“ดีเซลนับถอยหลัง! โตโยต้าออสเตรเลียชี้ อีก 10 ปี ไฮโดรเจนมาแทน”

ดีเซลยังมีเวลาอีก 10 ปี ก่อนถูกแทนที่ด้วย “ไฮโดรเจน” – มุมมองจาก Toyota Australia
ดีเซลยังไม่ตาย แต่เริ่มนับถอยหลัง
ในออสเตรเลีย ดีเซลไม่ใช่แค่เชื้อเพลิง แต่เป็น “วัฒนธรรม” ของคนใช้รถ โดยเฉพาะรถกระบะและออฟโรดที่ต้องการแรงบิดสูงและวิ่งทางไกล เช่น Toyota HiLux, LandCruiser และ Prado จนถึงวันนี้เกือบ ครึ่งหนึ่งของยอดขายโตโยต้าในประเทศยังเป็นดีเซล (48.4%)
แต่ Sean Hanley ผู้บริหารโตโยต้าออสเตรเลียมองว่า ดีเซลยังอยู่ต่อได้ในทศวรรษนี้ (ถึงปี 2035 ราว ๆ นั้น) แต่หลังจากนั้นจะค่อย ๆ เสื่อมบทบาท เพราะ “รถเบนซินทำได้ทุกอย่างเท่าดีเซล และบางอย่างก็ทำได้ดีกว่า”
ทำไมดีเซลถึงยังอยู่ต่อไปได้อีกพักใหญ่?
-
การใช้งานจริง – รถกระบะ, SUV ออฟโรด, รถตู้, รถบัส ยังต้องการพลังงานแบบดีเซลที่เหมาะกับการบรรทุกหนักและวิ่งไกล
-
โครงสร้างพื้นฐาน – สถานีเติมน้ำมันดีเซลมีอยู่แล้วทั่วประเทศ ต่างจากไฮโดรเจนที่ยังต้องลงทุนหนัก
-
วัฒนธรรมและความเชื่อมั่น – ชาวออสซี่เชื่อใจเครื่องดีเซลในงานสมบุกสมบัน “วิ่งไปชนทะเลทรายหรือขึ้นภูเขาก็มั่นใจว่าเอาอยู่”
การเปลี่ยนแปลงของโตโยต้าในออสเตรเลีย
-
ปี 2024 โตโยต้าประกาศ เปลี่ยนรถเก๋งและ SUV สำหรับเมืองทั้งหมดให้เป็นไฮบริด เหลือเพียงรถ GR (สปอร์ต) ที่ยังเป็นเบนซินแท้
-
RAV4 กลายเป็นรถขายดีที่สุดแทน HiLux เพราะขายเฉพาะ ไฮบริด
Advertisement Advertisement -
รุ่นอนาคต:
-
RAV4 PHEV จะมาในปี 2026
-
LandCruiser 300 Series เตรียมมีรุ่นไฮบริดเสริม (จากเดิมที่มีแต่ดีเซล)
-
นี่คือก้าวสำคัญที่สะท้อนว่า โตโยต้ากำลัง “ค่อย ๆ ถอนตัวจากดีเซลในตลาดรถนั่ง”
อนาคต: ไฮโดรเจนจะมาแทนดีเซล
แฮนลีย์เชื่อว่าในช่วงปี 2030–2035 ไฮโดรเจนจะเป็นคำตอบที่แท้จริง เพราะ:
-
สะอาด ไม่มีมลพิษจากท่อไอเสีย
-
ระยะทางไกล เทียบชั้นดีเซล
-
โครงสร้างพื้นฐาน จะถูกสร้างจนเพียงพอ
-
สะดวกและราคาเข้าถึงได้
โตโยต้าลงทุนกับไฮโดรเจนต่อเนื่อง:
-
นำ Mirai FCEV เข้ามาทดลองตั้งแต่ปี 2020
-
ผลิต HiLux FCEV ทดลองในอังกฤษ 10 คัน ปี 2024
-
พัฒนา HiAce ไฮโดรเจนต้นแบบ ให้สื่อออสเตรเลียทดสอบในปี 2023
แม้ยังไม่มีรุ่นขายจริง แต่ชัดเจนว่า “นี่คือการปูทางสู่อนาคต”
ทำไมออสเตรเลียเหมาะกับไฮโดรเจน?
-
เป็นประเทศที่มี ทรัพยากรไฮโดรเจนและพลังงานหมุนเวียนมาก
-
พื้นที่กว้างใหญ่ ต้องการเชื้อเพลิงที่ วิ่งไกลกว่า EV แบตเตอรี่ทั่วไป
-
รัฐบาลและอุตสาหกรรมพลังงานเริ่มลงทุนใน Hydrogen Hub เพื่อเป็นศูนย์กลางส่งออกและใช้งานจริง
มุมมองปิดท้าย
ดีเซลจะยังไม่หายไปในทันที เพราะยังจำเป็นสำหรับ “งานหนัก” และ “วัฒนธรรมการใช้รถ” ในออสเตรเลีย แต่ชัดเจนว่าโตโยต้ากำลังค่อย ๆ เบนเข็มไปสู่ ไฮบริด และไฮโดรเจน
-
10 ปีจากนี้ ดีเซลยังอยู่คู่ HiLux และ LandCruiser
-
หลังปี 2035 ไฮโดรเจนจะเริ่มแทนที่จริงจัง
นี่อาจเป็น “บทเรียน” ที่น่าสนใจสำหรับตลาดอื่น ๆ รวมถึง ประเทศไทย ที่ยังพึ่งพาดีเซลในรถกระบะและ SUV ขนาดใหญ่ ว่าอนาคตอาจไม่ได้มีแค่ EV แบตเตอรี่ แต่ “ไฮโดรเจน” ก็กำลังรอจังหวะก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกเช่นกัน