ยืนยันขายพวงมาลัยขวา ปี 2027 ในออสเตรเลีย TOYOTA C-HR EV ใหม่

ยืนยันขายพวงมาลัยขวา ปี 2027 ในออสเตรเลีย TOYOTA C-HR EV ใหม่
Spread the love
Advertisement Advertisement

insideev

ยืนยันแล้ว! Toyota C-HR EV รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ เตรียมขายออสเตรเลียกลางปี 2027 ราคาต่ำกว่า bZ4X

โตโยต้า ออสเตรเลีย ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่า รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Toyota C-HR EV (Electric Vehicle) จะเปิดตัวเข้าสู่โชว์รูมภายในช่วง กลางปี 2027 โดยมีจุดเด่นคือ “ราคาถูกกว่า” SUV ไฟฟ้ารุ่นพี่อย่าง Toyota bZ4X ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ที่จำหน่ายอยู่ในออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2024

การมาของ C-HR EV ถือเป็นก้าวต่อไปของโตโยต้าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม หลังจากเริ่มต้นด้วย bZ4X และเตรียมเพิ่มรุ่นย่อย bZ4X Touring เข้ามาในครึ่งปีแรกของปี 2026 เพื่อขยายทางเลือกให้ลูกค้า

ขุมพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พร้อมสมรรถนะเหนือรุ่นไฮบริด

Toyota Australia ยืนยันว่า C-HR EV สำหรับตลาดออสเตรเลียจะมาพร้อมขุมพลัง มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า 165 กิโลวัตต์ (ประมาณ 224 แรงม้า) และแรงบิด 269 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ 74.7 kWh

ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า ระยะทางวิ่ง (ตามมาตรฐาน WLTP) จะอยู่ในระดับ 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งเทียบเท่าระดับ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางหลายรุ่นในยุโรป

ระบบชาร์จรองรับไฟบ้าน (AC) กำลัง 11 kW และรองรับชาร์จเร็ว (DC) สูงสุด 150 kW ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ที่จำหน่ายในตลาดยุโรปจะรองรับไฟ AC ถึง 22 kW

ห้องโดยสารล้ำยุค พร้อมเทคโนโลยี Connected Services

ภายในห้องโดยสารของ Toyota C-HR EV ถูกออกแบบให้ทันสมัยและเน้นความล้ำสมัยมากกว่ารุ่นไฮบริด โดยติดตั้ง

  • หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว

  • รองรับการเชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay / Android Auto

  • พร้อมระบบ Toyota Connected Services ที่สามารถติดตามสถานะรถ ตรวจสอบระยะทาง หรือค้นหารถผ่านแอปฯ ได้แบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ โตโยต้ายังเน้นว่าความรู้สึกภายในจะผสมผสานระหว่าง “เทคโนโลยี” และ “ความอบอุ่น” ของดีไซน์ยุโรป ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับรถรุ่นใหม่อย่าง Prius และ bZ4X

พื้นฐานใหม่ e-TNGA แยกจากรุ่นไฮบริดเดิม

C-HR EV พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-TNGA (Electric Toyota New Global Architecture) ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกับรถไฟฟ้าในเครือ เช่น

  • Toyota bZ4X
  • Lexus RZ
  • Subaru Solterra

โดยมีการปรับสัดส่วนให้ “ยาวกว่า” รุ่นไฮบริดถึง 160 มิลลิเมตร เพื่อรองรับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ขณะที่ C-HR Hybrid ยังคงใช้โครงสร้าง TNGA-C เหมือนเดิม

ผลิตจากตุรกี ฐานเดียวกับรถส่งออกยุโรป

C-HR EV ที่จะขายในออสเตรเลียจะ ผลิตจากโรงงานโตโยต้าประเทศตุรกี (Toyota Motor Manufacturing Turkey) ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของ C-HR เจเนอเรชันที่ 2 ทั้งรุ่น Hybrid และ EV ที่ส่งออกไปยุโรปและสหราชอาณาจักร

ก่อนหน้านี้ โตโยต้าได้ย้ายการผลิต C-HR จากญี่ปุ่นมายังตุรกีตั้งแต่ปี 2024 เพื่อให้ใกล้ตลาดหลักในยุโรปมากขึ้น และเพื่อให้สายการผลิตสามารถรองรับเทคโนโลยีไฟฟ้าเต็มรูปแบบได้

เทียบสเปกตลาดสหราชอาณาจักร

ในสหราชอาณาจักร Toyota เปิดรับจอง C-HR EV ตั้งแต่ต้นปี 2026 โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย

  • รุ่นเริ่มต้น (FWD) : แบตเตอรี่ 57.7 kWh, มอเตอร์ 123 kW 167 PS หรือ, ระยะทางวิ่ง 456 กม., 0–100 กม./ชม. ใน 8.4 วินาที
  • รุ่นกลาง (FWD 165 kW หรือ 224 PS) : แบตเตอรี่ 77 kWh, ระยะทางวิ่ง 609 กม., 0–100 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที
  • รุ่น AWD (252 kW หรือ 342 PS ) : มอเตอร์คู่ หน้า 269 Nm + หลัง 170 Nm, ระยะทางวิ่ง 546 กม., 0–100 กม./ชม. ใน 5.2 วินาที
  • ซึ่งคาดว่า รุ่นกลาง 165 kW หรือ 224 PS จะเป็นสเปกเดียวกับตลาดออสเตรเลีย

ความคิดเห็นจากผู้บริหาร Toyota Australia

นาย ฌอน แฮนลีย์ (Sean Hanley) รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของโตโยต้าออสเตรเลีย กล่าวว่า

“นี่คือการพัฒนาตามธรรมชาติจากเครื่องยนต์ไฮบริดสู่รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และมันอยู่ในแผนการผลิตของเราอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสนำเข้ามา เราก็ไม่ลังเลที่จะทำ”

พร้อมเสริมว่า ดีไซน์ที่โดดเด่นของ C-HR มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจนำเข้ามาจำหน่าย

“C-HR มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ชื่นชอบ และดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตา ทำให้แตกต่างจากรถทั่วไปในตลาด”

ราคาในออสเตรเลีย และเทียบเป็นเงินบาท

รุ่น ราคา (AUD) ประมาณ (บาท)
C-HR Hybrid GXL 45,440 959,800 บาท
C-HR Hybrid GR Sport 57,390 1,211,000 บาท
bZ4X (เริ่มต้น) 66,000 1,395,000 บาท
C-HR EV (คาดการณ์) 57,000–66,000 1.20–1.39 ล้านบาท

ซึ่งหมายความว่า C-HR EV จะเข้ามาอยู่ในช่องว่างราคาพอดีระหว่างรุ่นไฮบริดท็อปกับ bZ4X รุ่นเริ่มต้น

ภาพรวมและแนวโน้มตลาด

การเปิดตัว C-HR EV ถือเป็นหมากสำคัญของโตโยต้าในการผลักดันกลยุทธ์ “Multipath Electrification” หรือ “หลากหลายเส้นทางสู่พลังงานไฟฟ้า” ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกได้ระหว่าง Hybrid (HEV), Plug-in Hybrid (PHEV), และ Battery EV (BEV)

ตลาดออสเตรเลียกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่รถพลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง โดยโตโยต้ายังคงครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดด้วยรถ Hybrid แต่การมาของ C-HR EV จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มรถไฟฟ้าได้อย่างมั่นคง

carexpert

Toyota C-HR BEV ใหม่หมดจด ปี 2026 SUV ไฟฟ้า 100% สไตล์คูเป้ สมรรถนะจัดจ้าน 338 แรงม้า วิ่งไกลสูงสุด 467 กม. ต่อชาร์จ EPA ในสหรัฐฯ

PLANO, TEXAS – 14 พฤษภาคม 2025 – โตโยต้าเปิดตัว Toyota C-HR BEV ปี 2026 รถ SUV ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มระบบ ที่มาพร้อมแรงม้ารวมสูงสุด 338 แรงม้า อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายในประมาณ 5 วินาที พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และวิ่งได้ไกลสูงสุด 290 ไมล์ (ประมาณ 467 กม.) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามการประมาณของผู้ผลิต)

จุดเด่นสำคัญ:

  • แบตเตอรี่ขนาด 74.7 kWh พร้อมระบบชาร์จเร็ว DC (NACS) ชาร์จ 10–80% ในราว 30 นาที*
  • ติดตั้งแพลตฟอร์ม e-TNGA พร้อมช่วงล่างจูนพิเศษ
  • หน้าจอกลาง 14 นิ้ว พร้อมระบบ Toyota Audio Multimedia
  • ระบบเบรกแบบ regenerative brake ปรับระดับได้ 4 ระดับด้วย Paddle Shift
  • ห้องโดยสารหรู มีวัสดุสัมผัสนุ่ม, เบาะ SofTex และหนังสังเคราะห์
  • ที่เก็บสัมภาระท้ายสูงสุด 25.4 ลูกบาศก์ฟุต (718 ลิตร)
  • มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย: SE และ XSE

ขนาดตัวถัง

  • ความยาว: 177.9 นิ้ว (4,520 มม.)
  • ความกว้าง: 73.6 นิ้ว (1,870 มม.)
  • ความสูง: 63.8 นิ้ว (1,620 มม.)
  • ระยะฐานล้อ: 108.3 นิ้ว (2,750 มม.)

ขุมพลังและระบบขับเคลื่อน

  • มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง (AWD)
  • แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 74.7 kWh วิ่งได้ 467 กม./ชาร์จ
  • รองรับชาร์จ DC 150kW 10-80% ภายใน 30 นาที
  • ชาร์จ AC 11kWh และ 22kW
  • ระบบพรีคูลแบตเตอรี่ก่อนชาร์จเร็วในอากาศเย็น

ความสะดวกสบายภายใน

  • เบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (ผู้ขับ), รุ่น XSE เพิ่มปรับไฟฟ้าฝั่งผู้โดยสาร
  • ที่ชาร์จมือถือไร้สาย 2 จุด, USB-C 3 จุด
  • ระบบแอร์พร้อมควบคุมแยกหลัง
  • หลังคาพาโนรามา (XSE)

รุ่น SE:

  • ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
  • เบาะผ้า + SofTex, พวงมาลัย/เบาะหน้ามีระบบทำความร้อน
  • ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0, ระบบช่วยจอดหน้า/หลัง
  • หน้าจอ 14 นิ้ว พร้อมระบบมัลติมีเดีย Toyota Audio
  • Blind Spot Monitor + Rear Cross Traffic Alert

รุ่น XSE (เพิ่มเติมจาก SE):

  • ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลาย Gun Metal
  • เบาะ SofTex + หนังกลับสังเคราะห์, ระบบความจำเบาะผู้ขับ
  • กระจกหลังดิจิทัล, กล้องรอบคัน
  • ระบบช่วยเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยขับขี่ขณะจราจรติดขัด

ระบบความปลอดภัย

  • Toyota Safety Sense 3.0 ประกอบด้วย:

    Advertisement Advertisement
    • ระบบเตือนการชนและเบรกอัตโนมัติ (PCS w/PD)
    • ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน (DRCC)
    • ระบบช่วยรักษาช่องทาง (LTA + LDA w/SA)
    • ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร (RSA)
    • ไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
    • ระบบ Proactive Driving Assist (PDA)
  • ระบบแจ้งเตือนเปิดประตูไม่ปลอดภัย (Safe Exit Alert)
  • ระบบเบรก ABS, EBD, BA, VSC, TRC และ Smart Stop

การเชื่อมต่อและระบบอินโฟเทนเมนต์

  • หน้าจอสัมผัส 14 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay®/Android Auto™ ไร้สาย
  • ระบบเสียง JBL 9 ลำโพง (ออปชัน)
  • Wi-Fi Hotspot (4G/สูงสุด 5 อุปกรณ์)
  • Streaming จาก Apple Music และ Amazon Music
  • แอป Toyota รองรับ Remote Climate, Remote Charging และการหาสถานีชาร์จ

รับประกันและบริการ

  • รับประกันทั่วไป 3 ปี / 57,936 กม.
  • รับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 8 ปี / 160,000 กม.
  • ToyotaCare: ฟรีค่าแรงบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 40,000 กม. + บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ปี

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้