MG 4 อัปเดต “ภายในใหม่” ในบราซิล ยกชุดจาก MG S5 EV ย้ายปุ่มเกียร์ จอใหญ่ขึ้น เพิ่มสวิตช์จริง เน้นใช้งานง่ายกว่าเดิม

MG 4 อัปเดต “ภายในใหม่” ยกชุดจาก MG S5 EV ย้ายปุ่มเกียร์ จอใหญ่ขึ้น เพิ่มสวิตช์จริง เน้นใช้งานง่ายกว่าเดิม
MG เริ่มแก้ “จุดที่โดนบ่นหนัก” ของ MG 4 แฮทช์แบ็กไฟฟ้าขนาดเล็ก ด้วยการเปิดเผยห้องโดยสารโฉมใหม่ในตลาดบราซิล โดยดีไซน์และการจัดวางอุปกรณ์ภายในถูกยกมาจาก MG S5 EV ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกัน
อัปเดตครั้งนี้ “ภายนอกแทบไม่แตะ” แต่ภายในเปลี่ยนคนละเรื่อง
ข้อมูลจากเว็บไซต์ MG ในบราซิลระบุว่า MG 4 เวอร์ชันขับเคลื่อนล้อหลัง/ขับเคลื่อนสี่ล้อได้รับการอัปเดตหลัก ๆ ที่ ห้องโดยสาร ขณะที่ตัวถังภายนอกยังคงภาพเดิม ไม่มีการปรับหน้าตา รวมถึงไม่มีการเปลี่ยนลวดลายล้อใหม่แม้จะเป็นการอัปเดตช่วงกลางอายุรุ่น โดยล้อของรุ่นก่อนหน้า (เช่น Essence และ XPower) ถูกนำมาใช้ต่อ
จุดน่าสนใจคือบราซิลเป็นตลาด พวงมาลัยซ้าย และจนถึงตอนนี้ ห้องโดยสารใหม่ยังไม่ถูกแสดงบนเว็บไซต์ของตลาดส่งออก พวงมาลัยขวา ทำให้แฟน ๆ ในหลายประเทศต้องจับตาว่า “อัปเดตนี้จะตามมาเมื่อไร”

ไฮไลต์การเปลี่ยนแปลง ย้ายปุ่มเกียร์ + จอใหญ่ขึ้น + ปุ่มกดจริงกลับมา
โครงสร้างแผงคอนโซลหน้าเปลี่ยนไปชัดเจน โดยตัด “ชั้นวาง” ที่เคยยื่นสูงขึ้นมาและเป็นตำแหน่งของปุ่มเกียร์แบบหมุนออกไป ส่งผลให้บรรยากาศภายในดูโล่ง ใช้งานเป็นสัดส่วนมากขึ้น
สิ่งที่เปลี่ยนหลัก ๆ
- ตัดชั้นวางสูง ที่เคยเป็นเอกลักษณ์ และทำให้หลายคนรู้สึกเกะกะสายตา
- ย้ายปุ่มเกียร์แบบหมุน ลงมาอยู่ที่คอนโซลกลาง ใกล้แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย
- อัปเกรดหน้าจอ เรือนไมล์ดิจิทัล จาก 7.0 นิ้ว เป็น 10.25 นิ้ว
- อัปเกรดหน้าจอ อินโฟเทนเมนต์ จาก 10.25 นิ้ว เป็น 12.8 นิ้ว
- เพิ่มแถว สวิตช์/ปุ่มกดจริง ใต้จอ พร้อมปุ่มหมุนที่คาดว่าใช้ควบคุม พัดลม และ ระดับเสียง เพื่อให้ปรับได้เร็วโดยไม่ต้องจิ้มจอ
ในภาพจากเว็บไซต์บราซิลยังโชว์ตัวเลือกสีห้องโดยสารทั้ง สีดำ และ สีแทนอ่อน ซึ่งทำให้บรรยากาศดู “นุ่ม” และชวนใช้งานมากขึ้นกว่าความสปอร์ตเข้มแบบเดิม
หมายเหตุ: ยังไม่ชัดเจนว่าตลาดอื่นจะได้สีอ่อนหรือไม่ เพราะ MG 4 ที่จำหน่ายในออสเตรเลีย ณ ตอนนี้มีเฉพาะภายในสีดำ
คล้าย MG 4 รุ่นใหม่ (FWD) ที่จะมาในปี 2026 แต่ยังมีจุดต่าง
ห้องโดยสารโฉมใหม่นี้มีแนวทางใกล้เคียงกับ MG 4 รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเจเนอเรชันใหม่ที่มีกำหนดทำตลาดออสเตรเลียช่วง ไตรมาส 2 ปี 2026 แต่ยังมีรายละเอียดต่างกัน เช่น ขนาดหน้าจอบางจุด การบูรณาการเรือนไมล์เข้ากับแผงหน้าปัด และรูปแบบสวิตช์ควบคุม
ในบางประเทศ MG 4 รุ่นใหม่อาจ “เข้ามาแทน” รุ่นเดิม แต่ในออสเตรเลียแนวโน้มคือรุ่นทรงโค้งใหม่จะถูกวางให้เป็น รุ่นเริ่มต้น ส่วน MG 4 รุ่นปัจจุบันจะยืนเป็นรุ่น “สเปกสูงกว่า”
ทำไมการเปลี่ยนภายในครั้งนี้ถึงสำคัญ?
ในตลาดรถไฟฟ้ากลุ่มแฮทช์แบ็ก/คอมแพ็ค EV การตัดสินใจของลูกค้ามักชี้ขาดด้วย “ประสบการณ์ในห้องโดยสาร” ไม่แพ้ระยะทางวิ่งหรือสมรรถนะ โดยเฉพาะประเด็นที่ถูกพูดถึงบ่อย เช่น
- การจัดวางคอนโซลที่ใช้งานจริงสะดวกหรือไม่
- การมีปุ่มกดจริงสำหรับฟังก์ชันพื้นฐาน (แอร์/เสียง) ช่วยลดความรำคาญเวลาใช้งาน
- ขนาดและความอ่านง่ายของจอเรือนไมล์/จอกลาง
ดังนั้นการย้ายปุ่มเกียร์ ลดชิ้นส่วนยื่นสูง และเพิ่มสวิตช์จริง จึงเป็นการ “แก้จุดปะทะในชีวิตประจำวัน” ที่ลูกค้าเจอบ่อยที่สุด
สรุป MG 4 ภายในใหม่คือการอัปเกรดที่ “ตรงจุดใช้งาน” และน่าจะตามมาในหลายตลาด
MG 4 เวอร์ชันอัปเดตในบราซิลอาจไม่มีของเล่นเพิ่มด้านกำลัง แต่การปรับห้องโดยสารครั้งนี้ชัดเจนว่าเน้น “ทำให้ใช้แล้วสบายขึ้น” ตั้งแต่การย้ายปุ่มเกียร์ ลดชิ้นส่วนเทอะทะ อัปจอให้ใหญ่ขึ้น ไปจนถึงการเพิ่มปุ่มกดจริงที่คนจำนวนมากเรียกร้อง
หากอัปเดตนี้ถูกขยายไปยังตลาดพวงมาลัยขวา จะเป็นหนึ่งในไมเนอร์เชนจ์ที่ “เปลี่ยนอารมณ์รถ” ได้มากที่สุดของ MG 4 ตั้งแต่เปิดตัว และมีโอกาสช่วย MG รักษาฐานในตลาดคอมแพ็ค EV ที่แข่งขันดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ
