
Fisker สร้างความฮือฮาอย่างมากในวันนี้ระหว่างงาน Product Vision Day 2023 ด้วยการเปิดเผยรถยนต์ไฟฟ้าใหม่สี่คัน หนึ่งในนั้นคือรถยนต์กระบะไฟฟ้า Fisker Alaska
CEO Henrik Fisker เรียกรถกระบะรุ่นนี้ว่า“Ferrari แห่งรถปิคอัพ”โดยมุ่งเป้าหมายไปที่รถปิคอัพหรูที่ใช้ไฟฟ้าล้วนที่ประสบความสำเร็จอื่นๆ โดยสามารถแข่งขันกับ Rivian R1T , Tesla Cybertruck และ Ford F-150 Lightning
Alaska สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมของ The Ocean ได้รับการยืดออกเล็กน้อย บริษัทกล่าวว่ารถปิคอัพ EV จะผลิตโดยบริษัท Magna Steyr ผู้ผลิตสัญญายานยนต์ในยุโรปที่โรงงานแห่งเดียว
Alaska ติดตั้งแบตเตอรี่สองแบบที่แตกต่างกัน โดยมีความจุ 75 กิโลวัตต์ชั่วโมงและ 113 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 370 – 547 กม./ชาร์จ WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.9 และ 7.2 วินาที
สำหรับกระบะท้ายพร้อมขยายช่วงกระบะจาก 4.5 ฟุตเป็น 7.5 ฟุต และติดตั้งช่องเก็บของต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น ความสามารถของกระบะท้ายที่ขยายได้เป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจซึ่งอาจดึงดูดใจชาวแคมป์ หน้าต่างด้านหลังของห้องโดยสารและผนังด้านหลังสามารถลดลงได้ ทำให้ห้องโดยสารสามารถเปิดได้จนถึงกระบะรวมๆ 9.6 ฟุต เมื่อประตูท้ายลง
Henrik Fisker กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ TechCrunch ว่าบริษัทกำลังพิจารณาที่จะเพิ่ม ออฟชั่นต่างๆ สำหรับรถบรรทุก Alaska เพื่อแข่งขันกับ Rivian R1T ซึ่งเป็นรถปิคอัพที่ขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์เสริมที่รอบคอบ เช่น ไฟฉายที่ซ่อนอยู่ บลูทูธ ลำโพง อื่นๆ
นอกจากนี้ยังมาการเผยแพร่ภาพอย่างเป็นทางการของภายในห้องโดยสารพร้อมหน้าจอสัมผัสระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ในแนวตั้ง ข้างหน้ามี “ที่วางแก้วน้ำ” ขนาดใหญ่บนคอนโซลกลาง และถัดจากถาดผู้โดยสารแบบขยายได้ซึ่งซ่อนอยู่ใต้แดชบอร์ดที่ทันสมัย เบาะนั่งมีลักษณะแทรกแบบหนังกลับและมีกระเป๋าที่ด้านหลัง
Fisker กล่าวว่า Alaska จะออกวางตลาดในปี 2024 และมีราคาเริ่มต้นที่ 45,400 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.60 ล้านบาท Fisker กล่าวว่า Alaska มีแนวโน้มที่จะมีสิทธิ์ได้รับเครดิตภาษีของรัฐบาลกลางที่สามารถลดราคาเริ่มต้นลงเหลือจะมีราคา 37,900 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.34 ล้านบาท การจอง Fisker Alaska เปิดขึ้นในเย็นวันนี้โดยมีการส่งมอบในช่วงปี 2025 ตามข้อมูลของ บริษัท
Fisker ยังคงเป็นแบรนด์ใหม่ และ ยังไม่บรรลุตามสัญญาการผลิตสำหรับ Ocean ซึ่งเป็น BEV รุ่นแรก ทำให้แบรนด์พลาดเป้าหมายการผลิตทั้งไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ปี 2023 ในขณะที่ผลขาดทุนจากการดำเนินงานยังคงเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 เท่ากับ 120 ล้านดอลลาร์ ด้วย EV ใหม่สามรุ่นที่กำลังจะมาถึง จึงเป็นการยากที่บริษัทจะสามารถผลิตได้ทันที และ การให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการผลิต ต้องสร้างความน่าเชื่อถือมากกว่านี้อีกมาก รวมทั้งเงินทุนก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินงาน ดังนั้นเราต้องมาติดตามกันอีกครั้ง
Techcrunch.com/ รอยเตอร์/ insideev