ตลาดรถ EV จีนเฟ้อมาก เมื่อรถใหม่ ขายเป็นมือสองไมล์ศูนย์ ส่อทุจริตเงินอุดหนุน

สรุปเรื่อง “รถมือสองเลขไมล์ศูนย์” ในจีน:
- มีการปล่อยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ใหม่แทบไม่มีเลขไมล์ แต่ขายในตลาดรถมือสอง เพื่อปั๊มยอดขายให้กับผู้ผลิต
- วิธีทำคือ “ขาย” รถให้ดีลเลอร์บนกระดาษ ติดทะเบียนเพื่อรับเงินอุดหนุนจากรัฐ แล้วส่งรถไปขายเป็นมือสองทั้งที่ยังใหม่มาก
- ทำให้ยอดขายดูดีขึ้น ผู้บริโภคได้รถราคาถูก แต่มีความเสี่ยงเรื่องทุจริตเงินอุดหนุน
- รัฐบาลจีนและกระทรวงพาณิชย์กำลังตรวจสอบค่ายรถใหญ่ เช่น BYD และ Dongfeng รวมถึงดีลเลอร์กว่า 4,000 รายที่เกี่ยวข้อง
- เหตุการณ์นี้สะท้อนปัญหาตลาดรถ EV ที่แข่งกันดุเดือดและพึ่งพาเงินอุดหนุนมากเกินไป
- แม้ดีสำหรับผู้ซื้อที่อยากได้รถราคาถูก แต่เป็นสัญญาณตลาดที่ยั่งยืนได้ยากในระยะยาว
ลองนึกภาพดูนะครับ: คุณกำลังมองหารถมือสองสภาพดีสักคัน แล้วก็ไปที่เต็นท์รถมือสองในท้องถิ่น แต่กลับเจอว่าลานจอดรถเต็มไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ใหม่เอี่ยม คุณลองดูสติ๊กเกอร์ที่กระจก พบว่ารถคันนั้นมีเลขไมล์น้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย พอคุณตรวจสอบใกล้ๆ ก็พบว่ายังมีพลาสติกหุ้มเบาะนั่งอยู่ แถมยังมีกลิ่นรถใหม่ตอนเปิดประตูอีกต่างหาก แบบนี้มันยังถือเป็นรถมือสองอยู่หรือ?
นี่แหละครับ เรื่องอื้อฉาวใหม่ล่าสุดในวงการรถยนต์จีน: รถมือสองเลขไมล์ศูนย์
ผมรู้ว่าคุณอาจคิดว่านี่มันแปลกๆ ใช่ไหม? คงไม่มีใครเชื่อว่ารถจะกลายเป็น “รถซ้อนสภาพ” แบบนั้นได้เหมือนสมการชโรดิงเจอร์ (Schrödinger’s cars) แต่นั่นแหละ รัฐบาลจีนเองก็เริ่มสงสัยอะไรผิดปกติ เพราะพวกเขาได้เรียกค่ายรถยนต์อย่าง BYD และ Dongfeng เข้ามาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีรถรุ่นใหม่หลายคันถูกพบในตลาดรถมือสอง โดยรถเหล่านี้แทบไม่มีเลขไมล์ ไม่มีเจ้าของเดิม ไม่มีประวัติอะไร มีแต่เอกสารและกลิ่นอายบางอย่างที่ดูเหมือนเป็นการทุจริตเกี่ยวกับเงินอุดหนุนของรัฐในราคาถูกเกินจริง
วิธีที่ว่ากันว่าทำกันก็คือ
ผู้ผลิตรถยนต์ต้องการปั๊มยอดขายรายเดือนให้สูงขึ้น ก็จะ “ขาย” รถ (อย่างน้อยก็แค่บนกระดาษ) ให้กับดีลเลอร์หรือพันธมิตรรายอื่น ๆ แล้วก็นำทะเบียนปลอมมาติดรถ หวังจะใช้สิทธิ์เงินอุดหนุนจากรัฐบาล และจากนั้นก็ลักไก่ส่งรถเหล่านี้เข้าสู่ตลาดรถมือสอง ซึ่งก็จะถูกประกาศขายเป็นรถมือสองทั้งที่จริงๆ แล้วยังใหม่แกะกล่องเลย ผู้ผลิตก็ได้ยอดขายเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคก็ได้รถราคาถูกลง ดูเหมือนจะ Win-Win ซะด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนไม่ผิดกฎหมายชัดเจน แต่อย่าลืมว่ามีใครบางคนต้องจ่ายเงินบางส่วนเองเพื่อให้รถราคาถูกลง และการเอาเปรียบเงินอุดหนุนแบบนี้ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลของจีนต้องตามสืบหาความผิดปกติ หน่วยงานกระทรวงพาณิชย์จีนจึงอยากรู้ความจริง และอาจจะต้องยุติพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสนี้
วี เจี้ยนจวิน ซีอีโอของ Great Wall Motors เพิ่งพูดถึงปัญหานี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเปรียบเทียบความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่ล้นตลาดตอนนี้เหมือนกับกรณีบริษัท Evergrande ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้ท่วมตลาดในจีน
“ตอนนี้ Evergrande ในอุตสาหกรรมรถยนต์ก็มีอยู่แล้ว แต่มันยังไม่ล้มสักที” วีให้สัมภาษณ์กับ Sina Finance
ตามที่วีกล่าว มีดีลเลอร์รถยนต์มากถึง 4,000 รายที่ร่วมมือกับกลโกงเลขไมล์ศูนย์นี้—โดยรถจำนวนมากถูกนำไปขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ มีการกล่าวหาว่ายอดขายที่ได้มาจากวิธีนี้ทำให้บางแบรนด์ใหญ่ในตลาด EV ของจีนดูมีอำนาจเหนือกว่าคู่แข่ง แม้ว่ากระทรวงฯ จะไม่ได้ตั้งชื่อแบรนด์ใดชัดเจน แต่ก็เชิญ BYD, Dongfeng, สมาคมดีลเลอร์รถยนต์จีน, สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน และแพลตฟอร์มออนไลน์บางแห่งเข้าร่วมประชุมสอบสวนเรื่องนี้ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่พูดกับ Reuters
สรุปง่ายๆ ก็คือ: เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนสติ๊กเกอร์หรือยอมรับขาดทุนเล็กน้อย มันสะท้อนถึงตลาดรถยนต์ที่ถูกบีบจนตึงตัวจากการผลักดันเงินอุดหนุนแบบจัดเต็มผสมกับการแข่งขันที่รุนแรง ผู้ผลิตรถยนต์ถูกกดดันให้ต้องโตขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้เรากำลังเห็นการแข่งขันแบบลดราคาจนถึงจุดต่ำสุด
ระบบนี้กำลังผลิตรถมือสองเลขไมล์ศูนย์ออกมาเหมือนร้านขายของลดราคาที่กำลังระบายของเกินสต็อก นี่อาจจะดีสำหรับผู้บริโภคที่อยากได้รถถูกๆ สักคัน แต่ก็เป็นสัญญาณที่บอกถึงปัญหาใหญ่ของความยั่งยืนในตลาดรถยนต์จีน
เงินอุดหนุนและมาตรการสนับสนุนสำหรับผู้ผลิต EV
-
เงินอุดหนุนการผลิตและการส่งออก: รัฐบาลจีนได้มอบเงินอุดหนุนโดยตรงให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการให้กู้ยืมดอกเบี้ยต่ำและการจัดหาสินเชื่อเพื่อการส่งออกจากธนาคารของรัฐ นอกจากนี้ยังมีการลดหย่อนภาษี เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีนำเข้า/ส่งออก เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตจีนในตลาดโลก
-
เงินอุดหนุนรวมกว่า 230,800 ล้านดอลลาร์: ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2024 รัฐบาลจีนได้ลงทุนอย่างน้อย 230,800 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.57 ล้านล้านบาท) ในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็น 18.8% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว
- การสนับสนุนด้านที่ดินและพลังงาน: ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายังได้รับการสนับสนุนในด้านการจัดหาที่ดินสำหรับการก่อสร้างโรงงานในราคาถูก รวมถึงการจัดหาพลังงานไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผลิต