All-NEW TOYOTA RAV4 เจนที่ 6 HEV / PHEV มีโอกาศขายไทยไหม ? ไม่ทับไลน์ ฟอร์จูนเนอร์ แต่เอื้อตลาดกันมากกว่า

All-NEW TOYOTA RAV4 เจนที่ 6 HEV / PHEV มีโอกาศขายไทยไหม ? ไม่ทับไลน์ ฟอร์จูนเนอร์ แต่เอื้อตลาดกันมากกว่า
Spread the love
Advertisement Advertisement

RAV4 มีโอกาสเข้าไทยไหม แล้ว Fortuner ยังขายได้หรือไม่? วิเคราะห์เกม SUV ยุคใหม่ของ Toyota  เมื่อ “ไฮบริด” กำลังเปลี่ยนขั้วตลาดไทย

จุดเริ่มต้นของคำถาม

หลายคนอาจสงสัยว่า “ทำไม Toyota ไม่ขาย RAV4 ในไทย?” ในขณะที่ตลาดต่างประเทศ — โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และยุโรป — RAV4 กลับเป็น SUV ที่ขายดีที่สุดของโตโยต้า แต่ไทยกลับได้เพียง Corolla Cross และ Fortuner ทำตลาดแทน

และเมื่อ RAV4 รุ่นใหม่เจเนอเรชัน 6 เปิดตัวทั่วโลกในปี 2025 พร้อมระบบ Hybrid และ Plug-in Hybrid (PHEV) คำถามจึงกลับมาอีกครั้งว่า…

  • RAV4 จะมีโอกาสเข้าไทยหรือไม่?
  • แล้วถ้าเข้ามาจริง Fortuner จะได้รับผลกระทบหรือเปล่า?

RAV4 เคยทำตลาดไทยเมื่อราว 20 ปีก่อน (ประมาณช่วง พ.ศ. 2540-2545 หรือยุคปลาย 90s ถึงต้น 2000s) ซึ่งตรงกับช่วงที่ยังไม่มี SUV แบบเดียวกับวันนี้ในไทย RAV4 ถูกนำเข้ามาอย่างจำกัด และต่อมาหยุดทำตลาด เพราะการวางตำแหน่งสินค้าและสายผลิตภายในประเทศไม่เอื้อต่อการทำยอดมากนัก

RAV4 รุ่นใหม่ (Gen 6) SUV ยุคไฮบริดเต็มตัว

Toyota RAV4 รุ่นใหม่ ถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม TNGA-K รุ่นปรับปรุง เน้นการควบคุมที่มั่นคงและโครงสร้างที่แข็งแรงกว่าเดิม มีให้เลือกสองระบบขับเคลื่อนหลัก

  • Hybrid 2.5 ลิตร – ประสิทธิภาพดี สมรรถนะราว 226 – 236 แรงม้า

  • Plug-in Hybrid (PHEV) – กำลังรวม 324 แรงม้า วิ่งไฟฟ้าล้วน 83.7 กม.EPA

ห้องโดยสารเปลี่ยนใหม่หมด หน้าจอ 12.3 นิ้ว ระบบ Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุด ขนาดตัวถังยาว 4,650 มม. กว้าง 1,850 มม. ใหญ่กว่า Corolla Cross เล็กน้อยแต่พรีเมียมกว่าอย่างชัดเจน

กล่าวได้ว่า RAV4 ใหม่คือ SUV ไฮบริดระดับกลาง–บน ที่ผสมความประหยัดเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างลงตัว

โอกาสเข้าไทย “มีจริง” ถ้าเงื่อนไขครบ

ปัจจัยสนับสนุน

  • รัฐบาลไทยเตรียมลดภาษีรถ PHEV ตั้งแต่ปี 2026 โดยรถที่วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ ≥ 80 กม. และถังน้ำมัน ≤ 45 ลิตร เสียภาษีเพียง 5%  ตรงสเปกของ RAV4 PHEV เป๊ะ (วิ่ง 83 กม. EPA , เครื่อง 2.5 ลิตร)

  • โครงสร้างภาษีสำหรับรถ HEV/MHEV (≤ 3.0 ลิตร)

    • CO₂ ≤ 100 g/km = 6%
    • 100–120 g/km = 9%
    • 120–150 g/km = 14%
    • 150–200 g/km = 19%
    • 200 g/km = 24%

ทำให้ RAV4 Hybrid ที่ปล่อย < 120 g/km อาจได้ภาษี เพียง 9% — ถูกกว่า SUV เบนซินทั่วไปเกือบครึ่ง

สำหรับประเทศไทยเป็นฐานผลิต HEV สำคัญของภูมิภาค แต่ยังไม่มีการยืนยันใดๆ สำหรับ RAV4 (RAV4 จึงอาจตามมาในลำดับต่อไป)

ปัจจัยเสี่ยง

  • ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Toyota Motor Thailand ว่าจะนำ RAV4 เข้ามาจำหน่ายหรือประกอบในไทย
  • ต้นทุนสูงหากนำเข้า CBU จากญี่ปุ่นหรือเม็กซิโก ราคาขายอาจทะลุ 2 ล้านบาท
  • ตลาดไทยแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะ SUV ไฟฟ้าจากจีนที่ราคาต่ำกว่ามาก

แล้ว Fortuner จะเป็นอย่างไร?

จุดแข็งที่ยังคงอยู่

  • ผลิตในไทย 100% ราคาควบคุมได้
  • ครองแชมป์ยอดขายกลุ่ม PPV อย่างต่อเนื่อง
  • ภาพลักษณ์ “SUV ใหญ่ ใช้จริง ทน ลุย ได้” ยังฝังลึกในใจผู้ใช้ชาวไทย
  • โครงสร้าง IMV แชร์กับ Hilux →อะไหล่และบริการหลังขายหาง่าย

จุดอ่อนที่ต้องปรับ

  • เครื่องดีเซลเดิมเริ่มไม่สอดคล้องกับแนวทางลด CO₂ ของรัฐ
  • ผู้บริโภครุ่นใหม่หันไปหารถ Hybrid หรือ BEV มากขึ้น
  • ถ้า RAV4 เข้าไทย และราคาทับกลุ่ม 1.8–2.2 ล้านบาท อาจแย่งลูกค้าบางส่วนที่เคยเลือก Fortuner รุ่นบนๆ

แนวทางอนาคต

  • Fortuner ยังขายได้แน่นอน แต่ต้องปรับเทคโนโลยี เช่น รุ่น Mild Hybrid หรือ Hybrid เต็มระบบ
  • Toyota อาจแยกตลาดชัดเจน
    • RAV4 = SUV พรีเมียม ขับสี่ ไฮบริด/PHEV สำหรับเมือง
    • Fortuner = SUV ใหญ่ ลุย ครอบครัว และการใช้งานหนัก

ถ้า RAV4 มา Fortuner จะเสียตลาดไหม?

ไม่ — แต่บทบาทจะ “เปลี่ยน”

RAV4 จะดึงกลุ่มลูกค้าที่อยากได้รถ Toyota พรีเมียม ประหยัดน้ำมัน ขับนุ่ม แต่ไม่ต้องการขนาดใหญ่ ขณะที่ Fortuner จะยังคงเป็นรุ่นขายหลักของครอบครัวไทยที่ต้องการ “รถคันเดียวจบ” ใช้งานได้ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด

  • RAV4 เสริมพอร์ต Toyota ให้ครบ
  • Fortuner ยังคงเป็นตัวทำเงินของโรงงานไทย

บทสรุป

  • RAV4 มีโอกาสเข้าไทยจริง ถ้ารัฐให้สิทธิ ภาษี PHEV และ Toyota จัดการต้นทุนได้
  • Fortuner ยังขายได้แน่นอน แต่ต้องเร่งปรับเป็น Hybrid ใน Gen ถัดไป
  • ทั้งสองรุ่นสามารถอยู่ร่วมกันได้ หาก Toyota วางตำแหน่งอย่างชัดเจน

“RAV4 คืออนาคตของ SUV พรีเมียม ยุคใหม่” ส่วน “Fortuner คือรากฐานของ SUV เมืองไทยที่ไม่มีวันหายไป”

All-New Toyota RAV4 รุ่นปี 2026 เจเนอเรชันที่ 6 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – เพิ่มพลัง ประหยัดขึ้น พร้อมขุมพลัง Hybrid และ Plug-in Hybrid ใหม่หมดจด สเปคญี่ปุ่นแบบเดียวกับในสหรัฐฯ

ล่าสุด NEW RAV4 เจนที่ 6 ใหม่โผล่แสดงพวงมาลัยขวาในงาน Japan Mobility Show 2025 (ชื่อใหม่ของโตเกียว มอเตอร์โชว์) ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน 2568 ที่ Tokyo Big Sight ประเทศญี่ปุ่น

โตโยต้าเปิดม่าน RAV4 เจเนอเรชันที่ 6 (รุ่นปี 2026) ในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ หลังจากทำตลาดมายาวนานเกือบ 30 ปี และขึ้นแท่น SUV คอมแพ็กต์ขายดีที่สุดในประเทศ ตลอดเส้นทางกว่า 6.4 ล้านคันทั่วอเมริกา คราวนี้ RAV4 ใหม่มาพร้อมดีไซน์ ภายนอก–ภายในปรับใหม่หมด เทคโนโลยีล่าสุดของโตโยต้า รวมถึงขุมพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทั้งแบบ Hybrid (HEV) และ Plug-in Hybrid (PHEV) โดยไม่มีรุ่นเบนซินล้วนอีกต่อไป

ไลน์อัปแบ่งเป็น 3 แนวบุคลิก Core / Rugged / Sport รวม 7 เกรดย่อย ได้แก่ LE, XLE Premium, Limited (Core) / Woodland (Rugged) / SE, XSE และ GR SPORT (Sport) ทั้งหมดพัฒนาใหม่บนโครงสร้าง TNGA-K พร้อมช่วงล่าง–โครงสร้างเสริมความแข็งแรงและซับแรงสั่นสะเทือนดีกว่าเดิม

ภายนอก ดีไซน์ SUV สัดส่วนชัดเจน

RAV4 ใหม่คงเอกลักษณ์ตัวถัง SUV ทรงกล้า ฝากระโปรงมีกล้าม แนวขอบซุ้มล้อเหลี่ยม พร้อมกระจังหน้า Hammerhead Signature Grille โฉบเฉี่ยวร่วมสมัย ไฟท้าย LED ลายใหม่ให้ความรู้สึกกว้างมั่นคงเมื่อมองจากด้านหลัง ส่วนท้ายเน้นพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด

ชุดสีตัวถังมีทั้งหมด 10 สี รวม 4 สีใหม่ ได้แก่ Urban Rock (เฉพาะ Woodland), Meteor Shower, Everest และ Storm Cloud ขณะที่สียอดนิยมเดิมอย่าง Ice Cap, Wind Chill Pearl, Midnight Black Metallic, Ruby Flare Pearl และ Blueprint ยังคงอยู่ พร้อมตัวเลือกทูโทนใหม่ เช่น Meteor Shower หลังคาดำ หรือ Supersonic Red หลังคาดำ เฉพาะ GR SPORT

ภายในห้องโดยสารใหม่ จัดวางฉลาด พร้อมจอดิจิทัล 12.3″

คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่รวมฟังก์ชันสำคัญ (จอสัมผัส Drive Mode ที่เก็บของ) เป็นแนวตั้ง ใช้พื้นที่คุ้ม และมีคันเกียร์ Shift-by-Wire แบบสวิตช์ Toggle บางเกรด

หน้าจอมาตรวัด Full Digital 12.3 นิ้ว เป็นมาตรฐาน ปรับการแสดงผลได้หลายรูปแบบ จอ LCD เคลือบด้านลดแสงสะท้อน พร้อม Head-Up Display ในรุ่น Hybrid Limited และ PHEV XSE เบาะหลังพับราบ ฝาท้ายไฟฟ้า Hands-Free รุ่นใหม่ ตรวจจับกว้างกว่าเดิม วัสดุตกแต่งภายในเลือกใช้ SofTex หรือ Ultrasuede ขึ้นกับรุ่น

โครงสร้างและช่วงล่าง TNGA-K ปรับใหม่ เพิ่มความนิ่งเงียบ

ตัวถัง TNGA-K ได้รับการเสริมความแข็งแรง ทั้งจุดยึดช่วงล่างหน้า-หลัง เสา A-D และ ซุ้มล้อ พร้อมเพิ่มวัสดุดูดซับการสั่นสะเทือน NVH หลายจุด เช่น พื้นหน้า-หลัง และ ใต้ท้องรถ ลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร

ระบบกันสะเทือนหน้า-หลังเปลี่ยนสปริงใหม่ลดแรงเสียดทาน โช้กอัพจูนใหม่ให้ตอบสนองแรงด้านข้างดีขึ้น นุ่มสบายขึ้นในทุกย่านความเร็ว ตำแหน่งเหล็กกันโคลงหน้าปรับใหม่ เพิ่มสัมผัสพวงมาลัย พร้อม Active Front Aero Spats เปิด-ปิดอัตโนมัติ ตามความเร็ว

ความสูงใต้ท้องแตกต่างตามเกรด 8.1 นิ้ว (206 มม.) ใน LE, XLE Premium, SE, XSE / 8.5 นิ้ว (216 มม.) ใน Woodland / 7.5 นิ้ว (191 มม.) ใน GR SPORT

ระบบเบรกและควบคุมตัวรถ (E-Brake Generation ใหม่)

  • Electronically Controlled Brake System รุ่นใหม่ ครั้งแรกในโตโยต้า ให้แรงดันเบรกตามคำสั่ง ตอบสนองไว ฟีลแป้นแน่น
  • Vehicle Braking Posture Control (VBPC) ลดอาการโคลงตัวขณะเลี้ยว
  • Cooperative Steering Driving Force Control (CSDFC) ประสานแรงบิดกับการหักพวงมาลัย ช่วยให้เข้าโค้งมั่นใจและแม่นยำ

ขุมพลัง Hybrid (HEV) รุ่นที่ 5

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS จับคู่มอเตอร์ MG1 และ MG2 ผ่านเกียร์ e-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ เพิ่มมอเตอร์หลัง MGR สำหรับ AWD

  • กำลังรวม: FWD 226 แรงม้า / AWD 236 แรงม้า
  • แรงบิดเครื่องยนต์ 221 Nm
  • แรงบิดมอเตอร์หน้า (MG2) 208 Nm
  • แรงบิดมอเตอร์หลัง (MGR) 121 Nm
  • อัตราสิ้นเปลืองรวมสูงสุด 18.7 km/L (รุ่น FWD)

ค่าประมาณรายเกรด (HEV)

รุ่น ระบบขับเคลื่อน อัตราสิ้นเปลือง (MPG) km/L ประมาณ
FWD 44 18.7
LE AWD 44 18.7
XLE Premium AWD 42 17.8
Woodland HEV AWD 39 16.6
SE/XSE/Limited AWD 42 17.8

ระบบ ECB (Electronic Control Brake) ประสานแรงเบรก รีเจนเนอเรชัน-ไฮดรอลิก ให้เหมาะสม เก็บพลังกลับสูงสุด พร้อม Brake Hold และ Active Hydraulic Booster เพิ่มฟีลแป้นเบรก

โหมดขับ NORMAL / ECO / SPORT / CUSTOM และ EV Mode ใช้พลังไฟฟ้าล้วนระยะสั้นในที่ปิด

ขุมพลัง Plug-in Hybrid (PHEV) รุ่นที่ 6 ใหม่หมด

มีให้เลือก 4 เกรด SE, XSE, Woodland, GR SPORT เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร + มอเตอร์ MG1, MG2 + มอเตอร์หลัง MGR และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุสูง

  • กำลังรวมสูงสุด: 324 แรงม้า
  • แรงบิดเครื่องยนต์233 Nm
  • แรงบิดมอเตอร์หน้า (MG2) 273 Nm
  • แรงบิดมอเตอร์หลัง (MGR) 123 Nm
  • อัตราสิ้นเปลืองรวม (เฉลี่ย SE/XSE) 17.4 km/L
  • ระยะทางขับด้วยไฟฟ้าล้วน (EV Mode) 83.7 กม.

ตัวเลขประหยัดโดยประมาณ (PHEV)

รุ่น MPG รวม km/L โดยประมาณ ระยะทางไฟฟ้าล้วน (km)
SE/XSE 41 17.4 ≈ 83.7
Woodland 38 16.2 ≈ 78.9
GR SPORT 37 15.7 ≈ 77.2

รุ่น XSE และ Woodland ติดตั้ง Onboard Charger 11 kW พร้อมพอร์ต CCS1 รองรับ DC Fast Charge 10→80 % ภายใน ≈ 30 นาที (ภายใต้เงื่อนไขเหมาะสม)

รุ่น SE และ GR SPORT ใช้ 7 kW (OBC) พอร์ต J1772 รองรับ Level 1–2 ใช้เวลาชาร์จ ≈ 4 ชม. 10→80 %
มีสายชาร์จ 2 แรงดัน (120 V/240 V) แถมทุกรุ่น

RAV4 GR SPORT ครั้งแรกในประวัติศาสตร์รุ่น

พัฒนาร่วม TOYOTA GAZOO Racing ติดตั้ง PHEV + AWD มาตรฐาน จูนช่วงล่าง-พวงมาลัยใหม่

จุดเด่นทางเทคนิค

  • ช่วงล่าง GR-tuned พร้อมโช้ก-สปริงเฉพาะ
  • ค้ำ Cross Member หลังและ Damper หน้า เสริมสมรรถนะ
  • ล้อ 20 นิ้ว น้ำหนักเบากว่ารุ่น XSE 2.2 กก. ออฟเซ็ต +20 มม. ลดความสูง 15 มม. (ระยะใต้ท้อง 7.5 นิ้ว ≈ 191 มม.)
  • ชุดอากาศพลศาสตร์ GR Functional Matrix Grille, ช่องดักลมแอคทีฟ, ลิ้นหน้า, สปอยเลอร์หลัง, ดิฟฟิวเซอร์ท้าย
  • คาลิเปอร์เบรกแดงโลโก้ GR ยาง Dunlop Sportmaxx Performance

ภายใน

เบาะ Brin Naub & SofTex ทูโทน ดำ-แดง, โลโก้ GR ที่พนักพิงศีรษะ, พวงมาลัยหนัง GR พร้อม Paddle Shift, แป้นคันเร่ง-เบรก อะลูมิเนียม, หน้าจอ 12.9 นิ้ว + คลัสเตอร์ 12.3 นิ้ว พร้อม GR Start-up Animation ครบ

RAV4 Woodland รุ่นลุย

เกรด Rugged ใหม่ เลือกได้ทั้ง HEV หรือ PHEV AWD

  • HEV 236 แรงม้า  18.7 km/L
  • PHEV 324 แรงม้า  16.2 km/L ขับไฟฟ้าล้วน ≈ 78.9 กม.
  • ยาง Dunlop GrandTrek All-Terrain, ล้อ 18″ Matte Metallic Grey
  • ฮิทช์พ่วง 2″ รับแรงดึง  1,588 กก.
  • หลังคาระบบรางยกสูงพร้อมคาน Cross Bar โลโก้ Woodland
  • ไฟ LED Rigid Industries ที่กันชนหน้า, พรม All-Weather โลโก้ Woodland, ช่องจ่ายไฟ 120 V-1500 W ท้ายรถ

 เกรด Sport – SE และ XSE

  • SE HEV FWD/AWD: 226–236 แรงม้า ประหยัดสุด ≈ 18.7 km/L
  • SE PHEV AWD: 324 แรงม้า ≈ 17.4 km/L EV ≈ 83.7 กม.
  • XSE HEV AWD: 236 แรงม้า ≈ 17.8 km/L
  • XSE PHEV AWD: 324 แรงม้า ≈ 17.4 km/L EV ≈ 83.7 กม. รองรับ 11 kW + DC Fast
  • อุปกรณ์เด่น: ล้อ 18–20 นิ้ว, หลังคาแก้ว, ชาร์จไร้สาย, เบาะ Ultrasuede พร้อมระบายอากาศ, ฝาท้าย Hands-Free, กล้อง 3D รอบคัน

 เทคโนโลยีเชื่อมต่อ Toyota Audio Multimedia เจเนอเรชันใหม่ + 5G ครั้งแรก

  • พัฒนาโดย Toyota Motor North America / Toyota Connected North America
  • ใช้เครือข่าย AT&T 5G
  • หน้าหลักปรับวิดเจ็ตได้ Voice Assistant “Hey Toyota” ตอบเร็วขึ้น
  • รองรับ SiriusXM 360L / Spotify Streaming (สมัครแยก)
  • เนวิเกชันเต็มจอที่มาตรวัด ครั้งแรกของโตโยต้า
  • ติดตั้ง Drive Recorder ในตัว บันทึกเหตุการณ์ 20 วินาที
  • รองรับ Wireless Apple CarPlay / Android Auto และ Bluetooth คู่

พื้นฐานซอฟต์แวร์ทั้งหมดสร้างบน Arene Platform โดย Woven by Toyota เปิดทางสู่ยุครถยนต์ Software-Defined ของโตโยต้า

ความปลอดภัย  Toyota Safety Sense 4.0 มาตรฐานทุกคัน

  • PCS w/ PD เตือน-เบรกอัตโนมัติ ตรวจจับรถ คน จักรยาน มอเตอร์ไซค์
  • Full-Speed DRCC ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเต็มช่วง
  • LDA w/ Steering Assist ประคองพวงมาลัยเมื่อออกนอกเลน
  • AHB ไฟสูงอัตโนมัติ
  • LTA ช่วยรักษากลางเลน
  • RSA อ่านป้ายจราจรแสดงบนจอมาตรวัด
  • PDA ช่วยเบรก-เลี้ยวอ่อนโยน ควบคุมระยะรถหน้า

เสริมด้วย Star Safety System (VSC, TRAC, EBD, BA, ABS, SST) พร้อมระบบอำนวยความสะดวก เช่น กล้อง 3D รอบคัน, Park Assist อัตโนมัติ, BSM + RCTA, Hill-Start Assist, Rear Seat Reminder ฯลฯ

การรับประกันและการบำรุงรักษา

  • รับประกันพื้นฐาน 36 เดือน / 36,000 ไมล์
  • ระบบสายกำลัง 60 เดือน / 60,000 ไมล์
  • การผุกร่อน 60 เดือน ไมล์ไม่จำกัด

 

 

Advertisement Advertisement

Carscoop

 

 

  • รัฐบาลไทยเตรียมลดภาษีรถ PHEV ตั้งแต่ปี 2026 โดยรถที่วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ ≥ 80 กม. และถังน้ำมัน ≤ 45 ลิตร เสียภาษีเพียง 5%  ตรงสเปกของ RAV4 PHEV เป๊ะ (วิ่ง 150 กม., เครื่อง 2.5 ลิตร)

  • โครงสร้างภาษีสำหรับรถ HEV/MHEV (≤ 3.0 ลิตร)

  • CO₂ ≤ 100 g/km = 6%
  • 100–120 g/km = 9%
  • 120–150 g/km = 14%
  • 150–200 g/km = 19%

    200 g/km = 24%
    ทำให้ RAV4 Hybrid ที่ปล่อย < 120 g/km อาจได้ภาษี เพียง 9% — ถูกกว่า SUV เบนซินทั่วไปเกือบครึ่ง

  • นโยบาย “Hybrid ก่อน BEV” ของ Toyota ไทย
    ไทยเป็นฐานผลิต HEV สำคัญของภูมิภาค (RAV4 จึงอาจตามมาในลำดับต่อไป)

  • ⚠️ ปัจจัยเสี่ยง
  • ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Toyota Motor Thailand
    ว่าจะนำ RAV4 เข้ามาจำหน่ายหรือประกอบในไทย

  • ต้นทุนสูงหากนำเข้า CBU จากญี่ปุ่นหรือเม็กซิโก → ราคาขายอาจทะลุ 2 ล้านบาท

  • ตลาดไทยแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะ SUV ไฟฟ้าจากจีนที่ราคาต่ำกว่า

  • All-New Toyota RAV4 รุ่นปี 2026 เจเนอเรชันที่ 6 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – เพิ่มพลัง ประหยัดขึ้น พร้อมขุมพลัง Hybrid และ Plug-in Hybrid ใหม่หมดจด สเปคญี่ปุ่นแบบเดียวกับในสหรัฐฯ
  • ล่าสุด NEW RAV4 เจนที่ 6 ใหม่โผล่แสดงพวงมาลัยขวาในงาน Japan Mobility Show 2025 (ชื่อใหม่ของโตเกียว มอเตอร์โชว์) ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน 2568 ที่ Tokyo Big Sight ประเทศญี่ปุ่น
  • โตโยต้าเปิดม่าน RAV4 เจเนอเรชันที่ 6 (รุ่นปี 2026) ในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ หลังจากทำตลาดมายาวนานเกือบ 30 ปี และขึ้นแท่น SUV คอมแพ็กต์ขายดีที่สุดในประเทศ ตลอดเส้นทางกว่า 6.4 ล้านคันทั่วอเมริกา คราวนี้ RAV4 ใหม่มาพร้อมดีไซน์ ภายนอก–ภายในปรับใหม่หมด เทคโนโลยีล่าสุดของโตโยต้า รวมถึงขุมพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทั้งแบบ Hybrid (HEV) และ Plug-in Hybrid (PHEV) โดยไม่มีรุ่นเบนซินล้วนอีกต่อไป

    ไลน์อัปแบ่งเป็น 3 แนวบุคลิก Core / Rugged / Sport รวม 7 เกรดย่อย ได้แก่ LE, XLE Premium, Limited (Core) / Woodland (Rugged) / SE, XSE และ GR SPORT (Sport) ทั้งหมดพัฒนาใหม่บนโครงสร้าง TNGA-K พร้อมช่วงล่าง–โครงสร้างเสริมความแข็งแรงและซับแรงสั่นสะเทือนดีกว่าเดิม

    ภายนอก ดีไซน์ SUV สัดส่วนชัดเจน

    RAV4 ใหม่คงเอกลักษณ์ตัวถัง SUV ทรงกล้า ฝากระโปรงมีกล้าม แนวขอบซุ้มล้อเหลี่ยม พร้อมกระจังหน้า Hammerhead Signature Grille โฉบเฉี่ยวร่วมสมัย ไฟท้าย LED ลายใหม่ให้ความรู้สึกกว้างมั่นคงเมื่อมองจากด้านหลัง ส่วนท้ายเน้นพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด

    ชุดสีตัวถังมีทั้งหมด 10 สี รวม 4 สีใหม่ ได้แก่ Urban Rock (เฉพาะ Woodland), Meteor Shower, Everest และ Storm Cloud ขณะที่สียอดนิยมเดิมอย่าง Ice Cap, Wind Chill Pearl, Midnight Black Metallic, Ruby Flare Pearl และ Blueprint ยังคงอยู่ พร้อมตัวเลือกทูโทนใหม่ เช่น Meteor Shower หลังคาดำ หรือ Supersonic Red หลังคาดำ เฉพาะ GR SPORT

    ภายในห้องโดยสารใหม่ จัดวางฉลาด พร้อมจอดิจิทัล 12.3″

    คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่รวมฟังก์ชันสำคัญ (จอสัมผัส Drive Mode ที่เก็บของ) เป็นแนวตั้ง ใช้พื้นที่คุ้ม และมีคันเกียร์ Shift-by-Wire แบบสวิตช์ Toggle บางเกรด

    หน้าจอมาตรวัด Full Digital 12.3 นิ้ว เป็นมาตรฐาน ปรับการแสดงผลได้หลายรูปแบบ จอ LCD เคลือบด้านลดแสงสะท้อน พร้อม Head-Up Display ในรุ่น Hybrid Limited และ PHEV XSE เบาะหลังพับราบ ฝาท้ายไฟฟ้า Hands-Free รุ่นใหม่ ตรวจจับกว้างกว่าเดิม วัสดุตกแต่งภายในเลือกใช้ SofTex หรือ Ultrasuede ขึ้นกับรุ่น

    โครงสร้างและช่วงล่าง TNGA-K ปรับใหม่ เพิ่มความนิ่งเงียบ

    ตัวถัง TNGA-K ได้รับการเสริมความแข็งแรง ทั้งจุดยึดช่วงล่างหน้า-หลัง เสา A-D และ ซุ้มล้อ พร้อมเพิ่มวัสดุดูดซับการสั่นสะเทือน NVH หลายจุด เช่น พื้นหน้า-หลัง และ ใต้ท้องรถ ลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร

    ระบบกันสะเทือนหน้า-หลังเปลี่ยนสปริงใหม่ลดแรงเสียดทาน โช้กอัพจูนใหม่ให้ตอบสนองแรงด้านข้างดีขึ้น นุ่มสบายขึ้นในทุกย่านความเร็ว ตำแหน่งเหล็กกันโคลงหน้าปรับใหม่ เพิ่มสัมผัสพวงมาลัย พร้อม Active Front Aero Spats เปิด-ปิดอัตโนมัติ ตามความเร็ว

    ความสูงใต้ท้องแตกต่างตามเกรด 8.1 นิ้ว (206 มม.) ใน LE, XLE Premium, SE, XSE / 8.5 นิ้ว (216 มม.) ใน Woodland / 7.5 นิ้ว (191 มม.) ใน GR SPORT

    ระบบเบรกและควบคุมตัวรถ (E-Brake Generation ใหม่)

    • Electronically Controlled Brake System รุ่นใหม่ ครั้งแรกในโตโยต้า ให้แรงดันเบรกตามคำสั่ง ตอบสนองไว ฟีลแป้นแน่น
    • Vehicle Braking Posture Control (VBPC) ลดอาการโคลงตัวขณะเลี้ยว
    • Cooperative Steering Driving Force Control (CSDFC) ประสานแรงบิดกับการหักพวงมาลัย ช่วยให้เข้าโค้งมั่นใจและแม่นยำ

    ขุมพลัง Hybrid (HEV) รุ่นที่ 5

    เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS จับคู่มอเตอร์ MG1 และ MG2 ผ่านเกียร์ e-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ เพิ่มมอเตอร์หลัง MGR สำหรับ AWD

    • กำลังรวม: FWD 226 แรงม้า / AWD 236 แรงม้า
    • แรงบิดเครื่องยนต์ 221 Nm
    • แรงบิดมอเตอร์หน้า (MG2) 208 Nm
    • แรงบิดมอเตอร์หลัง (MGR) 121 Nm
    • อัตราสิ้นเปลืองรวมสูงสุด 18.7 km/L (รุ่น FWD)

    ค่าประมาณรายเกรด (HEV)

    รุ่น ระบบขับเคลื่อน อัตราสิ้นเปลือง (MPG) km/L ประมาณ
    FWD 44 18.7
    LE AWD 44 18.7
    XLE Premium AWD 42 17.8
    Woodland HEV AWD 39 16.6
    SE/XSE/Limited AWD 42 17.8

    ระบบ ECB (Electronic Control Brake) ประสานแรงเบรก รีเจนเนอเรชัน-ไฮดรอลิก ให้เหมาะสม เก็บพลังกลับสูงสุด พร้อม Brake Hold และ Active Hydraulic Booster เพิ่มฟีลแป้นเบรก

    โหมดขับ NORMAL / ECO / SPORT / CUSTOM และ EV Mode ใช้พลังไฟฟ้าล้วนระยะสั้นในที่ปิด

    ขุมพลัง Plug-in Hybrid (PHEV) รุ่นที่ 6 ใหม่หมด

    มีให้เลือก 4 เกรด SE, XSE, Woodland, GR SPORT เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร + มอเตอร์ MG1, MG2 + มอเตอร์หลัง MGR และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุสูง

    • กำลังรวมสูงสุด: 324 แรงม้า
    • แรงบิดเครื่องยนต์233 Nm
    • แรงบิดมอเตอร์หน้า (MG2) 273 Nm
    • แรงบิดมอเตอร์หลัง (MGR) 123 Nm
    • อัตราสิ้นเปลืองรวม (เฉลี่ย SE/XSE) 17.4 km/L
    • ระยะทางขับด้วยไฟฟ้าล้วน (EV Mode) 83.7 กม.

    ตัวเลขประหยัดโดยประมาณ (PHEV)

    รุ่น MPG รวม km/L โดยประมาณ ระยะทางไฟฟ้าล้วน (km)
    SE/XSE 41 17.4 ≈ 83.7
    Woodland 38 16.2 ≈ 78.9
    GR SPORT 37 15.7 ≈ 77.2

    รุ่น XSE และ Woodland ติดตั้ง Onboard Charger 11 kW พร้อมพอร์ต CCS1 รองรับ DC Fast Charge 10→80 % ภายใน ≈ 30 นาที (ภายใต้เงื่อนไขเหมาะสม)

    รุ่น SE และ GR SPORT ใช้ 7 kW (OBC) พอร์ต J1772 รองรับ Level 1–2 ใช้เวลาชาร์จ ≈ 4 ชม. 10→80 %
    มีสายชาร์จ 2 แรงดัน (120 V/240 V) แถมทุกรุ่น

    RAV4 GR SPORT ครั้งแรกในประวัติศาสตร์รุ่น

    พัฒนาร่วม TOYOTA GAZOO Racing ติดตั้ง PHEV + AWD มาตรฐาน จูนช่วงล่าง-พวงมาลัยใหม่

    จุดเด่นทางเทคนิค

    • ช่วงล่าง GR-tuned พร้อมโช้ก-สปริงเฉพาะ
    • ค้ำ Cross Member หลังและ Damper หน้า เสริมสมรรถนะ
    • ล้อ 20 นิ้ว น้ำหนักเบากว่ารุ่น XSE 2.2 กก. ออฟเซ็ต +20 มม. ลดความสูง 15 มม. (ระยะใต้ท้อง 7.5 นิ้ว ≈ 191 มม.)
    • ชุดอากาศพลศาสตร์ GR Functional Matrix Grille, ช่องดักลมแอคทีฟ, ลิ้นหน้า, สปอยเลอร์หลัง, ดิฟฟิวเซอร์ท้าย
    • คาลิเปอร์เบรกแดงโลโก้ GR ยาง Dunlop Sportmaxx Performance

    ภายใน

    เบาะ Brin Naub & SofTex ทูโทน ดำ-แดง, โลโก้ GR ที่พนักพิงศีรษะ, พวงมาลัยหนัง GR พร้อม Paddle Shift, แป้นคันเร่ง-เบรก อะลูมิเนียม, หน้าจอ 12.9 นิ้ว + คลัสเตอร์ 12.3 นิ้ว พร้อม GR Start-up Animation ครบ

    RAV4 Woodland รุ่นลุย

    เกรด Rugged ใหม่ เลือกได้ทั้ง HEV หรือ PHEV AWD

    • HEV 236 แรงม้า  18.7 km/L
    • PHEV 324 แรงม้า  16.2 km/L ขับไฟฟ้าล้วน ≈ 78.9 กม.
    • ยาง Dunlop GrandTrek All-Terrain, ล้อ 18″ Matte Metallic Grey
    • ฮิทช์พ่วง 2″ รับแรงดึง  1,588 กก.
    • หลังคาระบบรางยกสูงพร้อมคาน Cross Bar โลโก้ Woodland
    • ไฟ LED Rigid Industries ที่กันชนหน้า, พรม All-Weather โลโก้ Woodland, ช่องจ่ายไฟ 120 V-1500 W ท้ายรถ

     เกรด Sport – SE และ XSE

    • SE HEV FWD/AWD: 226–236 แรงม้า ประหยัดสุด ≈ 18.7 km/L
    • SE PHEV AWD: 324 แรงม้า ≈ 17.4 km/L EV ≈ 83.7 กม.
    • XSE HEV AWD: 236 แรงม้า ≈ 17.8 km/L
    • XSE PHEV AWD: 324 แรงม้า ≈ 17.4 km/L EV ≈ 83.7 กม. รองรับ 11 kW + DC Fast
    • อุปกรณ์เด่น: ล้อ 18–20 นิ้ว, หลังคาแก้ว, ชาร์จไร้สาย, เบาะ Ultrasuede พร้อมระบายอากาศ, ฝาท้าย Hands-Free, กล้อง 3D รอบคัน

     เทคโนโลยีเชื่อมต่อ Toyota Audio Multimedia เจเนอเรชันใหม่ + 5G ครั้งแรก

    • พัฒนาโดย Toyota Motor North America / Toyota Connected North America
    • ใช้เครือข่าย AT&T 5G
    • หน้าหลักปรับวิดเจ็ตได้ Voice Assistant “Hey Toyota” ตอบเร็วขึ้น
    • รองรับ SiriusXM 360L / Spotify Streaming (สมัครแยก)
    • เนวิเกชันเต็มจอที่มาตรวัด ครั้งแรกของโตโยต้า
    • ติดตั้ง Drive Recorder ในตัว บันทึกเหตุการณ์ 20 วินาที
    • รองรับ Wireless Apple CarPlay / Android Auto และ Bluetooth คู่

    พื้นฐานซอฟต์แวร์ทั้งหมดสร้างบน Arene Platform โดย Woven by Toyota เปิดทางสู่ยุครถยนต์ Software-Defined ของโตโยต้า

    ความปลอดภัย  Toyota Safety Sense 4.0 มาตรฐานทุกคัน

    • PCS w/ PD เตือน-เบรกอัตโนมัติ ตรวจจับรถ คน จักรยาน มอเตอร์ไซค์
    • Full-Speed DRCC ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเต็มช่วง
    • LDA w/ Steering Assist ประคองพวงมาลัยเมื่อออกนอกเลน
    • AHB ไฟสูงอัตโนมัติ
    • LTA ช่วยรักษากลางเลน
    • RSA อ่านป้ายจราจรแสดงบนจอมาตรวัด
    • PDA ช่วยเบรก-เลี้ยวอ่อนโยน ควบคุมระยะรถหน้า

    เสริมด้วย Star Safety System (VSC, TRAC, EBD, BA, ABS, SST) พร้อมระบบอำนวยความสะดวก เช่น กล้อง 3D รอบคัน, Park Assist อัตโนมัติ, BSM + RCTA, Hill-Start Assist, Rear Seat Reminder ฯลฯ

    การรับประกันและการบำรุงรักษา

    • รับประกันพื้นฐาน 36 เดือน / 36,000 ไมล์
    • ระบบสายกำลัง 60 เดือน / 60,000 ไมล์
    • การผุกร่อน 60 เดือน ไมล์ไม่จำกัด
  •  
  • Carscoop
Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้