิดขึ้นได้ แต่มีข้อแม้ใหญ่คือ ต้องราคาจับต้องได้
“โตโยต้าเป็นแบรนด์ที่ผลิตจำนวนมาก เราจึงต้องคิดเรื่องราคาด้วย แม้กระทั่งกับ BEV เมื่อไหร่ที่โตโยต้าสามารถทำ BEV ที่เข้าถึงได้ เมื่อนั้นแหละ ผมถึงจะคิดเปิดตัวรถสปอร์ต BEV”
รถแข่งไฟฟ้า? ยังน่าเบื่อเกินไป
โตโยดะยังไม่อินกับการแข่งรถไฟฟ้า เพราะ “มันยังไม่ตื่นเต้นพอ” โดยเขาชี้ว่า BEV ยังวิ่งแข่งต่อเนื่องได้น้อย และเน้นเรื่อง “เวลาในการชาร์จ” มากกว่าศักยภาพของรถ
“การแข่งที่ผมลงส่วนใหญ่คือ Endurance (แข่งระยะยาว) แต่ BEV ตอนนี้ยังไม่เหมาะ เพราะมันกลายเป็นการแข่งว่าใครชาร์จเร็ว ไม่ใช่ใครขับเร็ว”
เขาจึงมอบภารกิจพัฒนารถแข่งไฟฟ้าให้กับ “มาสเตอร์ไดรเวอร์รุ่นใหม่” แทน
ส่งไม้ต่อให้ลูกชาย Daisuke
โตโยดะพูดถึงลูกชาย Daisuke Toyoda ว่าเป็นนักขับที่มีฝีมือกว่าเขา แต่เขายังเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าด้านการ “ปรุงรส” ให้รถโปรดักชันน่าขับ เขาเริ่มเรียนรู้การขับกับ ทดสอบไดรเวอร์ระดับตำนาน Naruse ตอนอายุ 40 ปี แต่ลูกชายเริ่มเร็วกว่าเยอะ
“ผมรอดูอยู่ว่าคนที่เริ่มตั้งแต่ยังเด็กแบบ Daisuke จะสร้างอะไรได้บ้างในอนาคต”