
Toyota bZ4X รถยนต์ไฟฟ้า ในประเทศญี่ปุ่น ประกาศบริการปล่อยเช่าในญี่ปุ่นผ่าน KINTO ของโตโยต้า โดยเปิดรับคำเช่าในวันที่ 26 ตุลาคม 2022 นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมเพียงครั้งเดียวลงครึ่งหนึ่งเมื่อลงนามในสัญญาเช่า
โตโยต้าเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวสำหรับการทำสัญญาเช่า 770,000 เยน หรือ 197,000 บาท และ ค่าเช่ารายเดือน เดือนละ 27,700 บาทในช่วงสี่ปีแรกของสัญญา 10 ปี หากเริ่มลงทะเบียนในสัปดาห์นี้ จะลดลง 385,000 เยน หรือ 98,900 บาท ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรายเดือนลดลงเล็กน้อย 1,100 เยน หรือเพยีง 282 บาท
ในรุ่นมอเตอร์คู่ AWD จะมีค่าแรกเข้าเท่ากัน แต่รายเดือนละเพิ่มเป็น 115,500 เยน หรือ 29,000 บาทต่อเดือน
ลูกค้าที่ลงทะเบียนล่วงหน้าจะได้รับส่วนลดด้วยเช่นกัน Shinya Kotera ประธาน Kinto กล่าว ในขั้นต้น Toyota ตั้งเป้าที่จะให้เช่ารถ SUV ไฟฟ้า bZ4X จำนวน 5,000 คันในปีงบประมาณปัจจุบัน แต่ผู้บริหาร Kinto กล่าวว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุผลสำเร็จ เพราะลูกค้าชาวญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับไฮบริดมากกว่า
อย่างไรก็ตามลูกค้าสามารถยกเลิก และ ขอคืนรถได้ในสัญญาปีที่ 5 เป็นต้นไปโดยไม่เสียค่ายยกเลิกสัญญา สำหรับการเช่ารถ KINTO จะรวมค่าเช่า ค่าดูแล ค่าต่อภาษา ประกันภัย ค่าประกันแบตเตอรี่ ตลอดอายุสัญญา หรือเรียกง่ายๆว่า แค่จ่าย และขับไม่ต้องดูแล หากรวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว รวมทั้งราคารถยนต์ไฟฟ้า bZ4X จะมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2.4 ล้านบาท
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นจะเสนอโปรแกรมการดูแลรับประกันว่าแบตเตอรี่ 70% ของความจุเดิมหลังจาก 10 ปีหรือ 1 ล้านกม. ตราบใดที่ลูกค้านำรถไปที่ศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับอนุญาตปีละครั้ง
รุ่น FWD version มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว FWD
รุ่น AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่
ระบบช่วงล่าง
bZ4X จะเป็นรุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ใหม่ของโตโยต้า นอกจากนี้ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกที่ผลิตโดยการขยายความร่วมมือระหว่างโตโยต้า และ ซูบารุ เราคาดว่า SUV จะนำเสนอมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาทั้งสองเพื่อรองรับความสามารถในการขับเคลื่อนทุกล้อ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18-20 นิ้ว ขนาดตัวถัง
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมหน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาดใหญ่ พร้อมระบบ Audio Multimedia เหมือนกับ 2022 Tundra รองรับระบบนำทางบนคลาวด์ และการอัปเดตแบบ over-the-air แผงหน้าปัดแบบลอย พวงมาลัย 3 ก้าน หลังคาซันรูฟขนาดใหญ่ ภายในห้องโดยสาร ภายใต้แนวคิด ” hands on the wheel, eyes on the road ” เน้นสีการออกแบบสบายตา วัสดุนุ่มเน้นการสัมผัสที่ดี ติดตั้งหน้าจอดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้วพร้อมคำสั่งเสียง มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ 452 ลิตร ระบบความปลอดภัย ติดตั้ง Toyota Safety Sense เจนที่ 3 พร้อม ระบบเรดาร์กับกล้อง รวมทั้ง Pre-Collision System ระบบช่วยตรวจจับรถยนต์ หรือ ยานยนต์ที่กำลังปาดหน้าอย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ระบบช่วงล่าง ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ Strut-type Coil Spring ด้านหลังเป็นแบบอิสระ Double Wishbone-type Coil Spring และ ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน (Ventilated Disc) ทั้ง 4 ล้อ ระบบบังคับเลี้ยวแบบ One Motion Grip หรือพวงมาลัยไฟฟ้า Steering by Wire สามารถลดองศาพวงมาลัยเหลือเพียง 150 องศา ทำให้เลี้ยวได้สุด lock-to-lock
ที่มา: Reuters