รวมภาพคันจริง DENZA B5 ในออสเตรเลีย คาดราคา 1.49 ล้านบาท ลุ้นขายไทยเช่นกัน

Denza B5 2026 — พลังหรูสไตล์ใหม่จาก BYD สู่เวทีออสเตรเลีย “เมื่อ BYD จับมืออดีตพันธมิตรอย่าง Mercedes-Benz ปั้นแบรนด์ลูกหรู ลุยตลาด SUV ออฟโรดระดับพรีเมียม”
หากพูดถึงชื่อ “Denza” หลายคนอาจยังไม่คุ้นนัก แต่แบรนด์นี้ถือกำเนิดจาก การร่วมทุนระหว่าง BYD และ Daimler AG (เจ้าของแบรนด์ Mercedes-Benz) ตั้งแต่ปี 2010 จุดประสงค์คือการสร้างแบรนด์รถพลังงานไฟฟ้าระดับหรูที่ผสมผสาน “ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของ BYD” เข้ากับ “DNA ความหรูเยอรมันของ Mercedes”
ช่วงแรก Denza เน้นตลาดในจีน แต่ในปี 2025 BYD ได้ปรับยุทธศาสตร์ใหม่ เปิดเส้นทาง “Den za Global Expansion” เพื่อให้แบรนด์นี้กลายเป็นแขนหรูที่พร้อมชนค่ายยุโรปในตลาดต่างประเทศ และประเทศแรกที่ Denza จะใช้เป็น “สมรภูมิทดลอง” ก็คือ ออสเตรเลีย — ดินแดนที่คนรักรถออฟโรด และชื่นชอบเครื่องแรงทนถึก
| รายการ | ค่า (มม.) |
|---|---|
| ความยาว (Length) | 4,888 – 4,921 มม. |
| ความกว้าง (Width) | 1,970 มม. |
| ความสูง (Height) | 1,920 – 1,930 มม. |
| ระยะฐานล้อ (Wheelbase) | 2,800 มม. |
| ความสูงจากพื้น (Ground Clearance) | 220 – 310 มม. (ปรับได้ในรุ่น Leopard) |
| น้ำหนักตัว (Kerb Weight) | 3,007 กก. |
| ความจุห้องเก็บสัมภาระ (Cargo Capacity) | 470 – 1,064 ลิตร |
ความเหลี่ยมที่มีสไตล์
Denza B5 มาในสไตล์ “Boxy Luxury Off-roader” ตัวถังทรงเหลี่ยมแต่เนี๊ยบ คล้ายแนวทางของ Land Rover Defender และ Mercedes-Benz G-Class ฝากระโปรงยกสูง เส้นสายตั้งฉาก เสริมด้วยคิ้วซุ้มล้อขนาดใหญ่และกันชนเหล็กดูแข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกัน รายละเอียดการตกแต่ง เช่น ไฟหน้า LED เรียงแนวตั้ง, เส้นโครเมียมรอบกระจก, และ โลโก้ Denza แบบเรืองแสง ก็บอกชัดว่านี่คือ SUV หรู ไม่ใช่รถลุยป่าธรรมดา
ห้องโดยสาร หรู แต่แฝงกลิ่นอายออฟโรด
เปิดประตูเข้าไป สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ “บรรยากาศหรูแต่ไม่ฟุ่มเฟือย” แดชบอร์ดทรงเหลี่ยมตั้งตรง คล้ายค็อกพิตของ G-Class แต่ใช้วัสดุหนังเย็บตะเข็บคู่ทั่วห้องโดยสาร แซมด้วยอะลูมิเนียมและโครเมียมแบบพอดีตา
-
จอคู่ 12.3 นิ้ว (ผู้ขับ) และ 15.6 นิ้ว (จอหมุนกลาง)
-
เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าทั้งหมด พร้อมระบบทำความร้อนและระบายอากาศ
-
หลังคากระจก Panoramic Glass
-
ระบบเสียงรอบทิศทาง พร้อมกระจกกันเสียงสองชั้น
บรรยากาศภายในให้อารมณ์ “พรีเมียมแบบเรียบเย็น” — ไม่เน้นความหรูโอ่อ่าแบบยุโรป แต่เน้นความสะดวกสบายและทันสมัยในแบบจีนยุคใหม่
ปลั๊กอินไฮบริด ที่แรงเท่าซูเปอร์คาร์
เครื่องยนต์ & มอเตอร์ไฟฟ้า
-
เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ทำหน้าที่หลักในการเป็น “เครื่องชาร์จ” และช่วยขับเคลื่อนได้เมื่อจำเป็น
-
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (หนึ่งตัวอยู่หน้ารถ + หนึ่งตัวอยู่หลัง)
-
มอเตอร์หน้า: 200 กิโลวัตต์ หรือ 271 PS
-
มอเตอร์หลัง: 285 กิโลวัตต์ หรือ 387 PS
-
-
รวมพละกำลังสูงสุด: 505 กิโลวัตต์ หรือ 686 PS และแรงบิด 760 นิวตันเมตร
-
แบตเตอรี่แบบ LFP (BYD Blade) ขนาด 31.8 kWh
-
ระบบส่งกำลัง: e-CVT พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD
-
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ประมาณ 4.8 วินาที
-
ชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 100 kW
ระบบช่วงล่าง DiSus-P ที่ยกสูงได้ 310 มม.
สิ่งที่ทำให้ Denza B5 โดดเด่นเหนือ SUV ปลั๊กอินทั่วไปคือระบบ ช่วงล่างไฮดรอลิก DiSus-P ที่ปรับระดับได้ตั้งแต่ 220–310 มม.
นอกจากนี้ยังมี
-
โหมดขับขี่ 16 รูปแบบ ตั้งแต่โหมดหิมะ, ทราย, โคลน, หิน, ไปจนถึงโหมดอัตโนมัติ (Adaptive Mode)
-
เกียร์ 4L Low-range สำหรับปีนเขาหรือหล่มโคลน
-
ดิฟล็อกหน้า–หลังไฟฟ้า สำหรับควบคุมแรงบิดล้อแยก
-
มุมเงย 39°, มุมจาก 35°, มุมข้ามเนิน 27°
จากการทดสอบในสนาม Lang Lang Proving Ground ที่รัฐวิกตอเรีย Denza B5 สามารถปีนทางชันและทางโคลนได้อย่างมั่นใจ แม้จะหนักถึง 3 ตันก็ตาม
ลากได้ 3 ตัน แต่ยังไม่มีเบาะแถวสาม
ทั้ง B5 และ B5 Leopard สามารถลากจูงได้สูงสุด 3,000 กก. พร้อมหัวลากและปลั๊ก 12 พินติดตั้งจากโรงงาน อย่างไรก็ตาม จุดด้อยที่เห็นชัดคือ ไม่มีเบาะแถวสาม ทำให้เหมาะกับผู้ใช้แบบคู่รักหรือครอบครัวเล็ก
หากต้องการ SUV 7 ที่นั่ง ต้องรอรุ่นใหญ่ Denza B8 ที่จะเปิดตัวปีหน้า
ความปลอดภัย เต็มพิกัดระดับยุโรป
แม้ยังไม่มีผลทดสอบ ANCAP หรือ Euro NCAP แต่ Denza ระบุว่า B5 มาพร้อมเทคโนโลยี ADAS ระดับ 2 เช่น
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- เตือนจุดอับสายตา
- กล้อง 360°
- ถุงลมรอบคัน 11 ตำแหน่ง
การบำรุงรักษาและรับประกัน
คาดว่าจะใช้เงื่อนไขเดียวกับ BYD ทั่วโลก ได้แก่
- รับประกันรถทั้งคัน 6 ปี หรือ 150,000 กม.
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม.
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 12 เดือน (ขยายต่อเมื่อเข้าศูนย์)
ผู้ท้าชิง SUV ออฟโรดหรูยุคใหม่
Denza B5 ไม่ใช่แค่รถ SUV ไฮบริดแรงๆ อีกคัน แต่มันคือ “ภาพสะท้อนของวิวัฒนาการ BYD” — จากผู้ผลิตรถไฟฟ้าราคาเข้าถึงได้ สู่แบรนด์ที่กล้าชน Toyota Prado, Ford Everest และแม้แต่ Land Rover
ในมุมหนึ่ง มันคือการประกาศว่า “จีนไม่ใช่แค่ผู้ตามอีกต่อไป” แต่พร้อมจะ “ตั้งวงแข่ง” กับเจ้าตลาดยุโรปในสนามออฟโรดระดับหรู และหากราคาเปิดตัวในออสเตรเลียอยู่ในช่วง 70,000 ดอลลาร์ หรือ 1.49 ล้านบาท จริง Denza B5 อาจกลายเป็นหนึ่งใน SUV ที่เขย่าตลาดเร็วที่สุดในปี 2026
