33.6 กม./ลิตร TOYOTA AQUA Raffine 1.5L HYBRID ราคา 597,000 บาท บาทในญี่ปุ่น

Advertisement
TOYOTA AQUA รุ่นพิเศษ Raffine ราคาจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ราคาที่ 2,667,000 – 2,837,000 เยน หรือประมาณ 597,746 – 635,848 บาท บนขุมพลังเบนซินไฮบริด 1.5 ลิตร
- โตโยต้า อควา (Toyota Aqua) รุ่นปี 2024 ได้รับการพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ของโตโยต้า หรือ Toyota New Global Architecture (TNGA) ในเวอร์ชันสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า GA-B
สิ่งที่น่าสนใจใน TOYOTA AQUA รุ่นพิเศษ Raffine
- กรอบกระจังหน้าสีบรอนซ์ เมทัลลิก
- หลังคาทูโทนสีดำ
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยว LED สีดำ
- มือจับประตูด้านนอกสีดำ
- สปอยเลอร์หลังคาสีดำ
- กาบข้าง(สีบรอนซ์เมทัลลิก)
- สัญลักษณ์ Raffine
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วสีบรอนซ์
- ยาง 95/55R16
- ภายในสีบรอนซ์
- ตกแต่งสีบรอนซ์เมทัลลิก (กล่องด้านบนที่นั่งผู้โดยสาร)
- การตกแต่งสีบรอนซ์เมทัลลิก (แผงหน้าปัด)
- ตกแต่งสีบรอนซ์เมทัลลิก (คอนโซลหน้า)
- ที่หุ้มเบาะ สีบรอนซ์
- สัญลักษณ์แผงภายใน Raffine
- พรมปูพื้น (สำหรับรถยนต์รุ่นพิเศษ)
- ไฟฉายภาพ (สำหรับรถยนต์รุ่นพิเศษ)
ขนาดตัวถัง 2024 TOYOTA AQUA
- ความยาว: 4,050 มม.
- ความกว้าง: 1,695 มม.
- ความสูง: 1,485 มม.
- ระยะฐานล้อ: 2,600 มม.
ขนาดตัวถัง YARIS ในไทย
- ยาว 4,115 มม.
- กว้าง 1,700 มม.
- สูง 1,475 มม.
- ฐานล้อ 2,550 มม.
ขนาดตัวถัง YARIS CROSS ในไทย
- ความยาว 4,310 มม.
- ความกว้าง 1,770 มม.
- ความสูง 1,615 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,620 มม.
ขนาดตัวถัง YARIS ญี่ปุ่น
- ความยาว 3,940 มม.
- ความกว้าง 1,695 มม.
- ความสูง 1,500 – 1,510 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,550 มม.
เบนซิน + ไฮบริด 1.5 ลิตร รหัส M15A-FXE 1.5 ลิตร 3 สูบ มอเตอร์ (THSⅡ)
- ให้กำลัง 91 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที
- แรงบิตสูงสุด 120 นิวตัน-เมตรที่ 3,800 – 4,800 รอบต่อนาที
- มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า : 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตัน-เมตร
- มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง : 5.3 แรงม้า แรงบิด 52 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ขนาด 5.0Ah
- ระบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD
- ระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่องด้วยไฟฟ้า
2WD
- อัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 33.6 กม./ลิตร WLTC
- ในเมือง 34.3 กม./ลิตร WLTC
- นอกเมือง 36 กม./ลิตร WLTC
- ทางหลวง 31.8 กม./ลิตร WLTC
4WD
- อัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 30.0 กม./ลิตร WLTC
- ในเมือง 32.0 กม./ลิตร WLTC
- นอกเมือง 31.1 กม./ลิตร WLTC
- ทางหลวง 28.5 กม./ลิตร WLTC
จุดเด่นของการออกแบบภายนอก
- สีตัวถังแบบทูโทน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของรุ่น Raffine คือการใช้สีตัวถังแบบทูโทน โดยหลังคา, กระจกมองข้าง และสปอยเลอร์หลังคาจะถูกพ่นด้วยสีดำ สร้างมิติให้ตัวรถดูมีระดับและสปอร์ตยิ่งขึ้น
- การตกแต่งด้วยสีบรอนซ์เมทัลลิก เพื่อเสริมความหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ รุ่น Raffine ได้รับการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีบรอนซ์เมทัลลิก (Bronze Metallic) ในหลายตำแหน่ง ได้แก่:
- กรอบกระจังหน้า เปลี่ยนจากสีปกติเป็นสีบรอนซ์เมทัลลิก ทำให้ด้านหน้าของรถดูมีมิติและน่าสนใจ
- กาบข้างประตู มีการตกแต่งด้วยวัสดุสีบรอนซ์เมทัลลิก เพิ่มความพิเศษให้กับมุมมองด้านข้าง
- รายละเอียดสีดำ นอกจากส่วนของหลังคาแล้ว มือจับประตูด้านนอกยังเป็นสีดำเพื่อให้เข้าชุดกันกับการตกแต่งโดยรวม
- ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ มาพร้อมกับล้ออัลลอยลายพิเศษที่ทำสีให้เข้ากับการตกแต่งโดยรวมของตัวรถ ช่วยเติมเต็มลุคให้สมบูรณ์แบบ
- สัญลักษณ์ “Raffine”: มีการติดสัญลักษณ์ชื่อรุ่น “Raffine” เพื่อบ่งบอกถึงความพิเศษ
การออกแบบภายในห้องโดยสาร
-
การตกแต่งด้วยสีบรอนซ์เมทัลลิก (Bronze Metallic) เพื่อสร้างความต่อเนื่องจากภายนอกสู่ภายใน ห้องโดยสารของรุ่น Raffine ได้รับการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีบรอนซ์เมทัลลิกในตำแหน่งต่างๆ เช่น:
- กรอบช่องแอร์
- แผงคอนโซลกลางบริเวณคันเกียร์
- ที่วางแก้ว
- แผงข้างประตู
- เบาะนั่งดีไซน์พิเศษ เบาะนั่งถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรุ่นนี้ โดยมีการเดินด้ายสีบรอนซ์เพื่อสร้างความสวยงามและเข้าชุดกับการตกแต่งส่วนอื่นๆ ของห้องโดยสาร
- แผงคอนโซลและวัสดุตกแต่ง แผงคอนโซลหน้าและส่วนอื่นๆ มักจะใช้โทนสีเข้มเพื่อขับให้รายละเอียดสีบรอนซ์ดูโดดเด่นขึ้น วัสดุที่ใช้อาจมีการปรับเปลี่ยนให้มีพื้นผิวหรือคุณภาพที่ดูดีกว่ารุ่นปกติ
- สัญลักษณ์ “Raffine” อาจมีสัญลักษณ์หรือป้ายชื่อรุ่น “Raffine” ปรากฏอยู่บนพรมปูพื้นหรือส่วนอื่นๆ เพื่อบ่งบอกถึงความพิเศษของรุ่นนี้
ระบบความปลอดภัยของ Toyota Aqua (รวมถึงรุ่นพิเศษ Raffine)
Toyota Aqua มาพร้อมกับชุดระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ทันสมัยและครอบคลุม ภายใต้แพ็คเกจ Toyota Safety Sense (TSS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ โดยรุ่นพิเศษ “Raffine” จะมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานเช่นเดียวกับรุ่นมาตรฐานที่ใช้เป็นพื้นฐานในการตกแต่ง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะประกอบด้วยระบบหลักๆ ดังนี้:
ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety)
-
Toyota Safety Sense (TSS)
- Pre-Collision System (PCS): ระบบความปลอดภัยก่อนการชน ทำงานผ่านเรดาร์และกล้องเพื่อตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนด้านหน้า เมื่อประเมินว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและช่วยเบรก หรือเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
- Lane Departure Alert (LDA) with Steering Assist: ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ เมื่อรถเริ่มเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ระบบจะส่งเสียงเตือนและอาจมีระบบช่วยหน่วงพวงมาลัยกลับเข้ามาในเลน
- Automatic High Beams (AHB): ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ จะปรับไฟสูงเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนมาหรือมีรถอยู่ด้านหน้า เพื่อไม่ให้แสงไฟไปรบกวนผู้ร่วมทาง
- Full-Speed Range Radar Cruise Control: ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน โดยจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม ตั้งแต่ช่วงความเร็วต่ำจนถึงความเร็วสูง และสามารถเบรกจนหยุดนิ่งตามรถคันหน้าได้
-
ระบบเสริมความปลอดภัยอื่นๆ
- Panoramic View Monitor (PVM): กล้องมองภาพรอบคัน ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวรถแบบ 360 องศา ทำให้การจอดรถในที่แคบหรือการขับในซอยเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น (อาจเป็นออปชันเสริมในบางรุ่นย่อย)
- Intelligent Clearance Sonar (Parking Support Brake): ระบบช่วยเบรกขณะถอยจอด โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุสิ่งกีดขวาง หากผู้ขับขี่เหยียบคันเร่งผิดพลาดหรือเข้าใกล้วัตถุมากเกินไป ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติเพื่อป้องกันการชน
- ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC – Vehicle Stability Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC – Traction Control System)
- ระบบเบรก ABS / EBD / BA
ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive Safety)
- ถุงลมนิรภัย (SRS Airbags) ติดตั้งในตำแหน่งสำคัญรอบห้องโดยสาร เช่น ถุงลมคู่หน้า, ถุงลมด้านข้าง, และม่านถุงลมนิรภัย เพื่อปกป้องผู้โดยสารจากการกระแทก
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA (Global Outstanding Assessment) ออกแบบมาให้มีความแข็งแกร่งและสามารถดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความรุนแรงที่ส่งผลถึงห้องโดยสาร