ทุกๆ 1 คันในการขาย Xiaomi Auto ขาดทุน 29,543 บาท ในไตรมาสแรก ส่งมอบรวม 258,000 คัน

ทุกๆ 1 คันในการขาย Xiaomi Auto ขาดทุน 29,543 บาท ในไตรมาสแรก ส่งมอบรวม 258,000 คัน
Spread the love

Advertisement

Advertisement

เสียวหมี่เผยรายงานการเงินไตรมาสแรกปี 2025 ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าก้าวหน้าอย่างชัดเจน

เสียวหมี่กรุ๊ปเผยรายงานการเงินประจำไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมีความคืบหน้าที่โดดเด่นในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า โดยสามารถส่งมอบรถยนต์ซีรีส์ SU7 ได้จำนวน 75,869 คัน ภายในไตรมาสเดียว และมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม ซึ่งยอดส่งมอบสะสมของ SU7 นั้นทะลุ 258,000 คัน แล้ว

ในไตรมาสแรกของปี 2025 ธุรกิจ “ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะและนวัตกรรม AI” ของเสียวหมี่สร้างรายได้รวม 18.6 พันล้านหยวน (ประมาณ 84,537 ล้านบาท) โดยรายได้จากการขายรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 18.1 พันล้านหยวน (ประมาณ 82,264 ล้านบาท) และรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ อยู่ที่ 500 ล้านหยวน (ประมาณ 2,272.5 ล้านบาท)

อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและ AI อยู่ที่ 23.2% แต่ยังคงขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 500 ล้านหยวน (ประมาณ 70 ล้านดอลลาร์) ซึ่งหากคำนวณเฉลี่ยแล้ว ธุรกิจ EV ของเสียวหมี่ขาดทุน 6,500 หยวนต่อคัน (ประมาณ 29,543 บาท) ในไตรมาสแรก ซึ่งถือว่าดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับปี 2024 ที่บริษัทขาดทุนรวม 6.2 พันล้านหยวน (ประมาณ 28,179 ล้านบาท) จากยอดส่งมอบ 136,854 คัน หรือเฉลี่ยขาดทุนถึง 45,000 หยวนต่อคัน (ประมาณ 204,525 บาท)

Xiaomi SU7

ประธานกลุ่มและพาร์ตเนอร์ของเสียวหมี่ “หลู่ เหว่ยปิง” อธิบายว่า ธุรกิจรถยนต์ของเสียวหมี่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ยังไม่ถึงจุดที่สามารถใช้ประโยชน์จากขนาดธุรกิจ (economies of scale) ได้เต็มที่ การลงทุนเริ่มต้นที่สูงโดยเฉพาะจากการสร้างโรงงานเองและการพัฒนาเทคโนโลยีหลักของตัวเองเป็นเหตุให้เกิดการขาดทุนในช่วงแรก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของอุตสาหกรรมนี้ โดยเขาคาดว่าเมื่อปริมาณส่งมอบเพิ่มขึ้น ต้นทุนเฉลี่ยต่อคันจะลดลง และมีแนวโน้มสูงที่จะถึงจุดคุ้มทุนหรือเริ่มมีกำไรในไตรมาส 2 ของปี 2025

Xiaomi SU7 Ultra

แนวโน้มของรุ่น SU7 Ultra ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด ได้รับความต้องการสูงมาก ซึ่งช่วยหนุนให้ธุรกิจยานยนต์มีโอกาสพลิกฟื้นในไตรมาสถัดไป

Xiaomi YU7

ในระหว่างการประชุมรายงานผลประกอบการ “หลู่ เหว่ยปิง” ยังกล่าวถึงกระแสตอบรับเชิงบวกของตลาดต่อ Xiaomi YU7 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ โดยระบุว่าหลังจากงานเปิดเทคโนโลยีของ YU7 มียอดผู้ให้ข้อมูลติดต่อกลับสูงกว่ารุ่น SU7 ถึง 3 เท่า ในช่วงเวลาเดียวกัน

“YU7 ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มกว้างกว่ารุ่น SU7 และเรามั่นใจอย่างยิ่งในศักยภาพของรุ่นนี้” – หลู่ เหว่ยปิง กล่าว

Xiaomi YU7 มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน เดือนกรกฎาคม ปีนี้ โดยมีข่าวลือว่าราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 245,900 หยวน (ประมาณ 1.18 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าตั้งราคามาแข่งกับ Tesla Model Y รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่มีราคาเริ่มต้น 263,500 หยวน (ประมาณ 1.19 ล้านบาท) สำหรับรุ่น Standard Range และ 313,500 หยวน (ประมาณ 1.42 ล้านบาท) สำหรับรุ่น Long Range ขับเคลื่อนสี่ล้อ.

สาเหตุการขาดทุน

  • การลงทุนระยะเริ่มต้นสูง (Heavy Initial Investment): Xiaomi ลงทุนสร้างโรงงานประกอบเอง (self-built factories) และพัฒนาเทคโนโลยีหลัก (proprietary core technologies) เช่น แพลตฟอร์มรถยนต์, ระบบขับเคลื่อน, ซอฟต์แวร์ ฯลฯ ซึ่งต้องใช้ต้นทุนสูงมากในช่วงแรก

  • ยังไม่ถึงขนาดเศรษฐกิจ (Lack of Economies of Scale):แม้จะส่งมอบได้มากขึ้น แต่จำนวนผลิตยังไม่มากพอที่จะลดต้นทุนต่อหน่วยได้แบบชัดเจน เช่น ต้นทุนชิ้นส่วนยังสูง ค่าใช้จ่ายต่อคันยังเฉลี่ยไม่ต่ำพอ

  • ต้นทุนคงที่สูง (High Fixed Costs): ค่าบำรุงโรงงาน, ค่าวิจัยพัฒนา, ค่าบุคลากรเชี่ยวชาญ และค่าใช้จ่ายทางการตลาด ล้วนเป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องแม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นไม่ทัน

  • การจัดสรรต้นทุนต่อคัน (Cost Allocation Per Unit): การจัดสรรต้นทุนต่าง ๆ ยังสูงอยู่ ทำให้เฉลี่ยแล้วขาดทุนราว 6,500 หยวนต่อคัน (แม้จะลดลงจากปี 2024 ที่เคยขาดทุน 45,000 หยวนต่อคัน)

  • การทำราคาแข่งขันในตลาด (Aggressive Pricing Strategy): เสียวหมี่ตั้งราคาขาย SU7 ค่อนข้างดุเดือดเพื่อแข่งขันกับ Tesla และแบรนด์จีนอื่น ๆ ทำให้กำไรต่อหน่วยต่ำหรือแทบไม่มี ต้องอาศัยปริมาณขายเพื่อชดเชย

Xiaomi SU7 ราคาเริ่ม 966,000 บาทในประเทศจีน 700 – 830 กม./ชาร์จ CLTC

carnewschina

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้