Advertisement

Advertisement

Xiaomi ยืนยัน เตรียมสร้างรถยนต์ขับขี่อัจฉริยะ ระดับ L4

Xiaomi ยืนยัน เตรียมสร้างรถยนต์ขับขี่อัจฉริยะ ระดับ L4

Advertisement

Advertisement

เมื่อเดือน มีนาคมของปีนี้ Lei Jun ประกาศอย่างเป็นทางการในงานแถลงข่าวว่าเขาจะเข้าสู่วงการยานยนต์ และ สร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าบนโลโก้ของ Xiaomi และพร้อมลงทุนกว่า 64,700 ล้านหยวน หรือประมาณ 327,100 ล้านบาท ในอีก 10 ปีข้างหน้า

Xiaomi ได้วางโครงการรถยนต์ไว้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีแผนที่พร้อมผลิตจริงๆในเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อนาย Lei Jun CEO ของ Xiaomi ได้โพสต์โพสต์ใน Weibo ตอนเที่ยงของวันนี้ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Xiaomi ได้เริ่มรับสมัคร บุคคลที่มีความสามารถในการพัฒนารถยนค์ขับขี่อัตโนมัติระดับ L4

โดยจะคัดเลือกช่างเทคนิค ระบบขับขี่อัตโนมัติชุดแรกจำนวน 500 คน เป็นอันดับแรก

ในเวลาเดียวกัน ข่าวดังกล่าวยังระบุด้วยว่าคนในของ Jianghuai Automobile กล่าวว่า Jianghuai Automobile อาจทำสัญญากับ Xiaomi Automobile และ รถยนต์รุ่นแรกของ Xiaomi อาจมีราคาต่ำกว่า 200,000 หยวน หรือ 1 ล้านบาท

Lei Jun กล่าวว่า “ตามหลักเหตุผลแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะและ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคก็เป็นสิ่งเดียวกัน Xiaomi จะไม่มีวัน ทำไม่ได้ และมันเป็นอุปสรรคที่ท้าทายของแบรนด์ ในการสร้างรถยนต์อัจฉริยะ “

Autopilot มี 5 ระดับ ได้แก่

  • ระดับ 1 จะมีระบบอัตโนมัติ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น การบังคับเลี้ยวหรือการเร่งและรักษาคุมความเร็วคงที่ รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งสามารถควบคุมยานพาหนะไว้ในระยะที่ปลอดภัยต่ออุบัตเหตุ ซึ่งคุณสมบัติ Level 1 ยังต้องการวิจารณญาณของมนุษย์คนขับ ตรวจสอบการใช้ฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ร่วมด้วย
  • ระดับ 2 จะมีระบบ ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวอัตโนมัติคู่กับระบบความคุมอัตรเร่งและปรับความเร็วให้ทำงานประสานกันผ่านกลไกการควบคุมที่ซับซ้อน… ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทุกค่ายล้วนใส่เงินไปกับการวิจัยระบบ ADAS ต่อเนื่องมานาน ซึ่งระบบ ADAS ที่มีชื่อเสียงและสอบผ่านมาตรฐาน Level 2 รุ่นแรกๆ จนได้ทดสอบ
  • ระดับ 3 จะมีความสามารถในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเช่น การเร่งแซงรถที่ช้า แต่ระบบก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ แม้มนุษย์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งถือพวงมาลัย… แต่ผู้ขับขี่จะต้องตื่นตัวและพร้อมที่จะเข้าควบคุมทันทีหากระบบผิดพลาด ซึ่งส่วนใหญ่ระบบจะออกแบบให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา และหาก Condition หรือเงื่อนไขการทำงานในระบบผิดพลาด… รถจะมีฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ติดมาด้วย
  • ระดับ 4 ไม่ต้องมีมนุษย์คอยช่วยเหลือในยามเข้าตาจนเหมือน Level 3 อีกเลย แม้จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นทั้งในระบบและสภาพแวดล้อมภายนอก หรือแม้แต่เกิดขัดข้องขึ้น พาหนะ Level 4 ก็จะจัดการความผิดปกติและบกพร่องทั้งหลายได้เอง โดยพึ่งพาและปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะผู้โดยสาร มากกว่าจะพึ่งพามนุษย์ในฐานะผู้ควบคุมปกป้องความผิดพลาด พาหนะ Level 4 สามารถทำงานในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง หรือ Self-Driving Mode ได้อย่างสมบูรณ์
  • ระดับ 5 ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากมนุษย์อีก เพราะระบบจะทำงาน Dynamic Driving Task เต็มประสิทธิภาพ เทียบเท่าระดับเดียวกับหรือดีกว่ามนุษย์ที่มีทักษะการขับรถยอดเยี่ยมที่สุด… พาหนะ Level 5 จึงไม่มีแม้แต่พวงมาลัย แป้นเหยียบคันเร่งและแป้นเบรก ทำให้พาหนะ Level 5 เป็น Fully Autonomous Cars ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จของการพัฒนายานพาหนะบนผิวพื้นยุคต่อไป… ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า กฏหมายและโครงสร้างพื้นฐานของ Smart City

mydrivers.com

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้