จีนสั่งลุย! รถราชการใหม่ต้องเป็น “รถไฟฟ้า” ผลิตโดยจีนเท่านั้น ห้ามเปลี่ยนรถเพราะเลื่อนตำแหน่ง

สรุปนโยบายจีนเกี่ยวกับรถราชการ (พ.ค. 2025)
-
รถราชการต้องจัดซื้อรวมศูนย์
- เน้นใช้ รถยนต์ผลิตในประเทศ
- ให้ความสำคัญกับรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV)
-
ห้ามเปลี่ยนรถเพราะเลื่อนตำแหน่ง
-
รถต้องใช้งานจนถึงอายุที่กำหนด แม้เจ้าหน้าที่จะย้ายงานหรือเลื่อนตำแหน่งก็ตาม
-
-
ค่าประกัน/ซ่อม/เติมน้ำมัน จัดซื้อรวมศูนย์
-
เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน
-
-
เป้าหมายรถใหม่ต้องเป็น NEV ไม่น้อยกว่า 30%
-
รถที่ใช้ในเขตเมือง เส้นทางประจำ เช่น รถสื่อสารลับ ต้องใช้ NEV 100%
-
-
หากเช่ารถ ให้เน้นเช่า NEV ก่อน
เน้นขับเคลื่อนการใช้งาน NEV ในภาครัฐอย่างจริงจังทั่วประเทศ เพื่อช่วยลดมลพิษ ประหยัดพลังงาน และส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีน
วันที่ 19 พฤษภาคม – คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรีจีน (国务院) ได้ประกาศใช้ “ระเบียบว่าด้วยการประหยัดและต่อต้านความฟุ่มเฟือยในหน่วยงานพรรคและรัฐ” ฉบับแก้ไขใหม่ (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ระเบียบ”) และได้ออกหนังสือเวียนสั่งการให้ทุกภูมิภาคและหน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติตามอย่างจริงจัง
สาระสำคัญจากระเบียบข้อที่ 29:
-
รถยนต์ราชการต้องจัดซื้อโดยรัฐบาลแบบรวมศูนย์
-
เน้นใช้รถยนต์ที่ผลิตในประเทศ
-
ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) เป็นลำดับแรก
-
-
การเปลี่ยนรถราชการต้องเป็นไปตามอายุการใช้งานที่กำหนดไว้
-
หากยังใช้งานได้ ไม่สามารถเปลี่ยนใหม่ได้แม้เจ้าหน้าที่จะเลื่อนตำแหน่งหรือย้ายงาน
-
-
การประกันภัย, ซ่อมบำรุง และเติมน้ำมันของรถราชการ
-
จะจัดซื้อในระบบรวมศูนย์ของรัฐบาล เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน
-
ความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้
-
วันที่ 26–27 กันยายน 2023 สำนักบริหารทรัพย์สินของรัฐ (国管局) ได้จัดประชุมเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ในภาครัฐ ณ เขตใหม่ซีอัน (雄安新区) มณฑลเหอเป่ย์
- หน่วยงานควบคุมรถราชการระดับต่างๆ ต้องดำเนินการตามนโยบายการส่งเสริม NEV อย่างเต็มที่
- ต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงมาตรการสนับสนุน และ เพิ่มสัดส่วนการใช้รถยนต์พลังงานใหม่อย่างมั่นคง
- ต้องพิจารณาปัจจัยภูมิศาสตร์, ประเภทพลังงาน, ความต่างระหว่างเมือง-ชนบท และลักษณะการใช้งาน เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่
แนวนโยบายจากกระทรวงการคลัง
-
ปลายปี 2024 กระทรวงการคลังออกประกาศเรื่อง “การเสริมสร้างการบริหารทรัพย์สินของรัฐในหน่วยงานราชการให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ”
- กำหนดให้บริหารจัดการจำนวนรถราชการตามโครงสร้างที่ชัดเจน
- ส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ และให้เพิ่มสัดส่วนอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามระเบียบ
-
ต่อมา สำนักงานของกระทรวงการคลังได้ออกหนังสือเวียนเพิ่มเติม
- ให้หน่วยงานจัดทำแผนจัดซื้อรถยนต์พลังงานใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการจริง
- กำหนดว่า รถยนต์พลังงานใหม่ควรมีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของยอดจัดซื้อรถราชการต่อปี
- โดยเฉพาะ รถที่ใช้งานในเส้นทางแน่นอน ใช้งานจำเพาะ และใช้ในเขตเมือง เช่น รถสื่อสารลับ ควรจัดซื้อเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ 100%
- กรณีที่หน่วยงานเช่ารถ ให้ เลือกใช้รถยนต์พลังงานใหม่เป็นหลัก
ณ สิ้นปี 2024 จีนมีข้าราชการประมาณ 7.17 ล้านคน โดยมีผู้สมัครสอบเข้ารับราชการในปี 2025 มากถึง 3.416 ล้านคน ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมในอาชีพที่มั่นคงและสวัสดิการดี แม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจและการลดเงินเดือนในบางหน่วยงาน
ระบบราชการของประเทศจีนเป็นหนึ่งในระบบที่มีลำดับชั้นเข้มงวดและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีลักษณะเฉพาะที่ผสมผสานระหว่างโครงสร้างรัฐสมัยใหม่กับอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ดังนี้:
1. องค์กรนำ: พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC)
- พรรค CPC เป็นแกนกลางของระบบราชการทุกระดับ
- ข้าราชการระดับสูงมักเป็นสมาชิกพรรค
- หลักการสำคัญ: “党指挥一切” (พรรคเป็นผู้กำหนดทุกสิ่ง)
2. หน่วยงานบริหารหลัก: รัฐบาลประชาชน
- ตั้งแต่ระดับชาติ → จังหวัด → เมือง → เขต → ตำบล
- คณะรัฐมนตรีจีน (State Council) เป็นองค์กรบริหารสูงสุด มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า
- รัฐมนตรี, ผู้ว่าการมณฑล, นายกเทศมนตรี = ข้าราชการบริหาร
3. ระบบข้าราชการ (Civil Service System)
- ใช้ระบบสอบเข้า “公务员考试” (Civil Service Exam)
- คัดเลือกตามคุณสมบัติ ความรู้ และแนวคิดทางอุดมการณ์
- มีการประเมินผล การเลื่อนขั้น และการฝึกอบรมต่อเนื่อง
4. โครงสร้างระบบราชการแบบพีระมิด
- แบ่งเป็น 5 ระดับหลัก: รัฐ → มณฑล → เมือง → อำเภอ/เขต → ตำบล/หมู่บ้าน
- การแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องผ่านการอนุมัติจากส่วนกลาง
5. ลักษณะเด่น
- รวมศูนย์อำนาจ: แม้จะมีการกระจายอำนาจ แต่ศูนย์กลางการตัดสินใจยังอยู่ที่พรรคและรัฐบาลกลาง
- ระบบ “双重领导” (dual leadership): หน่วยงานราชการมักอยู่ภายใต้การควบคุมทั้งจากหน่วยงานบริหารและพรรค
- การตรวจสอบวินัยจากคณะกรรมาธิการกลาง (CCDI): ตรวจสอบการทุจริตและพฤติกรรมไม่เหมาะสมของข้าราชการ
6. แนวโน้มปัจจุบัน
- ลดจำนวนข้าราชการ → ลดต้นทุนรัฐ
- เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบดิจิทัลและ AI
- เน้นความภักดีต่อพรรค, ป้องกันคอร์รัปชัน