เปิดจองอินโดฯ 2.2 ล้านบาท Hyundai Palisade Hybrid 2.5 ลิตร 258 แรงม้า PS

ฮุนได มอเตอร์ อินโดนีเซีย (HMID) เปิดให้จอง Hyundai Palisade Hybrid รุ่นใหม่ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้ รถ SUV ขนาดใหญ่จากเกาหลีใต้รุ่นนี้ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ที่มองหารถยนต์ที่ทั้งกว้างขวาง หรูหรา ขับขี่สบาย และประหยัดน้ำมันด้วยระบบขับเคลื่อนไฮบริดรุ่นล่าสุด เปิดจองในอินโดฯ IDR : 1,100,0000,000 หรือประมาณ 2.2 ล้านบาท
สำหรับตลาดอินโดนีเซีย Hyundai Palisade Hybrid มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- Signature: รุ่นพื้นฐานที่เน้นความคุ้มค่าและฟีเจอร์หลักครบครัน
- Calligraphy: รุ่นกลางที่เพิ่มความหรูหราและเทคโนโลยีมากขึ้น
- Calligraphy AWD: รุ่นท็อปสุดพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ทั้งสามรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่ครอบครัวที่ใช้งานในเมืองไปจนถึงผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางระยะไกลในสไตล์อเนกประสงค์
ขนาดตัวถัง
- ความยาว: 5,065 มม.
- ความกว้าง: 1,981 มม.
- ความสูง: 1,765 มม.
- ระยะฐานล้อ: 2,969 มม.
ขุมพลังไฮบริดเจเนอเรชันใหม่
จุดเด่นที่สุดของ Hyundai Palisade Hybrid รุ่นใหม่นี้คือการใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดของ Hyundai Motor Group ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการและจะถูกนำไปใช้ในรถยนต์หรูของแบรนด์ Genesis ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วย
- เครื่องยนต์เบนซิน: 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.5 ลิตร (2,497 ซีซี) พร้อมระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Gasoline Direct Injection (GDI) และเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 353 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,500 รอบ/นาที
- มอเตอร์ไฟฟ้า: 2 ตัว
- กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ: 329 แรงม้า
- แรงบิดรวมสูงสุดทั้งระบบ: 460 นิวตันเมตร
- แบตเตอรี่: ลิเธียมไอออน ความจุ 1.65 kWh
- ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
- ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ HTRAC AWD
ฮุนไดเคลมว่าระบบไฮบริดใหม่นี้สามารถเพิ่ม ประสิทธิภาพเชื้อเพลิงได้มากถึง 45% เมื่อเทียบกับระบบไฮบริดรุ่นก่อนหน้า โดยเครื่องยนต์ใหม่มีการปรับปรุงหลายจุด เช่น ระบบฉีดเชื้อเพลิงใหม่, ลูกสูบดีไซน์ใหม่ และระบบหมุนเวียนไอเสียที่พัฒนาเพื่อใช้ร่วมกับระบบไฮบริด
ความมุ่งมั่นของ Hyundai ในตลาดอินโดนีเซีย
Ju Hun Lee ประธานกรรมการบริหารของ HMID ระบุว่า บริษัทต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าชาวอินโดนีเซียได้สัมผัสรถ SUV ขุมพลังไฮบริดที่ทั้งสะดวกสบาย ประหยัดพลังงาน และเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี “เรามั่นใจว่า Palisade Hybrid จะเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ครอบครัวชาวอินโดนีเซีย ที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่พร้อมระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
Fransiscus Soerjopranoto ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ HMID เสริมว่า Palisade ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคชาวอินโดนีเซีย และเวอร์ชันไฮบริดใหม่นี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมผู้ใช้ที่ต้องการเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมากขึ้น
Hyundai Palisade Hybrid ถือเป็นหมากสำคัญของฮุนไดในการรุกตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานทางเลือกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน คาดว่าหลังจากเปิดตัวในอินโดนีเซียแล้ว อาจมีการขยายตลาดต่อไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค รวมถึงประเทศไทยในอนาคตอันใกล้
ระบบความปลอดภัย Hyundai Palisade Hybrid 2026
ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety)
- ถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง: ครอบคลุมผู้โดยสารทุกแถว ได้แก่
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับคนขับและผู้โดยสาร
- ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้าและหลัง
- ถุงลมนิรภัยตรงกลางด้านหน้า (Center Airbag)
- ถุงลมนิรภัยหัวเข่าสำหรับคนขับ (Driver’s Knee Airbag)
- ถุงลมนิรภัยม่านด้านข้างแบบเต็มความยาว ครอบคลุมถึงเบาะแถวที่สาม
- เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pretensioner Seatbelts): สำหรับผู้โดยสารทุกแถว เพื่อกระชับร่างกายให้มั่นคงเมื่อเกิดการชน
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ Hyundai SmartSense (ADAS)
Palisade Hybrid 2026 มาพร้อมชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ SmartSense ที่มีการอัปเกรดใหม่ ได้แก่
- ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า (Forward Collision-Avoidance Assist – FCA): พร้อมการตรวจจับคนเดินถนน, จักรยาน และรถที่วิ่งสวนมาในทางแยก ระบบจะเตือนและช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจพบความเสี่ยง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control – ACC) พร้อม Stop & Go: รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ และสามารถหยุดรถและออกตัวตามได้
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกับระบบนำทาง (Navigation-based Smart Cruise Control – NSCC): ช่วยขับขี่ด้วยความเร็วที่ปลอดภัยบนทางหลวง โดยคำนึงถึงเขตจำกัดความเร็ว, ทางโค้ง และทางแยกตามข้อมูลจากระบบนำทาง
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane Keeping Assist – LKA): ช่วยให้รถอยู่ในช่องจราจร
- ระบบช่วยรักษาตำแหน่งรถในเลน (Lane Centering Feature): ช่วยให้รถอยู่กึ่งกลางเลน
- ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง 2 (Highway Driving Assist 2 – HDA 2): ช่วยรักษาระยะห่างและความเร็วจากรถคันหน้าบนทางหลวง รวมถึงในทางโค้ง และสามารถเปลี่ยนเลนอัตโนมัติเมื่อเปิดไฟเลี้ยวและจับพวงมาลัย
- ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind-Spot Collision Warning – BCW) และ ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนในจุดอับสายตา (Blind-Spot Collision-avoidance Assist – BCA): เตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อหลีกเลี่ยงการชนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา
- ระบบกล้องมองภาพจุดอับสายตา (Blind-Spot View Monitor – BVM): แสดงภาพจากกล้องบริเวณจุดอับสายตาบนหน้าจอเมื่อเปิดไฟเลี้ยว
- ระบบช่วยออกจากรถอย่างปลอดภัย (Safe Exit Assist – SEA) และ ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง (Safe Exit Warning – SEW): ป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง และสามารถล็อกประตูอัตโนมัติเพื่อป้องกันเด็กเปิด
- ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนขณะถอยจอด (Reverse Parking Collision-Avoidance Assist – PCA): เตือนและเบรกอัตโนมัติหากตรวจพบวัตถุด้านหลังเมื่อถอยรถ
- ระบบเตือนการสนใจด้านหน้า (Driver Attention Warning – DAW): ตรวจจับและเตือนเมื่อผู้ขับขี่มีอาการง่วงนอนหรือไม่ตั้งใจขับขี่
- ระบบช่วยปรับไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA): ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติเพื่อไม่ให้รบกวนรถคันอื่น
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Surround View Monitor – SVM): แสดงภาพรอบคัน 360 องศา ช่วยให้การจอดรถและถอยรถเป็นไปอย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น
- กล้องติดหน้ารถแบบ Dual-camera Dash Cam (ในบางรุ่น/ตลาด): กล้องบันทึกภาพหน้า-หลังในตัว สามารถบันทึกต่อเนื่องขณะขับขี่ และบันทึกอัตโนมัติเมื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวขณะจอดรถ
- ระบบเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Advanced Rear Occupant Alert): ตรวจจับการเคลื่อนไหวของเด็กในเบาะหลังและเตือนผู้ขับขี่เมื่อออกจากรถ หากยังมีการเคลื่อนไหวหลังล็อกรถ ระบบจะส่งเสียงแตรและแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟน